อัสซูร่าของจริง,เปาของปลอม

ยิ่งเล่นก็ยิ่งเห็นชัดนะครับนาโปลีของเค้าดีจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีครับว่าชัยชนะที่สวยงามสำหรับพวกเขาที่อินเตอร์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่มากก็น้อยได้กรรมการจิอันลูก้า ร็อคคี่ ถวายพานให้
   
แน่นอนครับทีมอย่างนาโปลีที่ฟอร์มกำลังสด มีดีที่จะเอาชนะอินเตอร์ มิลานได้ โดยไม่ต้องพึ่งความผิดพลาดของผู้ตัดสิน หลังจากที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ต้นซีซั่น ไม่ว่าจะเป็นการเอาชนะบีญาร์เรอัล ในแชมเปี้ยนส์ ลีก 2-0 กดเอซี มิลาน 3-1 ในคัมปิโอนาโต้ และบุกไปเสมอแมนฯ ซิตี้ 1-1 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่วันนี้นาโปลีนอกจากจะเพราะเก่งแล้วที่เอาชนะอินเตอร์ได้ ยังเพราะร็อคคี่ ที่มีส่วนช่วยให้พวกเขาได้ 3 แต้มสำคัญ พร้อมส่งสัญญาณให้คู่แข่งร่วมลีกรู้ว่า พวกเขาคือ 1 ในตัวเต็งที่จะคว้าสคูเด็ตโต้ซีซั่นนี้ หลังจากผ่านไป 5 นัด
   
ก็ถือเป็นคราวเคราะห์ของอินเตอร์ไปครับ เพราะการตัดสินที่ผิดพลาดของกรรมการ คือส่วนหนึ่งของฟุตบอลจริงๆ ทีมงูใหญ่ ไม่ใช่ทีมเดียวในโลกที่เสียหายเพราะการตัดสินของผู้ตัดสิน อีกด้านในวันที่กรรมการตัดสินผิดพลาด และพวกเขาได้ประโยชน์ไปก็มี
   
แต่พูดก็พูดเถอะครับเกมที่ซาน ซิโร่ วันนี้เสียอรรถรสไปโดยปริยาย เพราะผู้ตัดสินจากฟิเรนเซ่รายนี้ จากเกมที่กำลังดูสนุกสองทีมเปิดเกมรุกแลกกันอย่างเต็มที่ ต้องมากร่อยเพราะกรรมการที่ให้ลูกจุดโทษ ที่เกิดจากการฟาวล์นอกเขต นอกจากนั้นยังแจกใบเหลืองที่สองให้โอบี คนทำฟาวล์ในจังหวะนี้ เป็นเหลืองแดงไล่ออกจากสนาม ย้อนกลับไปดูเหลืองแรกที่โอบีได้ก็ปรากฏว่า เป็นใบเหลืองที่ไม่สมควรแจก
   
พอมาถึงจังหวะยิงจุดโทษ มาเร็ก อัมซิก ยังไม่ทันจะยิง อูโก้ คัมปันญาโร่ ลักไก่เข้าไปในกรอบโทษก่อน (เช่นเดียวกับผู้เล่นอินเตอร์ 2 คน) ตามกติกาแล้วร็อคคี่ต้องให้ยิงใหม่ แต่ที่เจ็บปวดสำหรับงูใหญ่ก็คือคนของนาโปลีที่ลักไก่เข้าไปในกรอบโทษก่อนนั่นแหละคือคนที่ซ้ำลูกจุดโทษที่อัมซิกยิงไปติดเซฟของช. เซซาร์ เข้าประตู
   
11 ต่อ 11 เท่ากันก็ว่ายากแล้วที่จะเอาประตูนาโปลีที่โต้น่ากลัว และรับกันอย่างมีวินัย นี่ต้องเล่นน้อยกว่า แถมเป็นฝ่ายตามหลังอีก นักเตะอินเตอร์ที่ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหนจึงอดแค้นใจ และรุมประท้วงร็อคคี่ไม่ได้ แต่ที่พวกเขาได้ตอบแทนก็คือใบเหลือง โทษฐานไม่เคารพผู้ตัดสิน (ช. เซซาร์)
   
คนที่ปกติไม่ค่อยประท้วงผู้ตัดสินอย่างเคลาดิโอ รานิเอรี่ ก็เหลืออดเช่นกันกับการตัดสินของร็อคคี่นัดนี้ ช่วงพักครึ่งระหว่างเข้าห้องพัก กุนซืออินเตอร์เข้าไปดักกรรมการ และเกิดการปะทะคารมกันสองฝ่าย ผลคือรานิเอรี่โดนไล่ขึ้นอัฒจันทร์ ข้อหาประท้วง ขณะที่มัสซิโม โมรัตติ ก็แรงใช้ได้ จบเกมแล้วออกมาบอกว่าไม่อยากให้ร็อคคี่ตัดสินเกมอินเตอร์อีก แม้จะไม่หลุดถึงขนาดพูดว่าไม่อยากเห็นหนังหน้าร็อคคี่อีก
   
ช่วงที่เหลือหลังจากที่อินเตอร์เป็นฝ่ายไล่ตาม ด้วยผู้เล่นที่น้อยกว่า ทีมงูใหญ่กัดฟันสู้ พยายามเปิดเกมบุกเพื่อที่จะตีเสมอ แต่ที่เจอก็คือเกมรับที่แข็งแกร่งสุดๆ ของนาโปลี แดนกลางที่ส่งให้กันอย่างแม่นยำ และเกมสวนกลับที่น่ากลัวสุดๆ นาโปลีที่มีพื้นที่เล่นกว้างขวาง เนื่องจากอินเตอร์ตัวน้อยกว่า แถมแนวรับดันสูง มาได้ประตูที่สองจังหวะสวนกลับ นาที 56 จังหวะที่มัสคาร่าเปิดให้มัจโจ้ ปราดมาแหย่ขาจิ้มลูกที่นากาโตโมะบังไม่มิดผ่านช. เซซาร์เข้าไป
   
อินเตอร์ก้มหน้าก้มตาบุกต่อไป แต่โอกาสสวยๆ อยู่ทางทีมเยือนมากกว่า นาที 75 นาโปลีมาได้ประตูที่ 3 อีกจากลูกที่ลาเวซซี่ที่หลุดกับดักล้ำหน้า จ่ายให้อัมซิกยิงเหน่งๆ เข้าไปอีก
   
พูดได้เลยครับว่านาโปลีมีทุกอย่างครบเครื่องต้มยำจริงๆ ไม่ต้องมีร็อคคี่ช่วยพวกเขาก็ชนะได้ แต่ไหนๆ ก็ได้กรรมการช่วยจับอินเตอร์มือไพล่หลังแล้ว นักเตะอัสซูร่าไม่พลาดโอกาสทองที่จะชกเอาตามถนัด
   
ชัยชนะนัดนี้ก็ทำให้นาโปลีบุกมาชนะอินเตอร์ที่ซาน ซิโร่ เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ครั้งก่อนหน้าที่ทำไว้ก็คือฤดูกาล 1994/95 วันที่ 11 ธันวาคม 1994 ที่พวกเขาชนะ 2-0
   
สถิติที่น่าตกใจอย่างหนึ่งก็คือ 16 เกมหลังที่เป่าเกมที่อินเตอร์ลงเล่น ร็อคคี่แจกใบแดงให้นักเตะถึง 7 ใบ และคนที่รู้ว่าทำไมถึงเยอะขนาดนั้นคงจะมีแค่ร็อคคี่คนเดียวที่รู้
   
นี่ถ้าอินเตอร์มีมูรินโญ่อยู่ รับประกันได้เลยว่าพวกผู้ตัดสินกัลโช่โดนมูด่าเช็ด หลังจากที่สมัยคุมอินเตอร์เคยซัดไม่ไว้หน้ามาแล้ว "มีคนเกลียดเรา ไม่อยากเห็นเราชนะ" หลังเกมที่อินเตอร์ชนะมิลาน 2-0 ย้อนกลับไปวันที่ 24 มกราคม และนัดนั้นสไนเดอร์, ลูซิโอ และฟิตเนสโค้ชอินเตอร์ โดนไล่ออก
   
มูรินโญ่จินตนาการไปไกลถึงขั้นว่ามีทฤษฎีสมคบคิด จ้องจะทำลายอินเตอร์ แต่ผมไม่อยากไปถึงขั้นนั้นครับ แต่ก็อยากจะบอกว่าวันนี้ร็อคคี่ไม่คู่ควรกับการตัดสินเกมใหญ่อย่างที่รานิเอรี่วิจารณ์เขาจริงๆ

เรื่องโดย "toto f.c."

คอลัมน์ mONDO CALCIO นสพ.กีฬาฮอตสกอร์