Premier League Preview:

Premier League Preview:

Premier League Preview:
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากหลีกทางให้กับฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ และเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังอย่าง เอฟเอ คัพ ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มาสุดสัปดาห์นี้ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษก็จะได้กลับมาเตะกันตามโปรแกรมเหมือนเดิมอีกครั้ง โดยแบ่งเตะเป็น 3 วัน เสาร์, อาทิตย์ และ จันทร์ หรือว่า เกมมันเดย์ไนต์ นั่นเอง 

พูดถึงสถานการณ์หัวตารางในเวลานี้ จ่าฝูงยังเป็นของทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เก็บไปแล้ว 48 คะแนนจาก 20 นัด ตามติดด้วย “แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จี้มาที่ 45

รวมถึง “ไก่เดือยทอง” ที่ทำตัวเหมือนเป็นตาอยู่ รอเสียบทีเผลอสำหรับการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ด้วย ขณะที่ เชลซี, อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล ต่างก็หวังที่จะรักษาความสม่ำเสมอ และ มีลุ้นอันดับที่ดีเพื่อให้ได้สิทธิ์กลับไปเล่นในถ้วยสโมสรยุโรปให้ได้

เพราะนั่นหมายถึงส่วนแบ่งรายได้จากแหล่งต่างๆ ที่จะไหลมาเทมาสู่กองคลังของสโมสร

สุดสัปดาห์นี้จ่าฝูงอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องยกพลไปเยือนรัง ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม ของ วีแกน แอธเลติก และแม้ว่าอันดับของ วีแกน จะจมอยู่ในโซนด้านท้ายตาราง แต่พวกเขาก็มักจะทำผลงานได้ดีเกินคาดอยู่เนืองๆ เวลาต้องเผชิญหน้ากับทีมที่เหนือกว่ามากๆ

สำหรับเกมนี้จะยกมาเตะกันเพียงคู่เดียวประจำคืนวันจันทร์ นั่นเท่ากับว่า ซิตี้ จะมีโอกาสได้ลุ้นและเช็กผลการแข่งขันของคู่แข่งอย่าง ยูไนเต็ด ได้ล่วงหน้าก่อน  คู่นี้เคยเจอกันมาตอนต้นฤดูกาล หนนั้น ซิตี้ เล่นในบ้านและเอาชนะไปแบบขาดลอย แถมได้ “เอล กุน” เซร์คิโอ อาเกโร่ ทำแฮตทริกให้ชมเป็นขวัญตา

มาดูในส่วนของสภาพความพร้อมของทาง วีแกน กันบ้าง เกมนี้ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ น่าจะปรับทัพพอสมควรโดยเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่งจากเกมที่บุกไปพ่าย สวินดอน ตกรอบ เอฟเอ คัพ รอบ 3 ไปเรียบร้อยแล้ว 

ด้านยักษ์อย่าง ซิตี้ แน่นอนว่าจะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะอย่าง แว็งซ็องต์ กอมปานี ไปแน่ๆจากโทษแบน แล้วยังมีนักเตะที่ติดภารกิจไปเล่นในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ อีกด้วย อย่างพี่น้องตระกูล ตูเร่ ถือว่าส่งผลกระทบกับ ซิตี้ ไม่น้อยเลยทีเดียว 

ความน่าจะเป็นของเกม:

วีแกน มักเล่นได้ดียามเฝ้าบ้านเจอกับทีมใหญ่ แต่ ซิตี้ แพ้ติดๆ กันมา 2 นัดแล้วในฟุตบอลถ้วย ทำให้ความหวังในการลุ้นแชมป์ทุกรายการของพวกเขาเริ่มลดลงไปทีละนิด ยังดีที่ยังมีผลงานในลีกมาค้ำคอเอาไว้

แต่นี่จะเป็นเกมที่ทดสอบได้ว่าสปิริต และ ประสบการณ์ทั้งตัวของ มันชินี่ และ ลูกทีมของเขาว่ามากพอที่จะเอาไว้เบียดลุ้นแชมป์แบบเกมต่อเกมกับ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมืองไปจนถึงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลได้หรือไม่ 

วีแกน คงเน้นรัดกุมไว้ก่อนเพื่อขอแบ่งแต้ม ขณะที่ ซิตี้ ที่มี เซร์คิโอ อาเกโร่ ค้ำอยู่ในแดนหน้าคงอาศัยความสามารถเฉพาะตัวครองบอล และ หาโอกาสเข้าไปทำประตูอยู่เรื่อยๆ หาก วีแกน เสียประตูเร็ว คงยากที่จะต้านทานไว้ได้จนครบ 90 นาที

ส่องกล้องแล้ว ซิตี้ น่าจะเป็นฝ่ายบุกไปคว้า 3 คะแนนกลับบ้านได้อย่างที่ต้องการ 

ผลการแข่งขันที่คาด: วีแกน แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างบนว่า ซิตี้ จะลงเล่นทีหลัง ดังนั้นพวกเขาจะได้ทราบผลการแข่งขันของคู่แข่งที่มีสิทธิ์เบียดพวกเขาตกบัลลังก์จ่าฝูงได้อย่าง ยูไนเต็ด และรวมถึง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เข้าไปด้วยอีกทีม

ซึ่งหากมองโลกในแง่ร้ายว่าหากทั้ง 2 ทีมนี้สามารถเก็บชัยชนะพร้อมหน้าได้ ก็อาจจะเป็นการโยนความกดดันเข้าไปให้กับทาง ซิตี้ แทนก็เป็นได้ ที่จะไม่สามารถพลาดได้เลยแม้แต่นิดเดียวในภารกิจเยือนรังของ วีแกน 

มาดู ยูไนเต็ด ก่อน สุดสัปดาห์นี้ ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะได้กลับมาเล่นในบ้านที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของทีมในโซนอันตรายอย่าง “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่มี โอเว่น คอยล์ คุมทีม  เฟอร์กี้ รู้ดีว่าทีมของเขาจะพลาดอีกไม่ได้ในการสร้างความกดดันจ่าฝูงอย่าง ซิตี้

โดยคาดว่ายอดกุนซือชาวสกอตต์ อาจจะยึดตัวผู้เล่นจากเกมที่บุกไปสอย ซิตี้ ในเอฟเอ คัพ รอบ 3 มาได้ โดยวาง เวย์น รูนี่ย์ ยืนเป็นหลักในแดนหน้า กลางยังเป็น กิ๊กส์, นานี่, วาเลนเซีย และ คาร์ริค โดยมีทีเด็ดอย่าง พอล สโคลส์ สแตนด์บายอยู่ที่ข้างสนาม  

ด้าน โบลตัน ที่เริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยด้วยการเก็บแต้มได้ในหลายๆเกมที่ผ่านมา โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่บุกไปชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ถึงกูดิสัน ปาร์ค คงจะไม่มี แกรี่ เคฮิลล์ ลงเล่นเป็นหลักในเกมรับ เพราะการย้ายทีมไป เชลซี ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้วหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน หรือ ถูกยื่นข้อเสนอซื้อตัดหน้าจากทีมอื่นๆเสียก่อน

คาดว่า โอเว่น คอยล์ คงเตรียมส่ง เดวิด วีเธอร์ ลงเป็นตัวจริงแทนสำหรับเกมนี้ แดนหน้า ดาวิด เอ็นก็อก จะยังเป็นกองหน้าตัวเป้าต่อไปตามเดิม หลังผลงานดี เกมล่าสุดในลีกก็มีชื่อเป็นผู้ทำประตูด้วย 

ยูไนเต็ด ยังพอเชื่อใจได้ยามเล่นในบ้าน ยิ่งผู้มาเยือนยังมีเกมที่ไม่แน่นหนาเท่าไหร่ ไม่น่าจะพลาดสำหรับทีม “ปิศาจแดง” ในการจะเก็บ 3 แต้มในเกมนี้ โดยเฉพาะฟอร์มของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ตะบันไปแล้ว 18 ประตูในทุกรายการในซีซั่นนี้ยังอยู่กับทีมทั้งคน 

ด้าน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ของกุนซือเนื้อหอม แฮร์รี่ เรดแนปป์ ทำไปทำมามีลุ้นแชมป์เต็มตัวไม่น้อยไปกว่า ซิตี้ และ ยูไนเต็ด โดยพวกเขามีอยู่ 45 แต้มเท่ากับทาง ยูไนเต็ด เป็นรองแค่ประตูได้เสีย และตามหลัง ซิตี้ จ่าฝูงอยู่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น

หลังจากช่วงกลางสัปดาห์ ลูกทีมของ เร้ดแนปป์ ซีเนียร์ ลงเล่นเกมตกค้างที่ยืดเยื้อมาจากตอนต้นฤดูกาลกับ เอฟเวอร์ตัน และไม่พลาดในการเก็บ 3 คะแนนเอาไว้ได้ 

นอกจากจะชนะคู่แข่งติดต่อกันมาหลายเกม แผงหลัง สเปอร์ส ในเวลานี้ยังเหนียวแน่นไม่เสียประตูติดๆกันมาทั้งในลีก และ เอฟเอ คัพ เรียกว่าลงตัวไปทุกขุมกำลัง 

คู่แข่งของ สเปอร์ส ในสุดสัปดาห์นี้คือทีม “หมาป่า”  วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ยังอยู่ในระยะอันตราย ยังมีสิทธิ์ที่จะตกชั้นได้หากผลงานไม่กระเตื้อง หรือ เก็บแต้มไม่ค่อยได้ อย่างไรก็ดี วูล์ฟส์ ก็มีประสบการณ์ในการหนีตายมาใน 2 ฤดูกาลหลังสุด และ มิค แม็คคาร์ธี่ย์ ก็ถนัดกับภารกิจเช่นนี้เสียด้วย

ยกเว้นตอนที่เขายังทำ ซันเดอร์แลนด์ ที่หนนั้นประคองไว้ไม่สำเร็จจนต้องตกชั้นไป  วูล์ฟ ไม่ค่อยมีทีเด็ดมากนัก เกมรุกพวกเขาหวังพึ่ง สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ มากเกินไป เรียกว่าความหวังในการทำประตูซีซั่นนี้ตกไปอยู่ที่หัวหอกผมบางจากสกอตแลนด์คนนี้แทบทั้งหมด 

เกมนี้ สเปอร์ส น่าจะอาศัยความเหนือชั้นของตัวผู้เล่น บวกกับความมั่นใจที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากผลงานในระยะหลัง เบียดเอาชนะผู้มาเยือนจากแถบมิดแลนด์ได้ไม่ยาก

และจับตาดูให้ดีว่า สเปอร์ส จะยืนระยะไปได้หรือไม่กับการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุด ซึ่งหากพวกเขาทำได้คงจะเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวขานกันไปอีกนานแสนนานกับความสำเร็จระดับมาสเตอร์พีซ ที่รอการท้าทายอยู่เบื้องหน้า

เรื่องโดย "มาร์ค สุรเดช"

คอลัมน์ Premier League Preview นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook