"5 แข้งดังรอวันเป็นยอดกุนซือ"

อาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอล คืองานในฝันงานหนึ่งบนโลกใบนี้ เพราะนอกจากรายรับที่มากมายเหนือการคาดเดา การได้รับการยกย่องจากผู้คนก็มีคุณค่าทางจิตใจไม่ต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ในยุคที่โลกลูกหนังขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยม เรามิอาจปฏิเสธได้ว่า “ผู้จัดการทีม” หรือ “กุนซือ” คือหนึ่งในงานที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในโลก เพราะจะโดนไล่ออกวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่อาจทราบได้

กระนั้นบนเส้นทางแห่งความกดดันนี้ ยังมีกุนซือหนุ่มหลายรายที่พิสูจน์ให้เห็นว่าปรัชญาฟุตบอลของพวกเขานั้นสูงส่งเหนือจินตนาการ และเส้นทางแห่งนี้ไม่อาจนำวัยวุฒิหรือคุณวุฒิมาตัดสินคนได้

และนี่คือ 5 นักเตะชื่อดัง ที่ “ฮอตสกอร์” เชื่อว่าจะเชิดฉายบนเส้นทางกุนซือ หากตัดสินใจแขวนสตั๊ดแล้วเริ่มต้นสายงานนี้อย่างเต็มตัว จับตามองดูพวกเขาเหล่านี้ให้ดี มันจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้แน่นอน

ไมเคิ่ล คาร์ริค

 

ดาวเตะวัย 35 กะรัต มีบุคลิคที่เพียบพร้อมต่อการก้าวมาเป็นยอดกุนซือ อีกทั้งการรับบทในตำแหน่งห้องเครื่องของทีม ทำให้เขาเห็นความเป็นไปแทบทุกอย่างในสนาม เรียกได้ว่าเป็นคนที่เข้าใจเกมที่สุดก็ว่าได้

นอกจากนี้ คาร์ริค ยังผ่านการร่วมงานกับยอดกุนซือหลายราย ทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ ไล่ตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, ฟาบิโอ คาเปลโล่, หลุยส์ ฟาน ฮัล และ โจเซ่ มูรินโญ่ เรียกได้ว่ามีความเข้าใจแท็กติกอย่างช่ำชอง

ยิ่งนี่คือฤดูกาลสุดท้ายของเขากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลัง มูรินโญ่ ยืนยันว่าจะไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่ ยิ่งน่าสนใจว่า คาร์ริค จะเลือกเส้นทางเดินของตัวเองต่อไปอย่างไร การก้าวสู่เส้นทางสายโค้ชเลยก็เป็นอะไรที่เข้าท่าดี เมื่อเทียบกับโอกาสที่เปิดกว้างในแคมป์ทีมชาติอังกฤษ

ฟิลิปป์ ลาห์ม

 

ดาวเตะวัย 33 กะรัต คือหนึ่งในนักเตะสารพัดประโยชน์ที่ดีที่สุดในโลกตลอดกาลก็ว่าได้ เมื่อเจ้าตัวแทนที่รูปร่างอันแสนกะทัดรัด ด้วยมันสมองเซ้นส์ฟุตบอลอันชาญฉลาด ไม่ว่าจะได้รับบทบาทไหนมักทำได้ดีเสมอ

นอกจากนี้ ลาห์ม ยังมีบุคลิกความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม และตลอดอาชีพการค้าแข้งกว่า 16 ปี นี่คือสภาพบุรุษลูกหนังที่ชาวโลกควรยกย่อง เมื่อไม่เคยมีสักครั้งที่แข้งรายนี้จะออกมากล่าวโทษโจมตีเพื่อนร่วมทีมหรือโค้ช

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการได้รับคำนิยามจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าเป็นนักเตะที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานมา แค่นี้คงพอบอกใบ้ได้ว่าเส้นทางหลังแขวนสตั๊ดช่วงจบฤดูกาลนี้ของ ลาห์ม จะไปหยุดอยู่ตรงที่ใด ถ้าไม่ใช่ม้านั่งข้างสนาม

อันเดรีย ปีร์โล่

 

ห้องเครื่องวัย 37 กะรัต คือนักเตะผู้บุกเบิก “โฮลดิ้ง มิดฟิลด์” ให้กลายเป็นตำแหน่งที่กุนซือทั่วโลกต้องมีประจำทีมไว้หนึ่งคนเสมอ เรียกได้ว่าบทบาทนี้เกิดขึ้นได้เพราะ ปีร์โล่ เพียวๆ เป็นสไตล์การเล่นและเซ้นส์บอลที่ไม่ต้องปรุงแต่งโดยโค้ช

นอกจากพรสวรรค์ด้านเทคนิคและแท็กติกแล้ว ปีร์โล่ ยังเป็นคนที่มีปรัชญาการใช้ชีวิตอย่างลึกซึ้ง ถึงขนาดที่ครั้งหนึ่งเคยเผยว่า “ผมคิดว่าตัวเองเป็นผู้อำนวยการ ผู้อำนวยการที่สร้างสรรค์ชีวิตของตัวเองทั้งในและนอกสนาม”

นั่นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่สื่อมวลชนจะคาดการณ์ว่า ปีร์โล่ พร้อมก้าวเดินต่อในเส้นทางสายโค้ช หากวันใดวันหนึ่งตัดสินใจแขวนสตั๊ดเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งหากมองดูสิ่งที่เขาทำเอาไว้บนฟลอร์หญ้า นี่คือตัวเต็งที่เป็นยอดกุนซืออย่างไม่ต้องสงสัย

ชาบี อลอนโซ่

 

มิดฟิลด์วัย 35 กะรัต คือนักเตะผู้ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง เมื่อตลอดชีวิตการค้าแข้งนานกว่า 18 ปี เจ้าตัวแทบไม่ค่อยได้รับการยกย่องมากเท่าเพื่อนร่วมทีมรายอื่น แม้จะเป็นหัวใจสำคัญภายในทีมที่ขาดไม่ได้ก็ตาม

ทว่าในทางกลับกัน อลอนโซ่ ในสายตาแฟนบอล คือนักเตะที่พวกเขารักและเทิดทูนมากที่สุด ไม่เชื่อลองไปถามสาวกลิเวอร์พูล และเรอัล มาดริด ดู ว่าพวกเขาเสียดายมากแค่ไหนที่ดาวเตะทีมชาติสเปนรายนี้ย้ายออกจากสโมสร

ซึ่งเมื่อวันหนึ่งที่ อลอนโซ่ ตัดสินใจแขวนสตั๊ด มันชัดเจนว่านี่คือคนที่แฟนบอลพร้อมต้อนรับกลับคืนสู่เก้าอี้กุนซือ แม้นเจ้าตัวไม่ใช่คนชอบแสดงออกทั้งในสนามและห้องแต่งตัว หากแต่ความเข้าใจเกมนั้นอยู้ในระดับสูง และจะเป็นจอมแท็กติกคนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

คริสติอาโน่ โรนัลโด้

 

บางคนยกย่องดาวเตะวัย 32 กะรัต เป็นแข้งเบอร์หนึ่งของโลก บางคนก็เห็นต่างยกให้เป็นนักเตะเห็นแก่ตัวคนหนึ่ง มันจึงยากมากๆ ที่จะหาคำจำกัดความตัวตนของ โรนัลโด้ แม้ว่าความเป็นจริงนี่คือสภาพบุรุษลูกหนังคนหนึ่งก็ตาม

แล้วความเห็นแก่ตัวนั้นมาจากไหน มิใช่แรงปรารถนาที่จะคว้าชัยชนะหรือ? มันจึงไม่น่าแปลกใจที่ โรนัลโด้ จะครุ่นคิดถึงการก้าวมาเป็นกุนซือในอนาคต เมื่อทั้งชีวิตของเขานั้นมีแค่ฟุตบอล มันแทบจะฝังรากอยู่ในดีเอ็นเอก็ว่าได้

ซึ่งแม้ในอดีตจะมียอดนักเตะมากมายล้มลุกคลุกคลานในฐานะกุนซือ หากแต่บทบาทและแอ็คชั่นที่ โรนัลโด้ เคยแสดงให้เห็นในยูโร 2016 นัดชิงชนะเลิศ บอกได้เรื่องหนึ่งแน่ๆ ว่าไอ้หมอนี่จะไม่มีทางยอมแพ้จนกว่าสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้าย