โปรตุเกสเข้ารอบเฉียดฉิว ดอยช์เสมอดัตช์

โปรตุเกสเข้ารอบเฉียดฉิว ดอยช์เสมอดัตช์

โปรตุเกสเข้ารอบเฉียดฉิว ดอยช์เสมอดัตช์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในที่สุดก็มาถึงเพลย์ออฟรอบสุดท้ายกันแล้ว ซึ่งคู่บิ๊กแมตช์ระหว่างทีมชาติโปรตุเกสกับทีมชาติบอสเนียสถานการณ์ก็ยังไม่แน่นอนว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายเข้ารอบ เพราะเกมแรกเสมอกันมาแบบชนิดที่ต้องชมเกมรับบอสเนีย และตำหนิแนวรุกโปรตุเกสที่บุกใส่แต่ไม่มีความเฉียบคมพอ ขณะที่ทีมอื่นๆ อย่างสาธารณรัฐไอร์แลนด์ โครเอเชีย และสาธารณรัฐเช็กโอกาสเข้ารอบมีมากกว่าคู่แข่งหลังจากที่ชนะมา ทำให้อีกคู่ที่นำมาฝากกันจะเลือกเกมอุ่นเครื่องของสองบิ๊กยุโรปอย่างทีมชาติเยอรมันกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์มาเปลี่ยนบรรยากาศกัน
               
ฟุตบอลยูโร รอบเพลย์ออฟ นัดที่สอง
               
โปรตุเกส-บอสเนีย
               
ทีมชาติโปรตุเกสดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรสักเท่าไหร่ เหลือแค่แนวรุกต้องมีความเฉียบคมเฉียบขาดกว่านี้ถ้าหวังจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ทำให้ เปาโล เบนโต้ กุนซือของทีมต้องเรียกฟอร์มเก่งของลูกทีมกลับมาให้ได้ เพราะเกมที่แล้วเสมอมาแบบน่าเสียดาย สำหรับข่าวดีคือทีมไร้ปัญหาตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษแบน

นอกจากการไม่เรียกตัว โจเซ่ โบซิงวา กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ เข้ามาอยู่แล้ว ดังนั้น โปรตุเกสต้องมาเล่นเกมรุกตั้งแต่ต้นเกมแน่ เพราะทีมดีกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร โดยทีมจะมาเล่นในระบบ 4-3-3 เริ่มจาก รุย ปาทริซิโอ เป็นผู้รักษาประตู แนวรับให้ บรูโน่ อัลเวส กับ เปเป้เป็นคู่เซ็นเตอร์ พร้อมสองฟูลแบ็กอย่าง เจา ปาไรร่า กับ ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา

ตรงกลางมี ราอูล เมเรเลส, เจา มูตินโญ่ และ มิเกล เวโลโซ่ คอยช่วยกันคุมเกมตรงกลางสนาม ในขณะที่พวกแนวรุกจะใช้ตัวความเร็วสูงอย่าง คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กับ นานี่ช่วยกองหน้าตัวเป้าอย่าง เฮลเดอร์ ปอสติก้า
               
ทีมชาติบอสเนียทำได้ดีในเกมที่แล้วแม้จะเสมอมาก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นถึงเกมรับที่เหนียวแน่น ซึ่งกุนซือของทีมอย่าง ซาเฟ็ต ซูซิค ก็อยากเห็นลูกทีมสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูโรรอบสุดท้ายให้ได้เหมือนกัน ทำให้ต้องรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีของลูกทีมเอาไว้ให้ได้ แถมนัดที่แล้วก็คงเรียกความมั่นใจของทีมมาได้จากการที่เสมอกับคู่แข่งแม้ว่าจะดูเป็นรองกว่าก็ตาม

ในส่วนของสภาพทีมได้สองนักเตะอย่าง บอริส ปันด์ซ่า กับ ซาซ่า ปาปาซ พ้นโทษแบนจากเกมที่แล้วกลับมา รวมทั้ง เซยาด ซาลิโฮวิช ที่หายเจ็บกลับมาด้วย โดยดูแล้วบอสเนียน่าจะมาเล่นเกมตั้งรับรอจังหวะสวนกลับมากกว่าในระบบ 4-5-1 มีอัสเมียร์ เบโกวิช เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วย มูฮาเม็ด เบซิซ, เอเมียร์ สปาฮิช, ซาเนล ยาฮิชและ เซนาด ลูซิซ

แดนกลางมีสามประสานอย่าง ซเวดราน มิซิโมวิช, เอลเวียร์ ราฮิมิซ และ แฮริส เมดุมยานิน พร้อมตัวรุกอย่าง มิราเล็ม ปรานยิช กับ ซาซ่า ปาปาซ ที่ถูกดันขึ้นไปเล่นปีก โดยมี เอดิน เชโก้ เป็นกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียวครับ
               
เกมนี้ ช่วงนี้ผลงานของเจ้าบ้านทีมชาติโปรตุเกสไม่ค่อยมีความแน่นอนซักเท่าไหร่แถมผลงานก็ลุ่มๆ ดอนๆ จนต้องมาเพลย์ออฟแบบนี้ ซึ่งทีมชาติบอสเนียจะดูดีกว่าเรื่องฟอร์มการเล่น แถมสภาพทีมก็ดีกว่าเมื่อก่อน และนัดแรกก็ยังสามารถยันเสมอโปรตุเกสได้อีก

อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบเรื่องตัวผู้เล่นชอบเจ้าบ้านมากกว่าที่ตอนนี้ต้องเอาชนะให้ได้เพียงสถานเดียว มิเช่นนั้นจะเป็นการพลิกล็อกครั้งใหญ่แน่ จึงส่งผลให้เกมดูจะกดดันทั้งสองฝ่าย อยู่ที่ว่าฝั่งไหนจะพลาดก่อน แต่ถ้าให้เลือกชนะขอเลือกโปรตุเกสที่เก๋าเกมในเวทีระดับนานาชาติมากกว่าจะเฉือนเอาชนะไปได้
               
สกอร์ที่คาด โปรตุเกส ชนะ บอสเนีย 1-0
               
ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ
               
เยอรมัน-เนเธอร์แลนด์
               
ทีมชาติเยอรมันฟอร์มอุ่นเครื่องนัดที่แล้วโชคดีที่ตีเสมอได้แม้ว่าจะถูกนำไปก่อน แต่ดูเหมือน โยอัคคิม เลิฟ กุนซือของทีมก็ไม่ซีเรียสเรื่องตัวผู้เล่นซักเท่าไหร่ พยายามจะให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ลงเล่นสะสมประสบการณ์มากกว่า อย่างไรก็ตาม ก็แอบหวังที่จะชนะในบ้านเรียกความมั่นใจเหมือนกัน

โดยสภาพทีมไม่มี บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่เจ็บยาวอยู่แล้วรวมทั้ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ กองหน้าตัวเก๋าที่เจ็บถอนตัวออกจากทีมไปก่อนหน้านี้ ทำให้ทีมจะเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม เริ่มจาก มานูเอล นอยเออร์ เป็นผู้รักษาประตู คู่เซ็นเตอร์เป็นแพร์ แมร์เตซัคเคอร์ กับ เจโรม บัวเต็ง และให้ เดนนิส อาโอโก้ กับ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ เป็นแบ็ก

ตรงกลางมี ซามี่ เคดิร่า กับ คริสเตียน เทรสซ์ คอยตัดเกมพร้อมตัวรุกอย่าง เมซุต โอซิล, โทนี่ โครส และ มาริโอ เกิตเซ่ ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะใช้บริการของ มาริโอ โกเมซเหมือนเดิม
               
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ทำได้แค่เสมอในเกมที่แล้วเหมือนกัน แม้ว่าจะขนนักเตะชุดใหญ่ลงสนามแบบเต็มอัตราศึก แต่ก็เป็นเพียงเกมอุ่นเครื่องจึงไม่น่าห่วงอะไรมาก และตัว เบิร์ต ฟาน มาร์ไวก์ กุนซือของทีมก็อยากเห็นลูกทีมเอาชนะคู่แข่งสำคัญในเกมนี้ให้ได้มากกว่า ส่วนเรื่องสภาพทีมไม่มี ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต ที่เจ็บอยู่ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ตกลงกับสโมสรของเจ้าตัวว่าจะให้พักบ้าง

อย่างไรก็ตาม ตัวหลักที่เหลือก็พร้อมช่วยทีม โดยจะมาในระบบ 4-2-3-1 มี มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก เป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วย เกรเกอรี่ ฟาน เดอ วีล, โยริส มาไธจ์เซ่น, จอห์น ไฮติงก้า และ คาลิด บูลาห์รูซ ตรงกลางมี มาร์ค ฟาน บอมเมล กับ ไนเจล เด ยอง คอยช่วยกัน มีเดิร์ค เคาท์, ไรอัน บาเบิล และ เวสลีย์ ชไนเดอร์ สุดท้ายกองหน้าตัวเป้าจะให้โอกาส คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงไปเป็นตัวจริงครับ
               
เกมนี้ ทีมชาติเยอรมันเจ้าบ้านอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่มาเยือนซักเท่าไหร่ แถมฟอร์มบู่มาเหมือนกันอีกต่างหาก ถ้าดูจากองค์ประกอบต่างๆ ภายในทีมถือว่าพอๆ กันเลยทั้งเรื่องตัวผู้เล่น ระบบทีม หรือตัวกุนซือ ซึ่งเยอรมันอาจจะเด่นในเรื่องเกมรุก แต่เนเธอร์แลนด์มีดีที่เกมรับ ทำให้รูปเกมน่าจะเป็นการชิงจังหวะของทั้งสองทีมว่าฝั่งไหนจะฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของอีกฝ่ายได้ก่อน

รวมทั้งได้ดูดาวรุ่งของแต่ละทีมว่าดีพอหรือเปล่า ดังนั้น ถ้าดูจากทรงบอลของทั้งสองทีมแล้วยังเชื่อว่าผลน่าจะออกเสมอกันไปแบบไม่คิดมากครับ
               
สกอร์ที่คาด เยอรมัน เสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1

เรื่องโดย "หมอเมา"

คอลัมน์ หมอเมาฟันธง นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook