5 เรื่องหลังเกม "ปีศาจแดง" เปิดรังเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก

5 เรื่องหลังเกม "ปีศาจแดง" เปิดรังเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก

5 เรื่องหลังเกม "ปีศาจแดง" เปิดรังเสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 ศึกพรีเมียร์ลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Zlatanstunning2

5. สองยกคงไม่พอ

ศึก แดงเดือด ผ่านมาสองยกในซีซั่นนี้ แต่กลับไม่มีผลแพ้-ชนะ ซึ่งเป็นหนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1987/1988 (ดิวิชั่น 1 เดิม) ที่ทั้งคู่เจอกันแล้วได้รับผลการแข่งขันเสมอทั้งสองนัด

ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างดุเดือด พวกเขาสู้จนวินาทีสุดท้าย มันเต็มไปด้วยความเอ็นเตอร์เทรน และอารมณ์ร่วมกับเกม  

เจ้าบ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสสับไก 9 ครั้ง ตรงกรอบ 3 ส่วน ลิเวอร์พูล ผู้มาเยือน มีโอกาสยิง 13 ครั้งตรงกรอบ 4

ทั้งสองทีมต่างมีโอกาสที่จะเป็นผู้ชนะด้วยกันทั้งคู่ ปีศาจแดง อาจรู้สึกผิดหวังที่พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ เพราะลงเล่นในรังเหย้าของตัวเอง เป้าหมายเดียวคือต้องชนะ และหากเก็บชัยได้ในเกมนี้ก็จะลดช่องว่างกลุ่ม

หัวบนของตารางได้ อย่างไรก็ตาม ผลเสมอก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย หรือเลวร้ายอะไรถึงขั้นหมดลุ้นท็อปโฟร์

ด้าน หงส์แดง ก็คงรู้สึกเสียดายไม่แพ้ เร้ด เดวิลส์ เช่นกัน เพราะพวกเขารักษาสกอร์นำมาจนถึง 80 นาทีเศษ ก่อนถูก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด โขกตีเสมอในนาทีที่ 84 และผลเสมอก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดี

มากนักสำหรับ ลิเวอร์พูล หากพวกเขามองในแง่การลุ้นแชมป์  

ศึก แดงเดือด มีโอกาสเกิดขึ้นอีกยกในฤดูกาลนี้ หากทั้งคู่มาตามนัดในนัดชิงชนะเลิศของ อีเอฟแอล คัพ

Zlatanstunning3
4. สถิติปีศาจแดง เกือบพังเพราะ หงส์

ก่อนเกมคู่นี้จะเริ่มต้นขึ้น แมนฯ ยูไนเต็ด พกสถิติชนะต่อเนื่องในทุกรายการ 9 เกมติด ส่วนในลีกพวกเขาชนะมา 6 นัดรวด

แต่สถิติที่จะชนะรวด 10 เกม (ทุกถ้วย) และ 7 เกมรวด (ในลีก) ถูกหยุดโดย ลิเวอร์พูล..

อย่างไรก็ดี แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีสถิติที่ยังไม่ถูกเบรกจากคู่แข่ง ในซีซั่นนี้เช่น..

สถิติไร้พ่ายการจับคู่ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์-แบ็ก ของ มาร์กอส โรโฮ และ ฟิล โจนส์ (เมื่อสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีก) โดย ชนะ  6 เสมอ 4

สถิติไร้พ่ายในลีก 12 เกมติด

สถิติไร้พ่ายในทุกรายการ 16 นัดรวด

สถิติไร้พ่ายของ ไมเคิ่ล คาร์ริค เมื่อมีเจ้าตัวลงเล่นให้กับทีมปีศาจแดง (ทุกถ้วย)

แม้ ลิเวอร์พูล จะหยุดสถิติชนะต่อเนื่องของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงมองหาชัยชนะในปฏิทินปี 2017 ต่อไป หลังไม่ชนะใครมา 4 เกมติด

Zlatanstunning4
3. ฝันร้ายของ ป็อกบา

จัดเป็นอีกนัดที่ ปอล ป็อกบา ถูกตัดขาดออกไปจากเกม โดยที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับทีมได้เลย แถมแจกของขวัญให้กับ ลิเวอร์พูล ด้วยการมอบจุดโทษให้ โทษฐานไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษตัวเอง

ป็อกบา ยังคงติดนิสัยเดิม ๆ คือ เขามักจะเล่นบอลยาก จังหวะที่ควรจะเล่นง่าย ๆ กลับไม่เล่น และบางครั้งก็เก็บบอลไว้กับตัวนานเกินไป จนทำให้ทีมเสียจังหวะในการทำเกมรุก แถมออกอาการหงุดหงิดง่ายอีกต่างหาก

แต่ส่วนหนึ่งต้องชื่นชม คือ แท็กติกของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ที่เขาสั่งให้ลูกทีมไล่บีบคู่แข่ง ชนิดแบบเข้ามารุมแย่ง 2-3 คน จนทำให้นักเตะบางคนของ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นไม่ออก

แมตช์นี้จึงเป็นบทเรียนชิ้นดีสำหรับ ปอล ป็อกบา และเชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ผจก.ทีม ปีศาจแดง คงต้องให้คำแนะนำอะไรบางอย่างกับเขา

ป็อกบา เพิ่งตัดผมทรงใหม่มา บวกกับมีค่าตัวที่แพงสุดในโลกติดตัวอยู่ เลยถูกจ้องมองเป็นพิเศษ

นึกภาพ หาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไม่โขกประตูตามตีเสมอให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าตัวจะโดนสับเละขนาดไหน?

Fufufufuz
2. ปีใหม่ คนใหม่?

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งจะใช้ออปชั่นขยายสัญญาฉบับใหม่ มารูยาน เฟลไลนี่ เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา

และนับตั้งแต่เริ่มต้นปฏิทิน 2017 เขาค่อย ๆ สร้างประโยชน์ให้กับทีมมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาลงเล่นไปแล้ว 3 เกมในรายการปี 2017 ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่มี 2 เกมที่เขามีส่วนสำคัญยิ่ง อย่างเช่น..

10 ม.ค. 2017: แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ฮัลล์ ซิตี้ (อีเอฟแอล คัพ รอบรองฯ เลกแรก)

เขาถูกส่งลงมาแทน ฆวน มาต้า ในนาทีที่ 79 โดยใช้เวลาอยู่ในสนามเพียง 11 นาที ก่อนโขกทำประตูได้ 1 ลูก และมีส่วนช่วยให้ทีมซิวชัยเหนือ เดอะ ไทเกอร์ส 2-0

แน่นอนว่ามันมีผล เพราะว่าเลกที่สอง จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นง่ายขึ้น

15 ม.ค. 2017: แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
เขาถูกส่งลงมาแทน มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน ในนาทีที่ 76 โดยมีเวลาอยู่ในสนาม 14 นาที ก่อนมีส่วนร่วมกับทีมในจังหวะตามตีเสมอ

อย่างไรก็ตามต้องไม่ลืมว่า ต้นฤดูกาลมิดฟิลด์จอมหัวฟู รายนี้เหมือนได้เกิดใหม่ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ก็ยังไม่สามารถยืนระยะได้นาน

Zlatanstunning55
1. แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มตายยากมากขึ้นเรื่อย ๆ?

หนล่าสุดที่ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ พบกับความพ่ายแพ้ ต้องย้อนกลับไปวันที่ 3 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา โดยขุนพลเร้ด อาร์มี่ บุกไปพ่าย เฟเนร์บาห์ 1-2 ในศึก ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

หลังจากนั้นมา พวกเขาก็ไม่แพ้ใครมา 16 เกมติดในทุกรายการ โดยชนะ 12 เสมอ 4

เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น โมเมนตัมเริ่มมา ความมั่นใจของทีมก็ตามมาด้วยเช่นกัน และเมื่อดูที่รายละเอียดใน 16 เกมหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด พวกเขาดูเหมือนจะเป็นทีมที่เริ่มแพ้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมมีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

นอกเหนือจากบางเกมที่เก็บชัยได้อย่างไร้ปัญหา แต่ก็ยังมี 3 เกมจาก 16 นัดหลัง ที่พวกเขาต้องดิ้นรนอย่างหนัก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากช่วงท้ายเกม

14 ธ.ค.16: ชนะ พาเลซ (เยือน) 2-1, พรีเมียร์ลีก
เกมทำท่าว่าจะเสมอ แต่พวกเขาได้ประตูชัยในนาทีที่ 88 จาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

31 ธ.ค.16: ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ (เหย้า) 2-1, พรีเมียร์ลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด โดนทีมเยือน โบโร่ ขึ้นนำไปก่อน แต่แซงกลับมาชนะได้ จากประตูชัยของ ปอล ป็อกบา ในนาทีที่ 86

15 ม.ค.17: เสมอ ลิเวอร์พูล (เหย้า) 1-1, พรีเมียร์ลีก
ปีศาจแดง เกือบจะแพ้คาบ้านต่อ หงส์แดง แต่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาโหม่งตามตีเสมอได้ในนาทีที่ 84

เหล่าบรรดาสาวกปีศาจแดง..คุณเริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างมั้ย?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook