5 เหตุผล! เรอัล เหนือกว่า บาเยิร์น

5 เหตุผล! เรอัล เหนือกว่า บาเยิร์น

5 เหตุผล! เรอัล เหนือกว่า บาเยิร์น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เก็บตกหลังเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ที่มีแฟนๆให้ความสนใจ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ชปล. รอบก่อนรองฯ นัดสอง คู่ระหว่าง เรอัล มาดริด พบกับ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา และนี่คือ 5 เหตุผลที่แตกต่างกันของทั้งสองทีม อันเป็นตัวบ่งชี้ถึงชัยชนะในเกมนัดนี้

mmamamz22
1.โรนัลโด้

ในเกมที่มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน นักเตะรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดี แทบจะหาจุดตัดสินเกมและสิ่งที่ทำให้อีกทีมดูพิเศษกว่าอีกทีมหนึ่งนั้น คงต้องมีอะไรที่ Different จริงๆ

และคนที่สร้างความแตกต่างให้ทั้งคู่มีผลแพ้ชนะ นั่นก็คือ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ กองหน้าของเรอัล มาดริด นั่นเอง

จริงอยู่ที่บาเยิร์น มีโคตรแข้งอย่าง ฟรองค์ ริเบรี่, อาร์เย็น ร็อบเบน และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่พวกนี้ยังพิเศษไม่พอ หรือว่ากันง่ายๆว่า ยังไม่นอกโลกเท่าโรนัลโด้ นั่นเอง

ริเบรี่ และ ร็อบเบน อาจจะเลี้ยงได้ เอาตัวรอดได้ แต่เข้าไปยิงประตูไมได้ ขณะที่ เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูได้ แต่หาจังหวะเองไม่ได้

CR7 มีทุกอย่างในตัว ที่ยากที่คนหนึ่งจะมีได้ครบ เขาเลี้ยงบอลและเล่นริมเส้นได้แบบที่ ร็อบเบน และ ริเบรี่ ทำ ในขณะเดียวกัน เมื่อโดนจับไปเป็นกองหน้า ก็ยังยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำอีก

mmamamz77
2.ผู้ตัดสิน

วิคเตอร์ คัสไซ ถูกตำหนิอย่างหนัก เพราะเขาทำหน้าที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง ไม่ใช่ว่าบาเยิร์นจะเสียผลประโยชน์อย่างเดียว บางครั้งก็มีจุดที่ทำให้ทีมเยือนได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน

จังหวะใบเหลืองแรก ของ อาร์ตูโร่ วิดัล ก็สมควรอยู่แล้ว แต่เขาเป็นนักเตะที่เข้าปะทะตลอดเวลา มีช็อตหนึ่งในช่วงต้นครึ่งหลัง ที่เล่นหนักและช้า ใส่คาเซมิโร่ แต่รอดมาได้

เพียงแต่อีกครั้งเขาเข้าบอลแบบใสสะอาด แต่กลับได้ใบเหลืองที่สอง จนต้องออกไปอาบน้ำก่อนใคร

ขณะที่จังหวะล้ำหน้าค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้ช่วยผู้ตัดสินสินผิดพลาดอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้เกมมันถึงจุดเปลี่ยน ไปเข้าทางเจ้าบ้านทั้งหมด

ไม่น่าแปลกใจที่ นักเตะแกนหลักของเสือใต้ รวมถึงผู้จัดการทีม คาร์โล อันเชล็อตติ จะเรียกร้องให้ยูฟ่า พิจารณาการนำเทคโนโลยี VAR หรือ วิดีโอ ที่จะช่วยให้ผู้ตัดสินดูย้อนหลัง และช่วยให้การตัดสินแม่นยำมากขึ้น

mmamamz
3.ตัวสำรอง

มาร์โก อาเซนซิโอ้ และ ลูคัส บาซเกซ คือคนที่ลงสนามแล้วมาแล้ว รูปเกมของเรอัล มาดริด ไม่ได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ด้อยไปจากไลน์อัพชุดใหญ่ที่ลงมาในช่วงต้นเกม

ขณะที่สำรองของบาเยิร์น อย่าง ดักลาส คอสต้า, โธมัส มุลเลอร์ และ โจชัว คิมมิช ไม่อาจจะทดแทนพวกแข้งตัวหลักอย่าง ฟรองค์ ริเบรี่ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ ทำให้เรอัล มดาริด ไมได้เจองานที่หนักเหมือนตอนพวกนี้ยังอยู่

ขณะที่สำรองคนอื่นๆของเจ้า ดูชื่อแล้ว ก็เกรดสูงกว่าทีมเยือนพอสมควร ทั้ง ฮาเมส โรดริเกซ รวมถึง อัลบาโร่ โมราต้า ที่ว่ากันด้วยเกรดบอลแล้ว เหนือกว่า ฆวน เบร์นาต และ คิงส์เลย์  โคม็อง พอสมควน

mmamamz44
4.สถิติ

คู่นี้เจอกันเสมือนงูเหลือมกับเชือกกล้วย เพราะไม่ว่าบาเยิร์น จะเก่งหรือจะฟอร์มดีมาจากไหน พอเจอเรอัล มาดริด แล้ว มักจะแพ้ทางตลอด

13 ครั้งที่พบกันล่าสุด บาเยิร์น ชนะได้เพียง 3 เกมเท่านั้น  โดยเรอัล มาดริด ชนะได้ถึง 9 เกมด้วยกัน

และสถิติหนึ่งที่บาเยิร์น คงไม่ชอบแน่ๆ ก็คือ สี่หลังสุดที่ตกรอบเพราะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นับตั้งแต่ที่พวกเขาได้แชมป์ เมื่อปี 2013 ทีมที่ปราบพวกเขา ก็มาจากสเปนแทบทั้งสิ้น

ปี 2014 พวกเขาโดนเรอัล มาดริด ยิงตกรอบรองชนะเลิศ พอปี 2015  ก็เป็นรบาร์เซโลน่าทีเอาชนะพวกเขาในรอบเดียวกัน และปี 2016 ก็เป็นทีของแอตเลเติโก บ้าง

ขณะที่ปีนี้ เข้าไม่ถึงรอบรองชนะเลิศด้วยซำ เพราะดันไปเจอเรอัล มาดริด เสียก่อน

mmamamz33
5.สภาพร่างกาย

ช่วงการต่อเวลาพิเศษเห็นได้ชัดว่า ฟิลิปป์ ลาห์ม, มัตส์ ฮุมเมิลส์, อาร์เย็น ร็อบเบน และ ธิอาโก้ อัลคันตาร่า แบตเตอรรี่หมดพร้อมกัน

เพราะ 90 นาทีแรก นักเตะบาเยิร์น วิ่งกันถึง 95 กิโลเมตร ขณะที่นักเตะเรอัล มาดริด วิ่งกันไปเพียง 90 กิโลเมตรเท่านั้น อันเป็นผลมาจากครึ่งแรกทีมเยือนเพรสซิ่งอย่างหนักตั้งแต่ต้นเกมนั่นเอง

สภาพร่างกายของนักเตะทีมเยือนเป็นผลพวงมาจากในลีก ที่ล่าสุดทำได้เพียงเสมอกับ เลเวอร์คูเซ่น 0-0 และก็เป็นชุดที่เกือบจะดีที่สุดในสนามดังกล่าว

ขณะที่นักเตะของเรอัล มาดริด ทั้ง คริสติอาโน่ โรนัลโด้, ลูก้า โมดริช, คาเซมิโร่ และ โทนี่ โครส ซึ่งเป็นแกนหลักๆ ของทีมนั้น ไม่ได้ลงสนามในเกมล่าสุดกับสปอร์ติ้ง กิฆอน นั่นเอง

เท่ากับว่าช่วง 5 วันที่ผ่านมานักเตะเรอัล มาดริด ก็วิ่งกันแค่นั้น คือ 90 กิโลเมตร ขณะที่นักเตะบาเยิร์น ในรอบ 5 วันที่ผ่านมา วิ่งกันเกิน 160 กิโลเมตรแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook