“เรื่องภาษี” ทำร้ายนักฟุตบอล

ถ้าจำกันได้สัปดาห์ที่แล้ว เขียนถึงเรื่องภาษีของนักฟุตบอลในลีกใหญ่ของยุโรปโดยเฉพาะลาลีกาของสเปนที่นักเตะดังอย่าง “ลีโอเนล เมสซี่” หรือ “เนย์มาร์” กลายเป็นจำเลยและถูกลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะเป็นการรอลงอาญาก็ตาม แต่เรื่องแบบนี้เชื่อว่าสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของนักเตะบ้างไม่มากก็น้อย

มาถึงตรงนี้ “คริสเตียนโน่ โรนัลโด้” กำลังถูกทางการเพ่งเล็งอยู่ซึ่งเป็นหน้าที่ของซุปเปอร์เอเย่นต์อย่าง “ฮฮร์เก้ เมนเดส” ที่กำลังเดินเรื่องพิสูจน์ความจริงว่า นักเตะที่เก่งที่สุดบนผืนปฐพีคนนี้ไม่ได้หลบเลี่ยงหรือหนีภาษีซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเจ้าตัวถ่ายโฮนทรัพย์สินไปยังหมู่เกาะบริติซ เวอร์จิ้น (เกาะที่คนไทยดังๆหลายคนมีทรัพย์สินหรือมีบริษัทเหมือนกัน)

ทำไมต้องเกาะนี้ เพราะบริษัทที่จดทะเบียนบนเกาะประเทศนี้ไม่ต้องเสียภาษีให้กับทางการ แต่ที่เหนือไปกว่านั้นคือเรื่องกฎหมายที่ให้การยกเว้นและคุ้มครองบรรดามหาเศรษฐีจากการถูกตรวจสอบเรื่องเงินๆทองๆ ตราบใดถ้าทรัพย์สินเป็นของนิติบุคลลในหมู่เกาะแห่งนี้

สำหรับ “โรนัลโด้” เอง ทาง “เมนเดส” ออกมาเปิดเผยจากเอกสารที่แสดงให้กับสรรพากรของสเปนว่ามีรายรับทั้งหมด 191 ล้านปอนด์ (เกือบหมื่นล้านบาท) แต่ที่น่าสนใจคือมีเพียง 19.8 ล้านปอนด์ (990 ล้านบาท) ที่เป็นรายได้จากค่าเหนื่อยกับสโมสร “เรอัล มาดริด” ที่หักภาษี ณ ที่จ่ายมาแล้วกับผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับทีม ในขณะที่อีก 171 ล้านปอนด์ (8.55 พันล้านบาท) เป็นรายได้นอกประเทศ

เรื่องนี้คงต้องรอการพิจารณาขอสรรพกากรและรัฐบาลสเปนว่าจะว่ายังไง แต่เรื่อง “ภาษี” ถือเป็นเรื่องนอกสนามที่เชื่อว่ากวนใจนักฟุตบอลไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่สำคัญไม่ใช่แค่ “โรนัลโด้” คนเดียว แต่นักเตะชื่อดังหลายคนกำลังถูกตรวจสอบ ยิ่งล่าสุดทางอัยการเมืองมาดริดสั่งยื่นฟ้อง “ชาบี้ อลองโซ่” “อังเคล ดิ มาเรีย” และ “ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่” อดีต 3 นักเตะของ “เรอัล มาดริด” ในข้อหาจงใจหลีกเลี่ยงภาษีหลังได้รับข้อมูลมาจากสรรพากรสเปน โดยทั้งสามคนใช้เอเยนซี่ในการจัดการเรื่องภาษีเดียวกันคือบริษัท “เกสติฟุต” (Gestifute) ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับ “โรนัลโด้” หรือพูดง่ายๆว่า เอเยนต์ของนักเตะ 3 คนที่ถูกฟ้องคือ “ฮอร์เก้ เมนเดส” นี้แหละ

ยิ่งไปกว่านั้น “ราดาเมล ฟัลเกา” กับ “ฟาบิโอ โคเอนทรา”ก็กำลังถูกสรรพากรไล่บี้เรื่องของภาษีเหมือนกันและมีแนวโน้มสูงที่จะถูกฟ้องด้วย

ถามว่าการจ่ายภาษีบรรดานักฟุตบอลเหล่านี้คงไม่ได้เป็นคนคิดอยู่แล้วว่าจะต้องทำยังไงเพราะเตะฟุตบอลมาตั้งแต่เป็นเยาวชน คงไม่ได้เรียนวิชาบัญชีหรือภาษีมาแน่  และคงไม่รู้เวลากรอกแบบฟอร์มเพื่อเสียภาษีใส่ส่วนของรายรับหรือรายจ่ายยังไงเพื่อให้ไม่ต้องเสียภาษี หรือโอนย้านทรัพย์สินไปไว้ตรงไหนหรือที่ไหนบ้าง แต่ต้องเป็นคนอยู๋เบื้องหลังไม่ว่าจะญาติพี่น้องหรือบรรดาเอเยนต์ของนักฟุตบอลนี้แหละที่เป็นตัวดีเลย

สุดท้ายแม้ว่าผลการสืบสวนสอบสวนหรือการตัดสินคดีออกมา บรรดานักฟุตบอลที่ถูกกล่าวหาว่าจงใจหลีกเลี่ยงหรือหนีภาษีทั้งหลายจะมีความผิด “จริง” แต่คงไม่ต้องโทษถึงคุกถึงตารางอยู่แล้วเพราะเป็นความผิดครั้งแรก “รอลงอาญา” หรือที่เจ็บหน่อยก็คง “ปรับเงินหนักๆ” เท่านั้นครับ

       โดย แบงค์ พิพัช