โค้ชไทย หรือ โค้ชนอก

โค้ชไทย หรือ โค้ชนอก

โค้ชไทย หรือ โค้ชนอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก็ยังมีประเด็นให้พูดถึงกันหลังจากที่ ซิโก้ “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยุติบทบาทการทำหน้าที่เฮดโค้ชทีมชาติไทย ทำให้กระแสของแฟนฟุตบอลไปในหลายทิศทางทั้ง “เห็นด้วย” และ “ไม่เห็นด้วย” จากการนำเสนอของสื่อและความคิดเห็นของผู้สันทัดกรณีในประเด็นที่ต่างต่างกัน

มาถึงตรงนี้คงย้อนเวลาอะไรกลับไปไม่ได้แล้วนอกจากเดินหน้าต่อ ซึ่งเป็นงานหนักของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยภายใต้การนำของ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ในการคัดเลือกหานายใหญ่คนใหม่ของขุนพลช้างศึกชุดใหญ่

โดยเฉพาะกุนซือทั้งชาวไทยและต่างประเทศหลายคนที่เป็นข่าวว่าจะมารับหน้าที่ต่อ ที่ผ่านมาก็เห็นกุนซือหลายๆคนที่ส่งใบสมัครเข้ามาที่สมาคมหรือบางคนที่เดินทางมายังสมาคมฟุตบอลด้วยตัวเอง ไม่ว่าทั้งกุนซือชาวต่างชาติที่เคยคุมทีมชาติไทยอย่าง วินนี่ “วินเฟล็ด เชฟเฟอร์” ชาวเยอรมัน หรือโค้ชไทยเองอย่าง โค้ชโชค “โชคทวี พรหมรัตน์

สำหรับงานของนายใหญ่ทีมชาติไทยคนต่อไป คือ เกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย ที่เลือกอีก  3 นัด กับ “ทีมชาติยูเออี” “ทีมชาติอิรัก” และ “ทีมชาติออสเตรเลีย” ซึ่งไม่มีความหมายในการไปฟุตบอลโลกเพราะ “ตกรอบ” เรียบร้อย เหลือแค่เล่นให้จบตามโปรแกรมเท่านั้นเอง

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าสมาคมมีเวลาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปในการแต่งตั้งกุนซือคนใหม่พร้อมประเด็นที่น่าสนใจคือ “โค้ชไทย” หรือ “โค้ชนอก” เพราะมีความแตกต่างกันแน่นอน ในยุคที่ฟุตบอลไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่ใช่เป็นพี่บิ๊กหรือพี่เบิ้มในระดับภูมิภาคอย่างอาเซียนเท่านั้น แต่ต้องก้าวขึ้นไปอยู่ในระดับเอเชีย สู้กับทีมจากตะวันออกกลางหรือเอเชียตะวันออกได้สูสี ด้วยเหตุผลที่ว่าถ้าจะไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ยังไงก็ต้องผ่านทีมเหล่านี้ให้ได้

ถ้ามองการทำงาน สมมุติโค้ชคนต่อไปเป็น “โค้ชไทย” ก็มีจุดแข็งในแง่ของการปรับตัว การทำงานกับนักเตะที่เชื่อว่าคุ้นเคยอยู่แล้วเพราะคงหนีไม่พ้นบรรดาโค้ชที่อยู่ในวงการนี้แหละ นอกจากนั้นไม่มีกำแพงเรื่องการสื่อสาร วัฒนธรรม ความเข้าอกเข้าใจนักเตะย่อมได้เปรียบกว่า “โค้ชนอก”

แต่อีกด้าน ก็จะมีคำถามว่า ความรู้เรื่องของ “ศาสตร์ฟุตบอล” ดีแค่ไหน ไม่ใช่แค่เก่งทฤษฎีผ่านการอบรมโปรไลเซ่นส์มาเพีนงอย่างเดียว ต้องเก่งปฏิบัตินำมาปรับใช้กับทีมได้อย่างลงตัว บวกกับ “บารมี” ที่ต้องได้รับการยอมรับจากนักเตะ แฟนบอลและที่สำคัญสื่อมวลชนพอสมควร

ขณะที่ “โค้ชนอก” ถ้ามาแบบของแบรนด์เนม อาจจะไม่มีข้อสงสัยในฝีมือความรู้ความสามารถสักเท่าไหร่ ที่เป็นห่วงคือเรื่องของ “การปรับตัว” ความเข้าใจในวัฒนธรรมของฟุตบอลเมืองไทย มีมากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นแบบ “เชฟเฟอร์” ที่เคยคุมทีมในเมืองไทย หรือโค้ชชาวต่างชาติที่เคยทำงานในเมืองไทยแล้วอาจจะไม่น่าห่วงมากสักเท่าไหร่ แต่พอมาคุมทีมก็ต้องได้รับการยอมรับจากนักเตะในระดับนึงด้วย

ถ้ามองในเชิงลึก ตอนนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำลังถูกจับตาอย่างหนักจากสื่อมวลชนและแฟนฟุตบอลว่าจะเดินหน้าต่อยังไง เพราะต้องยอมรับว่าสิ่งที่กุนซือคนก่อนอย่าง “ซิโก้” ทำมา ถือว่าเข้าไปอยู่ในหัวใจคนไทยไม่น้อย บางทีอาจจะเป็นความรู้สึกอึดอัดด้วยซ้ำ เพราะตัวเลือกต้อง “ถูกต้อง” ในการไปพิสูจน์ในสนาม และ “ถูกใจ” ซึ่งฟุตบอลเป็นกีฬาที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว บางทีโค้ชเก่ง นักเตะฝีเท้าดีแต่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังก็ได้

วงการฟุตบอลไทยตอนนี้ สมาคมมองถึงเป้าหมายใหญ่คือการพัฒนาเพื่อไปฟุตบอลโลกสมัยแรกให้ได้ แต่ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ไปถึงจุดนั่น ปฏิเสธไม่ได้ว่า “โค้ชฟุตบอล” คือจิ๊กซอว์ที่สำคัญชิ้นนึงเลยทีเดียว

สุดท้ายเชื่อว่า กุนซือทีมชาติไทยคนต่อไป ยังไงก็ “ไม่ถูกใจ” คนทั้งหมดอย่างแน่นอน เพราะความคิดและมุมมองที่แตกต่างกันของคนในวงการฟุตบอล แฟนบอลรวมทั้งสื่อมวลชน แต่อย่างน้อยๆก็หวัง ไม่ว่าจะ “โค้ชไทย” หรือ “โค้ชนอก” มาคุมทีม ขอให้ “ถูกต้อง” และสร้างความสุขพร้อมความสำเร็จให้กับทีมชาติไทยและวงการฟุตบอลไทยละกันครับ

แบงค์ พิพัช 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook