กกท.ฮึ่มบัวขาวชี้โทษขั้นยึดใบอนุญาตแต่ไม่ติดคุก

กกท.ฮึ่มบัวขาวชี้โทษขั้นยึดใบอนุญาตแต่ไม่ติดคุก

กกท.ฮึ่มบัวขาวชี้โทษขั้นยึดใบอนุญาตแต่ไม่ติดคุก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การกีฬาแห่งประเทศไทย ออกโรงใส่บัวขาวและผู้จัด เหตุฝืนขี้นเวทีศึกไทยไฟต์ รอเพียงเจ้าทุกข์เข้าร้องเรียน เบื้องต้นรอคณะกรรมการกีฬามวย เดินหน้าสอบสวนตามกระบวนการทันที ระบุไม่ถึงขั้นติดคุก มีโทษทั้งใบเหลืองยึดใบอนุญาตชั่วคราว 6เดือน และใบแดงยึดแบบไม่มีกำหนด

จากกรณีที่ บัวขาว ป.ประมุข ยอดนักชกชื่อดัง ฝืนขึ้นชกในศึกไทยไฟต์ ที่แหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันอังคารที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนัดดังกล่าว บัวขาว ชนะน็อค รัสเท็ม ชารีปอฟ จากรัสเซีย ในยกที่ 2ท่ามกลางความสะใจของแฟนมวยทั่วประเทศ โดยเจ้าตัวกล่าวหลังจากนั้นว่า ตนทำเพื่อชื่อเสียงของประเทศ แม้รู้ว่าวันรุ่งขึ้นต้องติดคุกก็ยอม
 
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถือว่าทั้งผู้จัด และนักชก ทำผิดพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542

ซึ่งเดิมทีเดียว ผู้จัดส่งหนังสือมาขออนุญาตกกท. จัดรายการดังกล่าว โดยที่มี บัวขาว ขึ้นชก แต่ทางค่ายป.ประมุข ได้แย้งเข้ามา ไม่ยินยอม กกท.จึงได้แจ้งไปทางผู้จัดว่าไม่สามารถทำได้ ซึ่งผู้จัดได้ส่งหนังสือมาอีกฉบับยืนยันว่าจะไม่มีบัวขาว ชก ทางกกท.จึงอนุญาตให้ชกได้

แต่ปรากฏว่า เมื่อถึงวันชก บัวขาวกลับขึ้นเวทีในฐานะนักชกสำรอง  ซึ่งถือว่าเป็นการทำผิดพรบ. เนื่องจากเจ้าของค่ายป.ประมุข ไม่ยินยอม โดยพรบ.กีฬามวย ข้อ 39 ระบุว่า

หากมีการฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามบทบัญญัติแห่งพรบ.นี้ ให้นายทะเบียนมีอำนาจเพิกถอนทะเบียนเป็นการชั่วคราว หรือสั่งพักใช้ใบอนุญาตได้ โดยมีกำหนดระยะเวลาที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินครั้งละ 6เดือน  ซึ่งผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต จะกระทำการใด ๆ ตามที่ได้รับจดทะเบียนหรือได้รับอนุญาตในระหว่างนั้นไม่ได้
 
ขณะที่ บัวขาว ในฐานะนักชก ที่ทางค่ายไม่อนุญาตให้ใช้ป.ประมุข ขึ้นชก ก็ถือว่าฝ่าฝืนพรบ.มวย ในส่วนของระเบียบคณะกรรมการกีฬามวยว่าด้วยการสังกัดและย้ายสังกัดค่ายมวยพ.ศ.2544 ข้อ 10

เมื่อเข้าสังกัดค่ายมวยตามระเบียบนี้แล้ว นักมวยมีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามกฎระเบียบของค่ายมวยที่ตนสังกัดอยู่ และจรรยาบรรณของนักมวยโดยเคร่งครัดและตกลงมอบให้หัวหน้าค่ายมวยมีอำนาจในการกำหนดแผนการฝึกซ้อม รวมถึงการฝึกซ้อม เพื่อเตรียมการแข่งขัน การเสนอชื่อเข้าร่วมการแข่งขัน การตกลงกำหนดเงินรางวัลในการแข่งขันร่วมกับผู้จัดรายการแข่งขัน และการทวงถาม การโต้แย้งสิทธิ์ต่าง ๆ แทนนักมวย

รวมไปถึงข้อ 11 นักมวยที่สังกัดค่ายมวยจะต้องเข้าแข่งขันในนามของค่ายมวยที่ตนสังกัด และใช้ชื่อแข่งขันตามที่กำหนดในสัญญาเท่านั้น กรณีที่นักมวยจะเข้าแข่งขันในนามอื่น เช่น ในนามผู้แทนชาติไทย หรือหน่วยงาน หรือการกุศลในพิธีสำคัญเป็นครั้งคราว ให้กระทำได้โดยความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้าค่ายมวยเท่านั้น
 
ทั้งนี้ในกรณีของนักมวยที่ฝ่าฝืนก็มีบทลงโทษในลักษณะเดียวกับผู้จัด คือ มีทั้งใบเหลือง ยึดใบอนุญาตการชกชั่วคราว 6เดือน และใบแดง ยึดแบบไม่มีกำหนด

ลิ้งค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง - ระอุแน่! กำนันแก๊ลั่นฟ้องบัวขาวแน่  ,  บัวขาวทุบมวยรัสเซียจอดป้ายยก2 พร้อมหลั่งน้ำตา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook