"ทำบุญด้วยอะไร"

“พวกเราทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะในเกมนี้แล้ว เราครองเกมอยู่หมัดแต่แล้วนาทีสุดท้ายของเกมเรากลับเสียประตูมันเป็นอะไรที่บ้าจริงๆ”

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โอดครวญกับสิ่งที่ตนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาหลังจบเกมอีกหนึ่งอันน่าผิดหวังที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ว่ากันว่าสกอร์นั้นไม่เคยโกหกใคร ถึงสถิติจะฟ้องอยู่ทนโธ่ว่า “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสยิงไม่ต่ำกว่า 27 ครั้งตรงข้ามกับผู้มาเยือนที่ได้โอกาสสับยิงแค่ 5 ดอก...

แต่แล้วทุกอย่างกับจบลงด้วยการแชร์กันไปทีมละหนึ่งคะแนน...ครับ...บางครั้ง ”โลกนี้ก็ช่างโหดร้าย”!

อุตส่าห์ทำทุกวิถีทางแบบที่ “เป๊ป” ว่าเอาแล้วจริงๆตลอดทั้งเกม แมนฯ ซิตี้ สาดกระหน่ำใส่ มิดเดิ้ลสโบรช์ ไม่มียั้ง พวกเขาแทบพับสนามบุกทว่าผลที่ได้รับกลับลงเอยด้วยความเจ็บแสบ

เกมนี้ “เรือใบสีฟ้า” มีโอกาสมากมายโดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรกที่ กุน อเกวโร่ ได้โอกาสสังหารแต่ก็ติดเซฟของ บิคตอร์ บัลเดส ไปทั้งหมด กระทั่งนาทีที่ 43 แล้วประตูแรกของเกมก็บังเกิด...

หลังพยายามอยู่นานในที่สุด ซิตี้ ก็ปลดล็อกสำเร็จ เป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่เปิดให้ อเกวโร่ สอดมาโฉบดีดด้วยเกือกซ้ายเข้าประตูไป

ช็อตนี้ต้องชมวิสัยทัศน์ของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่สุดแสนจะกว้างไกลเหลือเกิน ลูกเปิดตัดเกมรับลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ เดอ บรอยน์ พิสูจน์ให้เราได้เห็นว่ายามที่ทีมนั้นต้องการที่พึ่ง ชื่อของเขาจะโผล่มาเป็นอันดับแรกเสมอ

เช่นเดียวกับในครึ่งเวลาหลังที่ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสนับไม่ถ้วน กว่าครั้งแล้วครั้งเล่าที่ “เศรษฐีอาหรับ” ได้โอกาสแต่ก็เป็น บิคตอร์ บัลเดส ที่วันนี้สวมบทพระเอกเซฟชีวิต “โบโร่” ไปได้หลายครั้งหลายครา

เกมนี้หากจะว่ากันตามตรงแม้หมากที่ การันก้า เตรียมมานั้นจะพอเดาได้ว่า “สิงห์แดง” ต้องมาเน้นเกมอุดเป็นแน่แท้ทว่าว่ากันตามตรงสูตรสำเร็จของโค้ชชาวสเปนนั้น “ไม่ค่อยได้ผล” เท่าไหร่

คู่กลางอย่าง คาลั่ม แชมเบอร์ส และ เบน กิ๊บสัน โดนเจาะเป็นพัลวันเช่นเดียวกับฝั่งซ้ายอย่าง จอร์จ เฟรนด์ ที่แทบผ่านตลอดทว่าก็เป็น บัลเดส ที่แบกทีมตลอด 90 นาที

กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีแรก เหมือนกับโชคชะตาจะเล่นตลกไปเลิก ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เตรียมที่จะปิดเกมจู่ๆ มิดเดิ้ลสโบรห์ ก็อาศัยลูกฉาบฉวยของ จอร์จ เฟรนด์ ที่เปิดเข้ากลางให้ มาร์เท่น เด รูน โถมโขกเข้าไป

จังหวะนี้แน่นอนว่าไม่ต่างกับประตูสวรรค์สำหรับ “โบโร่” ในวันที่พวกเขาเล่นแย่เทพีแห่งโชคยังคงเข้าข้าง

กลับกันสำหรับ เป๊ป และ ลูกทีมแล้วพวกเขาไม่ต่างกับ “ตายทั้งเป็น” หลังบุกแทบตายสุดท้ายพวกเขามาพลาดแค่ดอกเดียวพร้อมโดนขโมย 3 แต้มหน้าตาเฉย สำคัญที่สุดนี่คือผลเสมอนัดที่ 3 ติดต่อกันของ “เรือใบสีฟ้า” แล้ว...

แม้โลกบังเอิญไม่เคยมีอยู่ในโลกแห่งฟุตบอลเนื่องจากเป็นพวกเขาเองที่พลาดท่าจบสกอร์กันไม่คมในหลายครั้งหลายหน ทว่าสำหรับเกมนี้คงต้องขอบอกว่า “ซวยซ้ำซวยซ้อน” จริงๆ...

อาจจะเจ๊าในบ้านสามเกมติดทว่ากับเกมนัดนี้พวกเขาสมควรจะคว้าชัยเหลือเกิน

ทำบุญด้วยอะไรหนอ...ช่างไร้วาสนาเหลือเกิน !