"มือมืดที่แทงข้างหลัง"

"มือมืดที่แทงข้างหลัง"

"มือมืดที่แทงข้างหลัง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ไม่ ไม่ ไม่...ผมไม่เคยคิดว่านักเตะรวมใจกันหักหลังผม แต่แน่นอนว่ามันมีอยู่บางอย่างที่ผมนั้นรู้สึกว่าเหมือนกับตนเองโดนแทงข้างหลัง"

คำ เปิดใจครั้งแรกของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ นับตั้งแต่โดน เลสเตอร์ อัปเปหิ หลังเก็บตัวเงียบมานานแล้ว "ทิงเกอร์แมน" ก็ออกมาพั่งพรู่ความในใจที่สั่งสมมานาน

แม้ทุกอย่างจะเป็นอดีตไปแล้วและแน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องถูกต้องซักเท่าไหร่ที่จะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่ในฐานะมนุษย์ที่เสพติดความดราม่าเป็นชีวิตจิตใจ...

เรื่องนี้ย่อมทำเอาโลกไซเบอร์ "ลุกเป็นไฟ"!

หลังจากปีแห่งเทพนิยายที่สร้างเอาไว้ในซีซั่นก่อน มาฤดูกาลนี้แฟนบอล "จิ้งจอกสยาม" ถูกฉุดให้กลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง น่าเศร้าครับที่มันเป็นความจริงที่ไม่ต่างกับนรก พวกเขากลายร่างกลับสู่สามัญชนคนธรรมดาพร้อมกับกลายเป็นทีมดาดๆที่แพ้ได้กระทั่ง ซันเดอร์แลนด์

rainananz33
การขาด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เองก็มีส่วน ตลอดเวลาที่ผ่านมามิดฟิลด์ชาวเฟร้นช์แมนเปรียบดั่งมดงานที่ปิดทองหลังพระพา เลสเตอร์ ขึ้นเถลิงบัลลังก์ กระนั้นลำพังแค่นักเตะคนเดียวไม่อาจทำให้ระบบทีมที่สร้างมาพังทลาย ทุกจุดเริ่มต้นแห่งหายนะต้องมีมูลเหตุและมีที่มาที่ไป

และนั่นก็คือการที่ทัพนักเตะพร้อมใจกัน "แปรพักตร์" หักหลัง รานิเอรี่!

มีรายงานจากสกายสปอร์ตว่าหลังทีมผิดฟอร์มไปหน่อยและออกสตาร์ทไม่สมกับที่หวัง กุนซือชาวอิตาเลี่ยนก็จัดการตบะแตกสั่งลูกทีมให้มาซ้อมพิเศษในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังแข่งนับจากนี้ทันที

เป็นธรรมดาครับที่เฮดโค้ชจะต้องหาวิธีแก้เผ็ดเพื่อเร่งเร้าให้ลูกทีมคืนฟอร์ม น่าเสียดายที่วิธีการนี้ของ รานิเอรี่ นั้นไม่สำเร็จหลังจากที่โดน "ทิงเกอร์แมน" สั่งซ้อมพิเศษรวมถึงปล่อยกลับช้าขึ้นในทุกๆวัน พลพรรคนักเตะ "เดอะ ฟ็อกซ์" ก็เริ่มก่อหวอดและแสดงความไม่พอใจ

ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นแห่ง "ความบาดหมาง" ในเวลาต่อมา

rainananz22
นับจากนั้นก็เริ่มมีข่าวฉาวออกมาจากแคมป์"เดอะ ฟ็อกซ์" เป็นระลอก เลโอนาร์โด้ อูญัว ออกมาฉะ รานิเอรี่ ผ่านสื่อว่าไม่เคยเห็นตัวตนเองเลยแม้แต่น้อย, เจมี่ วาร์ดี้ตกเป็นข่าวฉาวว่าคือหนึ่งในแกนนำที่ประท้วงและบอยคอตเจ้านายผู้มีพระคุณกับตนเอง

เรื่อยมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายในยุคเทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ก่อกบฏเดินหนีนักข่าวหลังถูกถามความเห็นถึง รานิเอรี่, เวส มอร์แกน กับข่าวอยู่เบื้องหลังการปลดเจ้านายรายนี้กระทั่งหลังเจ้าตัวจากทีมไปจู่ๆทรงบอลที่เคยแย่ก็กลับมาดีขึ้นผิดหูผิดตา

จากหลายปัจจัยที่ผ่านมามันบ่งชี้ว่าบรรดาพ่อค้าแข้งทั้งหลายนี่แหละ...

ที่ทำการ "ก่อกบฏ" ใส่นายใหญ่คนนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ล่าสุดจากคำให้สัมภาษณ์ของ รานิเอรี่ ดูเหมือนว่าจะมีอีกหนึ่ง"ผู้ร่วมขบวนการ" ที่ก่อเหตุวิปโยคในครั้งนี้

ผมเชื่อครับว่า รานิเอรี่ นั้นคงไม่ไร้เดียงสาพอที่จะไม่รู้ว่านักเตะนั้นคือส่วนสำคัญในการแทงข้างหลัง อย่างไรก็ตามการที่จะรวมใจนักเตะให้ทำเช่นนั้นได้มันย่อมต้องมีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง และใช่แล้ว...ผมกำลังหมายถึง "เคร็ก เช็คสเปียร์"

rainananz44
จาก มือขวาคู่ใจที่ไว้ใจมานาน ในตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่ เคร็ก กำลังจะเปลี่ยนเป็นอสรพิษ "สเน็ค" แว้งกัด รานิเอรี่ โดยไม่รู้ตัว ปกติแล้วการเด้งผู้จัดการทีมออกจากตำแหน่ง ผู้ช่วยกุนซือก็มักจะโดนเนรเทศตามผู้เป็นหัวเรือใหญ่ไปด้วยแต่รายของ เช็คสเปียร์ นั้นได้รับการยกเว้น

สำคัญที่สุดคือมีรายงานว่าในหนึ่งวันก่อนที่เจ้าสัว วิชัย จะทำการปลด...

"เคร็ก เช็คสเปียร์" ถูกท่านประธานเรียกเข้าพบเป็นการส่วนตัว

เรื่องนี้ดูเหมือน รานิเอรี่ เองก็รู้ตัว แม้จะไม่บอกว่าเป็นใครแต่เจ้าตัวก็บอกใบ้กับเราครับว่าคนที่แทงข้างหลังตนนี้คือคนที่ไว้ใจ แต่แล้วกลับอาศัยจังหวะทีเผลอกดดันให้ตนออกจากตำแหน่งโดยไม่รู้ตัว
และมันจะเป็นใครไปได้เสียอีกถ้าไม่ใช่ "เช็คสเปียร์"!??

ถึงตรงนี้พูดแล้วก็น่าเห็นใจ รานิเอรี่ ไม่น้อย แต่ก็นั่นล่ะครับสาธยายไปก็เท่านั้นบัดนี้ทุกอย่างกลายเป็นอดีตไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปรื้อฟื้นหาตะเข็บ เพราะ ชีวิตย่อมต้องเดินหน้ากันต่อ และ จะว่าไปนี่ก็คือวิถีแห่งฟุตบอล

ไม่ว่าคุณจะเป็นใครแต่หากสุดท้ายหากไม่สามารถชนะใจนักเตะ และ ทีมสต๊าฟฟ์ได้ ทุกอย่าง..."ก็เป็นอันจบ"

ฟังดูอาจน่าเศร้าแต่สุดท้ายนี่คือวัฏจักรโลกลูกหนัง...และมันก็เป็นเช่นนี้จริงๆครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook