‘จิ้งจอก’เปลี่ยนหัว!

‘จิ้งจอก’เปลี่ยนหัว!

‘จิ้งจอก’เปลี่ยนหัว!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มาแล้วครับมาแล้ว
           
น้ำเริ่มมาเคาะประตูบ้านแล้วครับ แถมยังเป็นการมาแบบ “ไม่มีใครเตือน”อีกต่างหาก
           
แต่ก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจหรือประหลาดใจให้กับตัวผมแม้แต่น้อย
           
บอกทุกคนให้ทราบทั่วกันว่า หลายจุดมีเหตุการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นฉับพลัน ไม่เคยมีการเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจากใครทั้งนั้น

เชิญคุณขัดขาและแขวะกันต่อไปครับ ประชาชนยินดี

ประชาชนอย่างเราท่าน ยินดีที่จะต่อสู้และยืนด้วยขาของตัวเอง ส่วนที่เตือนบริเวณพระราม 3 ยังไม่มีอะไรตื่นเต้น ดังนั้นเฝ้าระวังด้วยตัวเราเอง เพื่อน และคนในพื้นที่ครับ
           
นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะไม่มีใครรู้ทุกเรื่อง ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ไม่ทอดทิ้งตัวเองและชาวคณะคือสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว
           
ส่วนในเรื่องของวงการฟุตบอล เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องไป และเป็นอีกเส้นทางที่ต้องเดิน ล่าสุด “เถลิงศักดิ์” สเวน โกรัน เอริคส์สัน กุนซือเลขานิยมชาวสวีดิช ตกงานเรียบร้อย
           
หลังจากเข้ามาขี่หลัง “จิ้งจอก” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรชื่อดังแห่งเวที เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ สุดท้ายแล้ว แถลงการณ์ยืนยัน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า สเวน โกรัน เอริคส์สัน

ได้ก้าวลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ตัดสินใจยกเลิกสัญญาด้วยความเห็นชอบของทั้งสองฝ่าย
           
หาใช่การ “ไล่ออก”ไม่!
           
เหตุผลมันก็ไม่มีอะไรมาก เราเห็นกันอยู่ว่าในปีนี้ เอริคส์สัน เข็นทีมไม่ขึ้น ทั้งที่ลงทุนคว้านักเตะมามากมายหลายต่อหลายคน
           
ผิดกับปีก่อน ที่เข้ามารับ “เผือกร้อน”แทนที่ เปาโล ซูซ่า ก็สร้างผลงานได้ดีจนได้ลุ้นเกือบจะได้โควตาเพลย์ออฟ
           
แต่มาในปีนี้ เอริคส์สัน พา เลสเตอร์ ทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้ ทั้งๆ ที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ร่วมกับ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ในการคว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับได้ตั๋วขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก

ที่สุดแล้วการพ่ายคารัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต่อ มิลล์วอลล์ 0-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้อันดับรูดลงไปอยู่ที่ 13 เรียบร้อยแล้ว แม้มีคะแนนตามหลังโซนเพลย์ออฟแค่ 2 แต้มเท่านั้นก็ตาม
           
แต่มันก็ไม่ทันแล้ว
           
เพราะเขาทำ "จิ้งจอก" ให้กลายเป็น "จิ้งจก" จึงไม่แปลกที่ถึงเวลาปิดจ๊อบ 13 เดือนที่อยู่ในถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
           
ตรงนี้น่าสนใจเหมือนกันว่า ใครจะเข้ามาทำงานแทน สเวน ที่รังจิ้งจอก ที่นับตั้งแต่ คุณวิชัย รักศรีอักษร เข้ามาเทกโอเวอร์ ก็เปลี่ยนไปแล้ว 2 คนด้วยกัน
           
จาก เปาโล ซูซ่า มาเป็น สเวน โกรัน เอริคส์สัน
           
เหล้าเก่าในขวดใหม่จะเป็นไปได้หรือไม่ มาร์ติน โอนีล นับตั้งแต่บอกเลิกศาลากับ วิลล่า ไปเมื่อปีกว่าก็ยังว่างอยู่ เขาน่าจะเป็นคนที่เหมาะสมไม่น้อยกับ เลสเตอร์
           
หากเป็น โอนีล รับรองว่า ไม่มียี้แน่นอน
           
จากคนที่ทำทีมขึ้นชั้นมาพรีเมียร์ลีก จากนั้นแค่ปีเดียวพาทีมได้แชมป์ลีกคัพ ก่อนจะทำสำเร็จในยุคของเขารวมทั้งสิ้น 2 สมัย และรองแชมป์อีก 1 ครั้ง
           
นี่ก็เป็นเวลายาวนานถึง 11 ปีที่ โอนีล ไม่ได้อยู่ที่นี่ และจะเป็นเขาหรือไม่นั้น ระหว่างปิดต้นฉบับยังรอคำตอบอยู่
           
แต่เชื่อว่า เมื่อกล้าปลด สเวน ออกจากตำแหน่ง เลสเตอร์ คงจะมีใครที่ดีกว่าและใหญ่กว่า สเวน แน่นอน
          
 เพราะเป้าหมายหนึ่งเดียวก็คือ “ขึ้นชั้น” ก็ต้องดูว่า คนใหม่เข้ามาจะได้เวลานานแค่ไหน เนื่องจากการเปลี่ยนกุนซือบ่อยครั้งมันก็ไม่ค่อยจะดีเหมือนกัน
           
ปลดช้าก็ไม่ดี ปลดเร็วไปก็ไม่ได้ นี่แหละวงการฟุตบอล ยิ่งบางครั้งหวังมากในเวลาอันใกล้
          
มันก็ไม่ดี!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

คอลัมน์ may i come in please นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook