โปรตุเกสบุกเฉือนชนะ ตุรกีเสมอโครเอเชีย

โปรตุเกสบุกเฉือนชนะ ตุรกีเสมอโครเอเชีย

โปรตุเกสบุกเฉือนชนะ ตุรกีเสมอโครเอเชีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายในกลางปีหน้าที่โปแลนด์และยูเครนที่กำลังจะมาถึงเหลือตั๋วเพียงสี่ใบสำหรับแปดทีมในรอบเพลย์ออฟที่จะได้ไป ซึ่งเป็นงานยากของทุกทีมเลย เพราะผลงานในรอบแบ่งกลุ่มอาจจะพลาดไปหน่อย จึงต้องมาเหนื่อยกันต่อในเกมเพลย์ออฟแบบนี้ที่ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวหลังสองนัดเหย้าเยือนจบลง

โดยจะขอเลือกคู่ที่น่าสนใจมาวิเคราะห์วิจารณ์กันตามปกติ เริ่มจากเกมระหว่างทีมชาติบอสเนียกับทีมชาติโปรตุเกสที่ทีมเยือนอาจจะดูดีกว่า แต่บอสเนียก็มีพัฒนาการขึ้นมาเร็วมาก อีกคู่เป็นการเจอกันของสองยอดทีมระดับเดียวกันคือทีมชาติตุรกีกับทีมชาติโครเอเชียครับ
               
ฟุตบอลยูโร รอบเพลย์ออฟ
               
บอสเนีย-โปรตุเกส
               
ทีมชาติบอสเนียถือว่ามาได้ไกลเลยทีเดียว แม้ว่าผลงานในรอบแบ่งกลุ่มจะจบด้วยอันดับสอง แต่ก็น่าพอใจ ซึ่งกุนซือของทีมอย่างซาเฟ็ต ซูซิค ก็อยากเห็นลูกทีมสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายให้ได้เหมือนกัน

ทำให้ต้องพยายามรักษามาตรฐานที่ดีอยู่แล้วของทีมเอาไว้ให้ได้ และฝากความหวังไว้ที่เอดิน เชโก้ ซูเปอร์สตาร์กองหน้าตัวเดียวของทีมเป็นตัวชูโรง แต่สภาพทีมในตอนนี้ก็ไม่น่าห่วง เพราะตัวหลักส่วนใหญ่อยู่กันพร้อมและเป็นพวกที่ช่วยกันเล่นรอบแบ่งกลุ่มมาด้วยกัน

สำหรับแผนการเล่นบอสเนียจะมาในระบบ 4-4-2 มีเคนาน ฮาซากิด เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วย โบริส พานด์ซ่า, อัดนาน มราวัค, เอเมียร์ สปายิค และซาซ่า ปาปัค คอยช่วยกัน ตรงกลางมี เอลเวียร์ ราฮิมิค กับ เซนัด ลูลิค คอยตัดเกม พร้อมสามตัวรุกอย่าง มิราเล็ม ปรายิช, ฮาริส เมดุมยานิน และ ซเวดาน มิซิโมวิช ในขณะที่กองหน้ามี เอดิน เชโก้ ห้อยคอยทำประตูเพียงคนเดียวครับ
               
ทีมชาติโปรตุเกสไปพลาดท่าแพ้ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มทำให้ต้องจบด้วยตำแหน่งอันดับสองและลงมาลุ้นในรอบเพลย์ออฟ ถือว่ายังต้องเหนื่อยกับการชิงตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายอยู่ ทำให้เปาโล เบนโต้ กุนซือของทีมก็ต้องเหนื่อยแน่กับการวางแผนแท็กติกต่างๆ เพื่อให้ทีมสมหวัง

แม้ว่านักเตะหรือองค์ประกอบภายในทีมจะดูดีกว่าคู่แข่งก็ตาม แต่ยังไงก็ประมาทไม่ได้ สำหรับเรื่องตัวผู้เล่นถ้าไม่นับปัญหาของริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่เลิกเล่นทีมชาติ กับโชเซ่ โบซิงวา ที่ไม่กินเส้นกับโค้ช ก็ถือว่าสภาพทีมค่อนข้างพร้อมเลยทีเดียว เนื่องจากตัวที่เรียกเข้ามาฟิตสมบูรณ์

โดยทีมจะมาเน้นเกมรับริมเส้นที่เป็นจุดเด่นอยู่แล้วในระบบ 4-3-3 มีรุย ปาตริซิโอ เป็นผู้รักษาประตู คู่เซ็นเตอร์ใช้บริการของ เปเป้ กับ บรูโน่ อัลเวส และให้ ฟาบิโอ โคเอ็นเทรากับ โรลันโด้ เป็นแบ็ก ตรงกลางประกอบไปด้วย เจา มูตินโญ่, ราอูล เมเรเลส และ คาร์ลอส มาร์ติน คอยคุมจังหวะ

ในขณะที่แนวรุกมีตัวเก่งอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กับ นานี่ คอยขนาบข้าง เฮลเดอร์ ปอสติก้า
               
เกมนี้ ทั้งสองทีมเคยเจอกันมาในฟุตบอลรอบเพลย์ออฟโซนยุโรป ซึ่งเป็นโปรตุเกสทีมเยือนที่เอาชนะไปได้ ทำให้บอสเนียเจ้าบ้านในเกมนี้หวังจะเอาชนะให้ได้ เพราะภายในทีมพัฒนามากกว่าเมื่อก่อนและนักเตะก็มีประสบการณ์มากขึ้น แต่ถ้าเทียบกับโปรตุเกสทีมเยือนยังดูเป็นรองกว่าในเรื่องของชื่อชั้น ความสามารถเฉพาะตัว ทำให้บอสเนียต้องเอาบอลระบบเข้าสู้

เนื่องจากนักเตะชุดนี้เล่นด้วยกันมานานย่อมมีความเข้าขา ขณะที่โปรตุเกสถ้าหวังจะชนะต้องไม่พลาดในเกมรับและแนวรุกเล่นให้ได้ตามฟอร์ม แต่สุดท้ายเชื่อว่าโปรตุเกสจะเฉือนเอาชนะไปได้ลูกนึง เพราะเรื่องของความเขี้ยวทีเด็ดทีขาดในเกมใหญ่มีมากกว่าครับ
              
สกอร์ที่คาด บอสเนีย แพ้ โปรตุเกส 0-1
               
ตุรกี-โครเอเชีย
               
ทีมชาติตุรกีหวังจะเข้าไปเล่นในฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายให้ได้ เพราะอกหักมาจากฟุตบอลโลกเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ถ้านับผลงานในฟุตบอลยูโรครั้งที่แล้วถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ยิ่งได้กุนซือจอมฟิตอย่าง กุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามากุมบังเหียนของทีมอีก ซึ่งทีมจะพลาดไม่ได้อีกแล้วถ้าหวังจะเข้ารอบ

เพราะปัญหาของทีมคือเรื่องของฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอ ถ้าวันไหนเล่นดีก็ไม่น่าห่วง แต่ถ้าเล่นไม่เข้าฟอร์มก็มีสิทธิ์แพ้ได้ทุกทีมเหมือนกัน จึงต้องแก้ไขให้ได้ในจุดนี้ ในส่วนของสภาพทีมไม่น่าห่วงเท่าไหร่ พวกตัวหลักที่เล่นมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มอยู่พร้อม

โดยจะมาเล่นในระบบ 4-5-1 เริ่มจากผู้รักษาประตูเป็น วอลคาน เดมิเรล แนวรับประกอบไปด้วย ก็อคคาน โกลนูล, เซอร์เว็ต เซติน, อีเกเมน คอร์คมาน และ ฮาคาน บัลต้า ตรงกลางมี เมเม็ต โตปาล, เอ็มเร่ เบโรโซกูล และ เซลซุค ไอนาน คอยคุมจังหวะ พร้อมตัวรุกอย่าง ฮามิต อัลตินท็อป กับ อาร์ด้า ตูราน สุดท้ายกองหน้าตัวเป้าจะเป็น บูรุค ยิลมาซ คอยล่าตาข่าย
               
ทีมชาติโครเอเชียจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับสองจึงต้องมาลุ้นเพลย์ออฟกันอีกเฮือก ถือว่าเป็นงานหนักเลยทีเดียวที่จะพลาดไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งสลาเวน บิลิช กุนซือของทีมต้องพยายามเค้นฟอร์มของลูกทีมออกมาให้ได้ถ้าหวังจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเกมนี้ที่ต้องออกไปเล่นในฐานะทีมเยือนก่อน

ทำให้ต้องเจอกับความกดดันแน่ เพราะคู่แข่งถือว่าเป็นทีมที่ดุเหลือเกินเวลาเล่นในบ้านของตัวเอง ซึ่งถ้าทีมไม่แพ้กลับมาก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว ในส่วนของสภาพทีมไม่มีปัญหา ตัวที่เรียกเข้ามาฟิตหมดและจะมาเล่นในระบบ 4-2-3-1

มีสติเป้ เพลติโคซ่า เป็นผู้รักษาประตู คู่เซ็นเตอร์เป็น โจซิฟ ซิมูนิช กับ เดยัน ลอฟเรน และให้ เวดราน ชอว์ลูก้า กับ ดาริโอ เซอร์น่า เป็นแบ็ก ตรงกลางมี อ็อกเยน วูโคยวิช, ดาเนี่ยล ปรานยิช คอยคุมจังหวะ พร้อมตัวรุกอย่าง อิวาน เปริซิซ, ลูก้า โมดริช และ เอดูอาร์โด้ ส่วนกองหน้าจะใช้ นิคิก้า เยลาวิช ห้อยเพียงคนเดียว
               
เกมนี้ เป็นการเจอกันของสองทีมที่มีศักยภาพ องค์ประกอบภายในทีมคล้ายๆกัน แถมเรื่องตัวผู้เล่นก็ดูเท่ากัน ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบซักเท่าไหร่ แต่ตุรกีโชคดีกว่าที่ได้เล่นในบ้านต่อหน้าเสียงเชียร์ของตัวเองจึงต้องมุ่งมั่นมากกว่าเดิมแน่

อย่างไรก็ตาม กุนซือทั้งสองทีมเป็นยอดฝีมือทั้งคู่จึงน่าจะสู้กันในเรื่องแท็กติก แผนการต่างๆ รวมทั้งนักเตะของทีมก็ต้องเล่นเพื่อทีมอย่างเต็มที่ เพราะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายแล้ว ซึ่งดูแล้วน่าจะเล่นแบบระมัดระวังและเสมอกันไปก่อนในเกมนี้ครับ
               
สกอร์ที่คาด  ตุรกี เสมอ โครเอเชีย 1-1

เรื่องโดย"หมอเมา"

คอลัมน์ หมอเมาฟันธง นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook