"เฟรดดี้ อาดู VS ชิชาริโต้" กับเส้นทางลูกหนังที่แตกต่าง...

"เฟรดดี้ อาดู VS ชิชาริโต้" กับเส้นทางลูกหนังที่แตกต่าง...

"เฟรดดี้ อาดู VS ชิชาริโต้" กับเส้นทางลูกหนังที่แตกต่าง...
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงสัปดาห์นี้ฟุตบอลในยุโรปกำลังสนุกเลยทีเดียว ทั้งฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งข่าวการซื้อขายนักเตะที่พอมีบ้างแต่จะเป็นรายเล็กๆซะมากกว่า ไม่มีบิ๊กดีลเหมือนช่วงตลาดเปิดหลายๆครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นก็เลยพอมีเวลาอ่านบทสัมภาษณ์และสกู๊ปหรือคอลัมนิสต์ต่างประเทศพอสมควรเลยทีเดียว

ประเด็นแรกคือข่าวของ “เฟรดดี้ อาดู” ถ้าใครเป็นแฟนฟุตบอลอายุกำลังเข้าเลข 3 น่าจะพอรู้จักนักเตะคนนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นนักเตะเล่นเก่งหรือโดดเด่นอะไรเลยตลอดเส้นทางชีวิตการค้าแข้งที่ผ่านมา

แต่ครั้งนึงเค้าเคยเป็นนักเตะที่ทั่วโลกจับตามอง เพราะเป็นนักเตะชาวอเมริกันอายุน้อยที่สุดที่เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในวัย 14 ปี เมื่อปี 2004 กับสโมสร “ดีซี ยูไนเต็ด” ในศึกฟุตบอลเมเจอร์ลีกของสหรัฐฯ

 a

รวมทั้งเป็นนักเตะประเภท “เทพ” ในเกม CM ที่เป็นเกมคุมทีมฟุตบอล ซึ่งเชื่อว่าเด็กทุกคนที่ชอบฟุตบอลในยุคนั้นต้องผ่านมือเกมนี้มาหมด โดยเจ้าตัวเป็นนักเตะที่หลายคนซื้อมาร่วมทีมในเกม

แต่ในความเป็นจริง หลังจากเจ้าตัวเซ็นสัญญาอาชีพเติบโตขึ้นมาก็ไม่ได้โดดเด่นหรือโชว์ฟอร์มเทพเหมือนที่หลายคนคาดไว้ แถมยังต้องระหกระเหินย้ายทีมไปเรื่อยๆ เพราะไม่เป็นที่ต้องการถึง 13 สโมสรด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเคยมาเล่นในยุโรปช่วงสั้นๆในฐานะตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้ลงสนามกับ “เบนฟิก้า” และ “โมนาโก” ก็ตาม

เรื่องของเรื่องอยู่ที่ เจ้าตัวกำลังหาสโมสรใหม่ หลังจากแยกทางกับสโมสร “แทมป้า เบย์” ในศึกฟุตบอลอเมริกาเหนือ (เป็นอีกลีกที่ไม่เกี่ยวกับ “เมเจอร์ลีก ซ็อกเกอร์”)

 75469870

และดูเหมือนว่าไม่มีสโมสรใดตกลงเซ็นสัญญากับเจ้าตัวอย่างเป็นทางการ ยกเว้นแต่สโมสร “พอร์ตแลนด์ ทิมเบอร์” ที่อนุญาตให้เจ้าตัวมาซ้อมช่วงปรีซีซั่นกับทีม แต่ยัง “ไม่เซ็นสัญญา” เป็นนักเตะ

กับประเด็นที่สองคือ นักข่าวไปสัมภาษณ์ เจ้าถั่วน้อย ชิชาริโต้ “ฮาเวียร์ เออร์นาเดซ” กองหน้าทีมชาติเม็กซิโกซึ่งเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัวอาจจะไม่ใช่ซุปตาร์ขนาด “พี่โด้” หรือ “เมสซี่”

แต่ก็เป็นนักเตะที่คนฟุตบอลส่วนใหญ่รู้จัก โดยเจ้าตัวบอกว่า “มาไกลกว่าที่ฝันแล้ว” ในฐานะนักเตะเม็กซิโก

ยิ่งไปกว่านั้น ความกดดันของ “ชิชาริโต้” เชื่อว่ามีไม่น้อยกว่า “อาดู” เพราะทั้งพ่อและปู่เป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับดีกรีทีมชาติ แต่ก็ “สู้” จนลงเล่นในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ของประเทศอย่าง “กัวดาลาฮาร่า”

 d

ก่อนที่จะติดทีมชาติได้ไปเล่นฟุตบอลโลก หรือย้ายมาเล่นในยุโรปกับสโมสรยักษ์ใหญ่ทั้ง “แมนฯ ยูไนเต็ด” ได้แชมป์ลีกกับทีม 2 สมัย “เรอัล มาดริด” และมาอยู่กับ “เลเวอร์คูเซ่น” ในปัจจุบัน

แฟนฟุตบอลหลายคนอาจจะมองว่า เจ้าถั่วน้อยไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ในฐานะนักเตะที่ไม่ได้มาจากยุโรปหรืออเมริกาใต้ นี่คือ “สุดยอดแล้ว”

แน่นอนว่า ชีวิตของคนอายุใกล้ๆกัน “เฟรดดี้ อาดู” (29) กับ “ชิชาริโต้” (28) ตอนนี้ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับเส้นทางชีวิตที่เริ่มต้นคล้ายๆกัน บางที “อาดู” อาจจะดูดีกว่าด้วยซ้ำ

 GettyImages-168618477

ตอนนี้ “อาดู” ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้มีสโมสรใดสโมสรหนึ่งยอมเซ็นสัญญาเพื่อจะได้เป็นนักฟุตบอลต่อไป ขณะที่เจ้าถั่วน้อยอาจจะไม่ได้อยู่ในทีมระดับท็อปของโลก แต่ก็มีความสุขดีในเยอรมัน

การเป็นนักฟุตบอล “ไม่มีอะไรแน่นอน” บางทีหลายคนที่คิดว่าจะประสบความสำเร็จกลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน ผิดกลับนักเตะบางคนที่แค่การเป็นนักฟุตบอลได้ลงเตะทุกสัปดาห์ อาจจะไม่ได้อยู่สโมสรยักษ์ใหญ่เหมือนเดิมก็ถือว่า “ประสบความสำเร็จแล้ว”

สุดท้ายแค่ “ฟุตบอล” เพียงอย่างเดียว ก็ทำให้เส้นทางชีวิตนักเตะดาวรุ่งวัยเดียวกันที่ขึ้นมาใกล้ๆกัน “แตกต่างกัน” เหลือเกินครับ

โดย แบงค์ พิพัช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook