ผู้ท้าชิงอันดับ 1 โดย..บี แหลมสิงห์

ถือเป็นอีกหนึ่งดีลที่สำคัญที่สุดประจำฤดูกาลนี้

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซื้อนักเตะที่ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือปรารถนาที่จะได้ตัวอย่าง ซาเมียร์ นาสรี่ เข้ามาเติมทัพความน่ากลัวในแดนกลาง

ในราคา 25 ล้านปอนด์

การช็อปปิ้งนักเตะ "บิ๊กเนม" มาเสริมทัพแบบไม่รู้จักคำว่า “หนำใจ” หรือว่าคำนี้มันไม่มีในโลกของพวกเขาก็ไม่รู้ได้ แต่ที่แน่ๆ มันยังไม่ใช่คนสุดท้าย

เมื่อ มันชินี่ ยังต้องการที่จะคว้าตัว ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ยอดมิดฟิลด์ระดับเครื่องฟิตสตาร์ตติดง่ายของ "หมาป่ากรุงโรม" โรม่า ทีมดังในศึกลูกหนัง กัลโช่ เซรี่ อา อิตาลี

พร้อมกับเหตุผลที่ว่า ทีมของเขายังมีตัวเลือกน้อยเกินไป

ย้ำ!!! มันชินี่ บอกว่า ตัวเลือกของเขายังน้อยเกินไป

ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ถือว่าเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก เขามีระดับในการเล่นที่เหนือกว่านักเตะแดนกลางหลายๆ คนที่ ซิตี้ สะสมเอาไว้

แต่มันเยอะเกินไป และมันเยอะมากเมื่อเทียบกับความจำเป็นในตอนนี้

มันชินี่ ก็ได้แต่บอกว่า การมีนักเตะชั้นดีมากมาย มันไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือการที่คุณไม่มีนักเตะฝีเท้าดีต่างหาก สำหรับผู้จัดการทีม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากนักเตะทุกคนต้องการลงสนามทุกเกม แต่เมื่อคุณต้องลงแข่งขันถึง 4 รายการ และมีเกมในทุกๆ 3 วัน มันก็จะมีช่องว่างสำหรับทุกคน

"บางครั้งมันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องพัก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเล่นในเกมระดับสูงตลอดทุก 3 วัน และในแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็โหดมากขึ้น มันต่างจากจาก ยูโรป้า ลีก เลย และในการนี้ เราต้องมีทีมที่ดีพร้อมด้วยนักเตะชั้นดี และสภาพจิตใจที่ยอดเยี่ยม"

นอกจากนี้ มันชินี่ ยังกล้ารับประกันอีกด้วยว่า ไม่มีปัญหากับการรับมือกับบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ที่ต่างต้องการลงสนาม เนื่องจากเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับสโมสรที่ต้องการนักเตะในระดับดังกล่าวมาร่วมทีม

แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า การซื้อตัวของ ซิตี้ ถือเป็นการ “ทำลาย” ตลาดนักเตะ และ “ทำลาย” ระบบการซื้อขายนักเตะมากกว่า

มันแย่ยิ่งกว่าตอนที่ คริส ซัตตัน ถูกซื้อมาร่วมทัพ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยราคา 5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1994

แย่กว่ากันเยอะเลย

ที่สำคัญ ตัวนักเตะหลายต่อหลายคนเดี๋ยวนี้ก็ “หน้าเงิน” มากเกินไป เหมือนอย่างที่ เอ็มมานูเอล ฟริมปง โพสต์ด่า ซาเมียร์ นาสรี่ นั่นแหละ

ตอนนี้ ชีค มานซูร์ ดูเหมือนจะทำทุกอย่างให้ได้มา มากกว่าในสมัยที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาทุ่มทุนสร้าง เชลซี ไม่รู้กี่เท่า

ถามว่า มันคุ้มค่าหรือไม่ และน่าภูมิใจหรือไม่ นี่แหละคือปริศนา

บางคนก็บอกว่า อิจฉาคนรวย แต่ถ้าหากเอาเงินมาฟาด ฟาด แล้วก็ฟาดแบบนี้ มันจะดี มันจะคลาสสิกตรงไหน

ไม่รู้เหมือนกันว่า แฟนซิตี้ จะรู้สึกอย่างไรกับการขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงหมายเลข 1 ในปีนี้

ไม่รู้ว่า “กระดาก” หรือว่า “แฮปปี้”!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ may i come in please