สิงโตคำราม...หนทางยังมี???

สิงโตคำรามเตรียมเข้าสู่บรรยากาศโซซัดโซเซเหมือนคนเมาอีกครั้งในแมตช์ที่ลงเตะอุ่นเครื่องกับสเปน เป็นสถานการณ์ที่หลายคนคิดกันไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติอังกฤษในรอบคัดเลือกยูโร 2012 ไม่ได้สวยงามเหมือนทีมใหญ่ทีมอื่นๆ ผลงานน้ำขึ้นน้ำลงคาดหวังยากไปเรื่อยเปื่อย
   
สถานการณ์ปัจจุบันนักเตะหลายคนมีอาการบาดเจ็บ ต้องหลุดจากชุดนี้ไป รวมทั้งเวย์น รูนี่ย์ ที่ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวเข้ามา เพราะต้องใช้เวลาช่วงนี้เตรียมการเรื่องตัวแทนที่จะลงเล่นในรอบแรกของยูโร 2012 รอบสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รูนี่ย์ต้องชดใช้โทษแบน
   
ทุกอย่างจึงทำให้คิดกันไปอย่างที่บอกมา สิงโตคำรามเต็มชุดก็เหนื่อย อาการลองของใหม่และไม่เต็มที่แบบนี้ยิ่งเหนื่อยหนัก ในขณะที่กระทิงดุซึ่งเป็นแชมป์เก่ายูโรครั้งที่แล้วกับแชมป์โลกในเวลาต่อมา เข้ารอบสุดท้ายยูโร 2012 แบบนอนหลับตาพริ้มผ่อนคลายกันมาเลยทีเดียว
   
อย่างไรก็ตาม การลงเตะอุ่นเครื่องของสเปนช่วงหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีการเน้นอะไรกันมากมาย ทำให้ผลงานคลายความแข็งแกร่งไปพอประมาณ อาการผ่านจุดสุดยอดจึงไม่จำเป็นและไม่เน้นเกมอุ่นเครื่อง เพราะไร้ความหมายของไม่มีแรงกระตุ้นที่มากพออีกต่อไป ภาพเหล่านี้เริ่มมีให้เห็น
     
แต่สเปนก็ยังเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ถ้าได้แรงกระตุ้นเพิ่มหรือเน้นเรื่องผลงานกันมากขึ้นก็น่ากลัวไม่เสื่อมคลาย ยิ่งการยกพลมาเวมบลีย์วันนี้มาแบบเต็มชุดอีกต่างหาก สร้างความลำบากให้สิงโตคำรามแน่นอน จะมากหรือน้อยว่ากันไปตามแรงจูงใจก็แล้วกัน
   
สิงโตคำรามหมดหนทางหรือเปล่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น การเล่นในบ้านแม้ว่ากดดันมาก แต่ก็ยังได้แรงสนับสนุนเช่นกัน นี่คือแมตช์ที่เจอกับทีมใหญ่ครั้งแรกหลังจากโดนเยอรมันสอนบอลในบอลโลกที่ผ่านมา ยังไงก็เต็มที่กันหน่อยแม้สภาพทีมค่อนข้างกระท่อนกระแท่นก็ตาม
   
สิ่งที่ฟาบิโอ คาเปลโล่ พึงกระทำเป็นอันดับแรกในการเจอกับทีมอย่างสเปนก็คือ จำกัดพื้นที่ในสนามให้เหลือน้อยที่สุด เพราะยิ่งพื้นที่เยอะ พื้นที่เปิดกว้าง ยิ่งโดนการต่อบอลสั้นๆ โหมเข้าใส่เจาะเข้าช่องได้ทุกทิศทาง
       
การเปิดเกมบุกเข้าแลกคงไม่ใช่เรื่องสำคัญอันดับต้นๆ แม้แฟนบอลจะต้องการก็ตาม ต้องจำกัดพื้นที่ก่อน ตามด้วยการแพ็กกันให้แน่น โดยเฉพาะมิดฟิลด์ตัวรับอย่างสก็อตต์ ปาร์คเกอร์กับ แกเร็ธ แบร์รี่ หรือจะใครก็ตามที่คาเปลโล่เลือกใช้งานต้องเชื่อมกันตลอดทั้งเกมทั้งในระหว่างที่ดันเกมขึ้นมาหรือว่าถอยลงไปช่วยกันรับ

เพราะสเปนจะเจาะตามช่องที่ว่านี่แหละต้องช่วยกันอุดช่วยกันปิดให้สนิท แนวรับฝั่งซ้ายอย่างแอชลีย์ โคล ที่ว่าแน่ๆ พักหลังฟอร์มหล่นโดนเจาะได้ง่ายขึ้นตามลำดับเหมือนกัน
    
จอห์น เทอร์รี่ จะได้ลงนัดนี้หรือเปล่า ไม่ต้องไปสนใจ การจำกัดพื้นที่ในแนวรับเพื่อทำให้มิดฟิลด์ของสเปนอึดอัดอีกอย่างหนึ่งก็คือ แนวรับอาจจะต้องขยับขึ้นมาสูงกว่าปกติอีกนิดหน่อย ไม่ใช่ถอยกันยืนเป็นแนวอยู่หน้าประตูตัวเอง นั่นจะเปิดพื้นที่มหาศาลให้บรรดามิดฟิลด์ของกระทิงดุได้ปั้นเกมกันตามใจชอบ
      
ความสวยงามจำเป็นหรือเปล่า คงไม่มีใครคิดว่าจะได้ความสวยงามจากเกมของทีมชาติอังกฤษ เพราะฉะนั้นนักเตะคงไม่ต้องคำนึงถึงประเด็นนี้กันมากมาย ยิ่งเจอกับทีมอย่างสเปน ยิ่งไม่ต้องคิดถึงกันเลยเรื่องของการพยายามครองบอลเข้าสู้ ดูแล้วคนละชั้นช้ำใจเปล่าๆ
     
แม้ว่าทีมชาติอังกฤษจะพยายามอย่างมากใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่จะเล่นบอลบนพื้นให้ดีขึ้น ทว่านัดนี้คงไม่ใช่แท็กติกที่ดีแน่นอนที่จะสู้สเปนด้วยการเล่นแบบนั้น
     
อาจจะต้องมีการงัดบอลยาวออกมาตอบโต้ นี่คือเรื่องที่อาจจะได้เห็นกัน บอลส่อเค้าที่จะต้องเน้นข้ามหัวมิดฟิลด์สเปนเข้าไว้ ในขณะที่เหตุผลเสริมก็คือแนวรับของสเปนอย่างปูโยลและปีเก้ที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานเป็นระยะ ดูเชื่องช้าไปเยอะ ในขณะที่อัลบิโอลก็ฟอร์มไม่แน่นอนในทีมชุดขาว
     
เป็นเรื่องราวที่อังกฤษคงต้องงัดมาใช้ และแน่นอนว่าถ้าต้องเอาสไตล์โยนบอลข้ามหัวแนวมิดฟิลด์ของสเปน นั่นหมายความว่าบรรดาปีกทั้ง 2 ข้างของสิงโตคำรามไม่ว่าจะเป็น ธีโอ วัลค็อตต์, แดเนียล สเตอร์ริดจ์, อดัม จอห์นสัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่งหรือ เจมส์ มิลเนอร์ เลือกใช้ใครก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
   
เพราะการเอาชนะในพื้นที่ริมเส้นเป็นเรื่องจำเป็นต่อการเล่นแบบสาดไปมุมทั้ง 2 ข้าง ถ้าบรรดาปีกเอาชนะตัวประกบของสเปนได้ นั่นจะทำให้มีโอกาสเปิดเข้ากลางที่ ดาร์เรน เบนท์ รออยู่ ซึ่งเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว อีกประเด็นก็คือปีกเก็บบอลและเล่นต่อได้ด้วยการเอาชนะตัวประกบนั้น เป็นการชะลอเกมของสเปนที่จะบุกกลับมาอีกครั้งหนึ่งไปในตัว
     
พูดเหมือนง่าย แต่เป็นพื้นฐานในแมตช์นี้ที่นักเตะสิงโตคำรามน่าจะต้องทำให้ได้ ยังคงยืนยันกันต่อไป การพยายามครองบอลสู้กับนักเตะสเปนไม่ใช่แท็กติกที่ควรเลือกใช้ในเกมนี้
     
รายละเอียดปลีกย่อยที่ควรคำนึงหรือไม่ก็แล้วแต่ ทว่าน่าเก็บมาคิดและลองดูกันบ้าง ไม่ว่าผู้รักษาประตูของสเปนจะใช้ใครลงมาเฝ้าเสา อิเคร์ คาร์ซิญาส, เปเป้ เรน่า หรือว่า บิคตอร์ บัลเดส สไตล์ก็จะไม่แตกต่างกัน
     
การขึ้นบอลจะไม่มีการเตะสาดโด่งขึ้นไป แต่จะออกบอลให้กองหลังขึ้นเกมต่อกันมาแดนกลางและแนวหน้าตามลำดับ
   
บรรดาปีกหรือแนวหน้าของทีมชาติอังกฤษที่คิดว่ามีความเร็ว ต้องก่อกวนการเปิดบอลทุกจังหวะของผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน เพื่อให้เกิดความยากมากขึ้นกับการเปิดบอล  อาจจะมีความผิดพลาดของการขึ้นบอลมากขึ้น หรือบางทีถ้าโชคเข้าข้างอาจจะบล็อกจนบอลเข้าทางตัวเองได้มากขึ้น

เรื่องโดย "ดามัน"

คอลัมน์ ทดเจ็บ 3 นาที นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์