"หงส์แดง" กับสถิติวันคริสต์มาส

Merry Christmas สวัสดีวันที่ 25 ธันวาคม อย่างที่ทราบกัน วันนี้ตรงกับวันคริสต์มาส คือวันที่มีการเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู และถือเป็นวันหยุดของคริสตศาสนิกชน หลายพันล้านคนทั่วโลก

แต่สำหรับฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงสหราชอาณาจักรนั้น วันนี้ก็ยังเป็นวันหยุดอีก 1 วัน ก่อนที่วันรุ่งขึ้น หรือ "บ็อกซิ่ง เดย์" คอบอลทั่วโลก จะได้กลับมาเชียร์ทีมรักกันอีกครั้ง ตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติมาช้านาน

และเมื่อวันคริสต์มาส หรือวันบ็อกซิ่งเดย์มาถึง แน่นอนว่า จะมีการหยิบยกสถิติขึ้นมาต่างๆ นานา ว่าทีมไหนผลงานดี หรือแย่ ในช่วงนี้ และมักจะเป็นตัวบอกใบ้อนาคตของแต่ละทีม ตอนจบฤดูกาลเลยทีเดียว

วันนี้ เราจะขอหยิบเรื่องราวของ "ลิเวอร์พูล" กับ "สถิติ" ของพวกเขาในวันคริสต์มาส มาเล่าสู่กันฟังครับ

คริสต์มาสปีนี้ 2016 "เดอะ เรดส์" รั้งตำแหน่งอันดับ 2 ของตารางเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี หรือนับตั้งแต่ปี ฤดูกาล 1989 แล้วตอนจบฤดูกาลนั้น (ฤดูกาล 1989-90) ลิเวอร์พูลได้แชมป์ และเป็นครั้งล่าสุด ที่ "เด็กหงส์" ได้เริงร่ากับแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกด้วย

ทว่าในทางตรงข้ามนั้น ตลอดช่วง 27 ปีที่ผ่านมา พวกเขาเป็น "จ่าฝูง" วันคริสต์มาสถึง 4 ครั้ง ในซีซั่น ฤดูกาล 1990-91, ฤดูกาล 1996-97, 2008-09 และ 2013-14 แต่ลงเอยด้วยการวืดแชมป์ทั้งหมด

อาจจะเป็นเพราะว่า พวกเขาแพ้ภัยตัวเอง ใจไม่นิ่ง ไม่เก๋าพอที่จะสู้กับความกดดัน สุดท้ายก็พลาดเป้าไปในที่สุด

บางที ลิเวอร์พูล น่าจะจะถนัดรับบท "ผู้ล่า" มากกว่า "ผู้ถูกล่า" ชอบเป็นท่านรอง มากกว่า ผู้นำ ก็เป็นได้

เพราะนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรในปี 1892 หงส์แดง เคยเป็นรองจ่าฝูงในวันคริสต์มาสมาแล้ว 8 ครั้ง ได้แชมป์ไปถึง 6 ครั้ง คิดเป็น 75% เลยทีเดียว

หรือว่า.... ฤดูกาลนี้ "ลิเวอร์พูล" จะลงเอยด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 27 ปี ?!?

นั่นคือเรื่องของอนาคตครับ แต่ตอนนี้เราจะพาทุกท่าน ไปย้อนรอยสถิติอันดับ 2 ของตาราง ในวันคริสต์มาส ของยอดทีมแห่งแอนฟิลด์ ทั้ง 8 ครั้งที่ผ่านมาว่า จะลงเอยเช่นไรบ้าง

ฤดูกาล 1989-90
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
ดาวซัลโวของทีม : จอห์น บาร์นส์ (28 ประตู)
ถอยหลังกลับไปก่อนหน้านั้น 1 ฤดูกาล "เดอะ ค็อป" ต้องเจอกับเรื่อง "ช็อก" ครั้งประวัติศาสตร์ หลังโดนไมเคิ่ล โธมัส ยิงประตู 2-0 ให้อาร์เซน่อล บุกมาปล้นแชมป์ดิวิชั่น 1 (เดิม) ถึงสนามแอนฟิลด์ นับเป็นแมตช์คลาสสิกตลอดกาลเกมหนึ่ง ของเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
ซีซั่นต่อมา จบเกมนัดสุดท้ายก่อนถึงคริสต์มาส ลิเวอร์พูล รั้งที่ 2 ตามหลังอาร์เซน่อล แต่สุดท้าย "หงส์แดง" ก็การันตีแชมป์ ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน ฤดูกาล 1990 ในนัดที่เอาชนะ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส 2-1 ที่แอนฟิลด์ ทั้งๆ ที่ยังเหลืออีก 2 นัด จะจบฤดูกาล

ฤดูกาล 1985-86
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : เคนนี่ ดัลกลิช
ดาวซัลโวของทีม : เอียน รัช (31 ประตู)
เดือนสิงหาคม ปี ฤดูกาล 1985 เคนนี่ ดัลกลิช ในวัยแค่ 34 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เปิดหัวนัดแรกด้วยการเอาชนะอาร์เซนอลในบ้าน 2-0 แต่สะดุดในเกมเยือน 2 นัดติด ด้วยการเสมอแอสตัน วิลล่า และแพ้นิวคาสเซิล และปิดท้ายเดือนด้วยการถล่ม อิปสวิช ทาวน์ 5-0
อีก 3 เดือนต่อมา กันยายน-พฤศจิกายน ทีมของดัลกลิชผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่จะสะดุดครั้งใหญ่ในเดือนธันวาคม เพราะชนะแค่นัดเดียว จนถึงวันที่ 25 ทำให้ตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูง ทว่าเป็นฝั่ง "เดอะ ค็อป" ที่หัวเราะทีหลังดังกว่า ตอนจบฤดูกาล

ฤดูกาล 1976-77
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : บ็อบ เพรสลี่ย์
ดาวซัลโวของทีม : เควิน คีแกน (20 ประตู)
เดือนธันวาคม ฤดูกาล 1976 เพรสลี่ย์ พาทีมแพ้ถึง 3 จาก 4 นัด ก่อนถึงคริสต์มาส อยู่อันดับ 2 ตามหลัง อิปสวิช ทาวน์ ทว่าพวกเขาสมหวังในบั้นปลาย โดยเฉือนแมนฯ ซิตี้แค่ 1 แต้ม แถมได้แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ในปีนั้นด้วย
แต่น่าเสียดาย ที่พลาดการเป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งหมายถึง แชมป์ลีกสูงสูด, แชมป์เอฟเอ คัพ และแชมป์ยุโรปใบใหญ่สุด เพราะแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดชิงถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลก

ฤดูกาล 1975-76
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : บ็อบ เพรสลี่ย์
ดาวซัลโวของทีม : จอห์น โตแช็ค (23 ประตู)
ฤดูกาลที่สองของ บ็อบ เพรสลี่ย์ ไม่แพ้ใครเลยในเดือนธันวา ช่วงก่อนวันที่ 25 อยู่รองจ่าฝูง ตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ด ทว่าเป็นทีมของเพรสลี่ย์ที่สุขีตอนปิดซีซั่น
    
ฤดูกาล 1973-74
ผลงานตอนจบฤดูกาล : รองแชมป์
ผู้จัดการทีม : บิลล์ แชงคลีย์
ดาวซัลโวของทีม : เควิน คีแกน (ฤดูกาล 19 ประตู)
วันคริสต์มาสปี ฤดูกาล 1973 ลิเวอร์พูล ตามหลังจ่าฝูง ลีดส์ ยูไนเต็ด 7 คะแนน ซึ่งสุดท้าย "ยูงทอง" ก็ไม่พลาด คว้าแชมป์ ด้วยมีแต้มที่มากกว่า "หงส์แดง" 5 แต้ม ทำให้แชงคลีย์ ต้องอำลาทีม และ บ็อบ เพรสลี่ย์ รับหน้าที่ต่อ ในฤดูกาลถัดมา

ฤดูกาล 1966-67
ผลงานตอนจบฤดูกาล : อันดับ 5
ผู้จัดการทีม : บิลล์ แชงคลีย์
ดาวซัลโวของทีม : โรเจอร์ ฮันท์ (28 ประตู)
ลิเวอร์พูล ตามหลังจ่าฝูง แมนฯ ยูไนเต็ด 2 คะแนน ในวันที่ 25 ธันวาคม และเป็น "ปิศาจแดง"ที่คว้าแชมป์ในตอนจบซีซั่น ส่วน "หงส์แดง" ได้เพียงแค่อันดับที่ 5
        
ฤดูกาล 1946-47
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : จอร์จ เคย์
ดาวซัลโวของทีม : อัลเบิร์ต สตับบิ้นส์ และ แจ็ค บัลเมอร์ (คนละ 28 ประตู)
วันคริสต์มาส ปี ฤดูกาล 1946 ลิเวอร์พูล ตามหลังทีมจ่าฝูง วูล์ฟแฮมป์ตัน 4 แต้ม แต่ตอนจบฤดูกาล แซงคว้าแชมป์เหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟ
    
ฤดูกาล 1900-01
ผลงานตอนจบฤดูกาล : แชมป์
ผู้จัดการทีม : ทอม วัตสัน
ดาวซัลโวของทีม : แซม เรย์เบาวด์ (18 ประตู)
25 ธันวาคม ฤดูกาล 1900 ปีแรกในช่วงศตวรรษที่ 20 ลิเวอร์พูล ตามหลังน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5 คะแนน แต่เป็น "หงส์แดง" ที่คว้าแชมป์เหนือ ซันเดอร์แลนด์ 2 แต้ม และนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย