5 เหตุการณ์! ฮึดสู้ปาดหน้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

ศึกพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนาน ทั้งในโซนลุ้นแชมป์และโซนหนีตกชั้น และเป็น สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่กำลังนำโด่งนั่งแท่นจ่าฝูงอยู่ตอนนี้ มีแต้มนำอันดับสองอย่าง ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อยู่ถึง 9 คะแนนด้วยกัน

เราจะไปย้อนดูเหตุการณ์กันสักนิดนึง ว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น ใน พรีเมียร์ ลีก เคยมีทีมใดบ้างที่มีแต้มตามหลังจ่าฝูง แต่ยังงัดสปิริตฮึดสู้จนแซง

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2011/12

ตามหลังจ่าฝูงทีม : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
จำนวนคะแนนห่าง : 8 คะแนน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี โรแบร์โต้ มันชินี คุมทีมอยู่ในเวลานั้น เคยบอกยอมแพ้การไล่ล่าแชมป์กับ อริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วด้วยจากการที่มีแต้มตามหลัง แต่เรื่องราวดราม่าก็มาบังเกิดขึ้น เมื่อ ปีศาจแดง แพ้ให้กับ วีแกน หน้าตาเฉย แถมยังทำได้แค่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ทั้งที่นำ 4-2 และ แมนฯ ซิตี้ ก็กุมโอกาสไว้ในมืออีกครั้ง เมื่อศึก ดาร์บี้ เมืองแมนเชสเตอร์ พวกเขามีชัยเหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด

ในนัดสุดท้ายจะต้องตัดสินโดยที่หาก ซิตี้ เก็บสามแต้มได้จะเป็นแชมป์ทันที ไม่ต้องลุ้นคู่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งในวันนั้นเอง ปีศาจแดง ก็เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ ไป 1-0 แล้วจบลงไปก่อน แต่ลูกทีมของ มันชินี โดน คิวพีอาร์ เล่นงานอย่างหนักโดยนำพวกเขา 2-1 และพวกเราก็สร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงจากการที่พลิกแซง ควีนส์ปาร์ค ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3-2 เป็นแชมป์เหนือทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่าและมีแต้มเท่ากันที่ 89 คะแนน

4. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2002/03

ตามหลังจ่าฝูงทีม : อาร์เซนอล
จำนวนคะแนนห่าง : 8 คะแนน

ปีศาจแดง ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีแต้มตามหลัง ปืนโต อาร์เซนอล อยู่ถึง 8 แต้มด้วยกัน แถมยังต้องแพ้เกมลีกคัพให้กับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ไปอีก นั่นยื่งบั่นทอนจิตใจของเหล่านักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าไปอีก แต่เหมือนว่าเหล่านักเตะ ปีศาจแดง ไม่ยอมแพ้และตั้งสติกันได้

เพราะนับตั้งแต่ที่พวกเขาพ่ายให้กับ มิดเดิลสโบร์ห เป็นต้นมา พวกเขาไม่แพ้เกมลีกเลยแม้แต่เกมเดียว โดยเป็นการชนะถึง 15 เกม จาก 18 เกม ที่เหลือเป็นผลเสมอ ซึ่งผลงานเหล่านี่ของพวกเขา มันเป็นแรงกดดันทัพ อาร์เซนอล ได้เป็นอย่างดี เมื่อพวกเขาสะดุดเสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เสมอกับ โบลตัน และ พ่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด คาบ้านไปอีก นั่นทำให้พวกเขาทำถ้วยหลุดมือไปทั้ง ๆ ที่นำอยู่แท้ ๆ

3. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2013/14

ตามหลังจ่าฝูงทีม : ลิเวอร์พูล
จำนวนคะแนนห่าง : 9 คะแนน

เกมนี้เป็นอีกสุดยอดความทรงจำของแฟน ๆ เรือใบสีฟ้า ที่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง หลังจากที่ทำได้เมื่อปี 2011/12 โดยปีนี้พวกเขามีคู่แข่งที่อยู่เหนือพวกเขาอย่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่หลาย ๆ ฝ่ายมองว่าเหล่า เดอะ ค็อป นั่นมีโอกาสในการคว้าแชมป์มากที่สุดแล้ว

แต่เห็นการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล เมื่อกัปตันตัวเก่งของทีมอย่าง สตีวีจี หรือ สตีเวน เจอร์ราร์ด ได้หกล้มบริเวณกลางสนาม ทำเอาผู้เล่นของ เชลซี อย่าง เดม บาบา ฉกบอลเข้าไปยิงเป็นประตูให้ สิงโตน้ำเงินคราม เก็บสามแต้มไปได้ ยังไม่พอพวกเขายังสะดุดเสมอกับ คริสตัล พาเลซ ในเกมต่อมา นั่นเล่นเอาน้ำตาลูกผู้ชายของ หลุยส์ ซัวเรซ ไหลออกมาเลยทีเดียว เพราะโอกาสของพวกเขาแทบจะหมดลงไปแล้ว ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เร่งฝีเท้าหลังจากแพ้ให้ ลิเวอร์พูล 3-2 พวกเขาก็ชนะรวด แซงเข้าวินเป็นแชมป์เหนือ ลิเวอร์พูล ไป

2. อาร์เซนอล 1997/98

ตามหลังจ่าฝูงทีม : แมนฯ ยูไนเต็ด
จำนวนคะแนนห่าง : 11 คะแนน

ปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีทองของ อาร์เซนอล ที่สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ทั้ง พรีเมียร์ และ เอฟเอ คัพ หากลองย้อนกลับไปผู้เล่นตัวหลักของ อาร์เซนอล ในเวลานั้นก็มี เดวิด ซีแมน, ลี ดิกซัน, สตีฟ โบลด์, โทน อดัมส์, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น, เรย์ พาร์เลอร์, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, ปาทริก วิเอรา, มาร์ก โอเวอร์มาร์ส, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ เอียน ไรท์ ล้วนแต่เป็นยอดนักเตะทั้งนั้น

โดย อาร์เซนอล มีแต้มตามหลัง ปีศาจแดง อยู่ถึง 11 แต้ม แต่พวกเขาใช้ขุมกำลังสุดแข็งกร่งที่มีพาทีมเป็นแชมป์แซง แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแบบเจ็บแปลบแสบทรวง จากการมีแต้มมากกว่าเพียง 1 คะแนนเท่านั้น เพราะลูกทีมของ เฟอร์กูสัน ดันไปสะดุดพ่ายให้กับ เอฟเวอร์ตัน และ ซันเดอร์แลนด์ ในช่วงท้าย

1. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1995/96

ตามหลังจ่าฝูงทีม : นิวคาสเซิล
จำนวนคะแนนห่าง : 12 คะแนน

จะบอกว่าปีนั้นคือฤดูกาลประวัติศาสตร์ของทีม สาลิกาดง นิวคาสเซิล ก็คงไม่ผิดนัก เมื่อทีมของพวกเขาที่มี เลส เฟอร์ดินาน และ อัสปริยา เป็นคู่หัวหอก และได้ เควิน คีแกน เป็นผู้กุมบังเหียน อาจหาญขึ้นมายืนอยู่บนจุดสูงสุดของ พรีเมียร์ ลีก ได้นานจนเกือบจะหมดฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม กุนซือผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นขั้นเซียนของการทำสงครามประสาทอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ ก็ไซโคจน คีแกน เริ่มจะประสาทกิน จนทำให้ทีมของเขาที่เคยมีคะแนนนำห่างอันดับสองถึง 12 แต้ม ค่อย ๆ พลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนฟอร์มพวกเขาหลุด แถมยังพ่ายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด คาบ้านไปอีก นั่นทำให้นิยายที่จะเขียนว่า นิวคาสเซิล เป็นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ของปี 1995/96 จบลงไปโดยที่ เร้ด เดวิลล์ แซงเป็นแชมป์และมีแต้มมากกว่าอีกถึง 4 คะแนน และยังได้ถ้วย เอฟเอคัพ ไปครองจากการชนะ ลิเวอร์พูล ไป 1-0 ด้วย