ความนับถือที่หายไป...???

ความนับถือที่หายไป...???

ความนับถือที่หายไป...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่น่าเชื่อว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ต้องมาเจอะเจอกันวันที่แฟนบอลหรือใครอีกหลายคนลดความน่าเชื่อถือในตัวเขาลงไปแบบน่าใจหาย ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปีเวนเกอร์เป็นกุนซือที่อยู่เหนือความมั่นใจ

แฟนบอลและนักเตะให้ความยำเกรงไม่แตกต่างไปจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ของผีแดงสักเท่าไหร่

มาตรฐานทุกอย่างที่วางไว้ทุกคนเห็นด้วย ทุกฝ่ายเพลิดเพลินไปกับการทำงานของกุนซือชาวฝรั่งเศสคนนี้ เวนเกอร์ปั้นอาร์เซนอลขึ้นมาเป็นดาวเด่นในหัวแถวของพรีเมียร์ ลีกและในถ้วยยุโรป เหตุการณ์ราบรื่นต่อเนื่อง

ทว่าในความราบรื่นต่อเนื่องนั้น มันเดินทางมาถึงจุดหนึ่งเหมือนจะไม่มีการเดินหน้าสักเท่าไหร่ ความไม่มั่นใจ ความกังวลสงสัยเริ่มเกิดขึ้น เวลาที่เนิ่นนานออกไปกับความสำเร็จที่ห่างหายเหมือนกับว่าทีมย่ำอยู่กับที่ แรงกระเพื่อมจากข้างสนามเริ่มสั่นแรงขึ้นตามลำดับ จนเริ่มปรับระดับขึ้นไปเป็นความไม่พอใจ

ไม่พอใจในตัวผู้เล่นของสโมสร ไม่พอใจต่อแผนการเล่น ไม่พอใจนโยบายที่ผ่านมา และไม่พอใจกุนซือ

ในช่วงซัมเมอร์ก่อนที่ฤดูกาลจะเริ่มขึ้นนั้น สถานการณ์ที่ฝ่ายบริหารตัดสินใจปล่อยตัวเฃส ฟาเบรกาสและซามีร์ นาสรี่ 2 ตัวหลักของทีมออกไปในเวลาไล่เลี่ยกัน อาร์แซน เวนเกอร์ บอกว่าเหนือที่จะจินตนาการจริงๆเมื่อทีมต้องขาดตัวหลักแบบนี้ไปพร้อมๆกัน ไม่สามารถที่จะสร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่นใจให้ใครได้อีกว่าจะสามารถประสบความสำเร็จ มีแชมป์โน่นแชมป์นี่ติดไม้ติดมือ

เวนเกอร์เป็นคนหนึ่งที่พยายามขวางการย้ายทีมอย่างสุดตัว และแน่นอนว่าเขายึดมั่นกับตรงนั้นแบบไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปทำ เพราะเขาย่อมรู้ดีว่าถึงระดับหนึ่งสโมสรก็ต้องปล่อยทั้งฟาเบรกาสและนาสรี่ไปจากทีมอยู่แล้ว

ทำไมไม่เอาเวลาก่อนหน้านั้นไปเตรียมการเรื่องตัวที่จะต้องซื้อหาเข้ามาทดแทน จะทำเป็นนิ่งๆเหมือนจะควานหาดาวรุ่งในสังกัดอีกไม่ได้ ต้องมีตัวระดับแม่เหล็กสมน้ำสมเนื้อกับพวกที่ออกไปจากทีมเข้ามาแทนที่

ความเสียหายที่จิตนาการไม่ถูกถ้าขาด 2 ตัวหลักไปพร้อมกันมันจะได้ดูเบาบางหรือผ่อนคลายไปได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่ต้องไม่ปล่อยให้คาใจใครทั้งนั้นทั้งนักเตะในทีมและแฟนบอล

ทว่าสถานการณ์ที่จะทำให้เรื่องมันเบาบางและสร้างความสดชื่นให้กับทีมด้วยการใช้เวลาซื้อหาหรือจับจองไว้ก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนจะปล่อยทั้งฟาเบรกาสและนาสรี่ออกไป เวนเกอร์ไม่ได้ทำให้มันดูดีดูเหมาะสักเท่าไหร่ ปล่อยให้แฟนบอลขัดใจกันไปซะงั้น

ไม่น่าแปลกใจอะไรที่โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ถึงดึงเวลาเรื่องสัญญาฉบับใหม่เอาไว้สุดตัวเหมือนกัน มันบ่งบอกได้เลยว่าซูเปอร์สตาร์ที่หลงเหลืออยู่และเป็นกัปตันทีมอีกด้วยนั้น ไม่มั่นใจ คลางแคลงสงสัย ในความทะเยอทะยานของกุนซือและสโมสร

ความสามารถของเวนเกอร์ถูกท้าทายอยู่ทุกวันและการพัฒนาความขุ่นเคืองของแฟนบอลนั้นเพิ่มขึ้นทุกวันเช่นกัน สถานการณ์ที่ส่งเสริมการพัฒนาความไม่พอมันชักจะเกิดขึ้นบ่อยจนเห็นเป็นความซ้ำซาก

เวนเกอร์ยึดมั่นถือมั่นกับนักเตะหลายๆคนมากไปหรือเปล่า ถ้ามองกลับไปนานนิดหนึ่งกรณีของฟิลิปป์ เซนเดรอส เซ็นเตอร์แบ็กเลือดสวิส วนเวียนอยู่ในความทรงจำ วนเวียนอยู่ในทีมของเวนเกอร์นานสองนาน

ทั้งที่เขารู้ดีอยู่แล้วว่า ดีที่สุดก็ได้ประมาณนี้ แต่สิ่งที่ทีมต้องการมันมากกว่านั้นถ้ายังมีความทะเยอทะยานเช่นเดิม มันนานเกินไปที่กว่าจะปรับปรุงแก้ไขบางเรื่องราวที่ไม่ต้องการความยืดเยื้อ

นิคลาส เบนท์เนอร์ ก็อีกคนเวนเกอร์รู้เข้าไปถึงไหนต่อไหนว่าเบนท์เนอร์ก็ได้ประมาณนี้แหละ ทว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของทีม หัวหอกทีมชาติเดนมาร์กก็ยังวนเวียนอยู่ตั้งนานจนมาถึงขั้นปล่อยตัวให้ซันเดอร์แลนด์ยืม

โยฮันน์ ฌูรู น่าจะเป็นอีกคนมั๊ง..แน่นอนย่อมมีอังเดร อาร์ชาวินรวมอยู่ด้วย

ไม่น่าจะดีไปกว่านี้หรอก สร้างอะไรทำอะไรให้ชัดเจนดีกว่า แต่คงต้องถามสโมสรก่อนว่ายังคงไว้ซึ่งความทะเยอทะยานมากน้อยแค่ไหน ถ้าอยากประสบความสำเร็จแต่ไม่ต้องการจ่ายในส่วนที่จำเป็นมันก็แย่เหมือนกัน

เธียร์รี่ อองรี,เดนนิส เบิร์กแคมป์หรือปาทริก วิเอร่า ต้องประมาณนั้นกับการสร้างความพึงใจให้ดีขึ้นมา แฟนบอลยังคงโหยหาสตาร์แบบนั้นเมื่อไหร่จะมีอีกครั้งหนึ่งในทีมอาร์เซนอล

หรือว่าสโมสรยินดีจ่าย แต่เวนเกอร์เสียเองที่มั่นคงกับแนวคิดตัวเองสุดโต่ง ไม่ยอมให้สโมสรไหนมาโขกสับเรื่องค่าตัว การให้โอกาสดาวรุ่งเป็นเรื่องที่ดี ปั้นได้ดังใจยิ่งดีใหญ่ แต่การจะไปต่อกรกับหลายทีมที่เดินหน้ากันไม่หยุดยั้งอย่างผีแดง เรือใบหรือทีมไหนก็ตามทีมันจะมีระยะห่างเกิดมากขึ้นเรื่องๆถ้าไม่ปรับแนวทางให้มันหลากหลายขึ้น

ราคาที่คิดว่าเหมาะสมเท่านั้นจึงจะตัดสินใจซื้อ อย่างกรณีของแกรี่ เคฮิลล์ แน่นอนเวนเกอร์ต้องการมาร่วมทีมและยื่นข้อเสนอไปแล้ว แต่โบลตันต้องการมากกว่าที่ยื่นซื้อไป เวนเกอร์ก็ถอยออกมาเพราะคิดไว้แล้วว่าราคาต้องเหมาะสมอย่างที่ตัวเองคิดเท่านั้น

เคฮิลล์ในช่วงเวลานั้นจ้องกันหลายทีม โบลตันจึงโก่งราคาหน่อย แต่เชื่อแน่ว่าโบลตันเองก็ต้องการขายหากใครต่อรองลงมาหน่อย ไม่อยากขายเหมือนให้เปล่ากับเชลซีเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ถ้าเวนเกอร์ยอมเพิ่มอีกสักล้านสองล้านถ้าเห็นว่าเคฮิลล์มีเวลาให้ใช้งานอีกหลายปีและในตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดอีกด้วย ในขณะที่โบลตันก็ลดลงมานิดหนึ่งซึ่งยอมอยู่แล้ว อาจจะปิดดีลกันได้ แต่เวนเกอร์แกยึดมั่นของแกถึงจะต้องการตัวมากแค่ไหนถ้าราคาเวอร์ไปจากที่ประมาณการณ์เอาไว้เป็นเรื่องยากที่แกจะยอม

อีก 4-5 ปีต่อจากนี้เคฮิลล์คงเป็นเจ้าประจำในทีมชาติอังกฤษ ช่วงเวลาที่ใช้งานกันไปจนสัญญาใหม่ต้องเริ่มและคิดขายออกไปจากทีมในตอนนั้นก็ยังคงได้ราคาแน่นอน เวนเกอร์ไม่ยอมอ่อนข้อและไปซื้อตัวแพร์ แมร์เตซัคเกอร์มาร่วมทีมในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนั้น

ถึงนาทีนี้แมร์เตซัคเกอร์ก็ยังคงไม่สามารถไว้ใจได้กับการเฝ้าหลังบ้านให้ทีม

ความธรรมดาของอาร์เซนอลที่ชักจะเห็นเด่นชัดขึ้นทุกวันในตอนนี้อีกปัญหาหนึ่งน่าจะอยู่ที่แท็คติกส์ของอาร์แซน เวนเกอร์ ไม่ว่าเจอกับทีมไหนก็เล่นแบบนั้น

แน่นอนว่าถ้าสักยะภาพของนักเตะมากพอก็สามารถทำได้ แต่ถ้าไม่ถึงละก็เป็นเรื่องเหมือนกัน อย่างนัดที่โดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มจนราบคาบคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด อาการบาดเจ็บของนักเตะบางคนและการติดโทษแบนของบางคนอีกเช่นกัน มันย่อมส่งผลกระทบต่อทีมในระดับหนึ่ง

ด้วยความพร้อมของลูกทีมในตอนนั้น ซึ่งแน่นอนว่าเวนเกอร์จะเป็นคนที่รู้ดีที่สุดพร้อมแค่ไหนกับการเยือนผีแดง เล่นแบบแน่นอนรับให้เหนียว โต้ให้มั่นคง เป็นแท็กติกส์หนึ่งที่ใช้กันทั่วไปถ้าคิดว่าทีมไม่เต็มร้อยเลือกแน่นอนมาก่อนดีกว่า

ทว่าเวนเกอร์ยึดรูปแบบเดิมใส่เด็กลงไปเล่นตามที่เคยเป็นไม่ต้องเปลี่ยนแปลง เปิดเกมรุกเข้าไปเหมือนเดิมจนโดนผีแดงอัดเละเทะ ณ สถานการณ์หนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง อาจจะต้องเปลี่ยนแผนการเล่นบ้างเพื่อความเหมาะสม

อาร์แซน เวนเกอร์ จะฝ่ากระแสและความรู้สึกที่เริ่มฝังใจกันมากขึ้นทุกวันไปให้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกแล้ว เพราะความคิดมันเริ่มฝังลึกลงไป บางครั้งอาจจะดูเหมือนไม่มีแล้วทว่าเมื่อถึงเวลาจะโผล่ออกมาแบบไม่รู้ตัว

ช่วงเวลาที่พ่ายให้กับเบอร์มิงแฮม ในถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงชนะเลิศฤดูกาลที่แล้ว คือจุดที่การพัฒนาความไม่พอใจของแฟนบอลให้รุดหน้า เพราะหลังจากนัดนั้นแล้วแฟนบอลต่างไม่แน่ใจในสถานการณ์ของทีมอีกต่อไป

ซูเปอร์สตาร์จะโนขายหรือไม่ ใครจะเข้ามาบ้าง และความทะเยอทะยานของสโมสรจะมากน้อยแค่ไหน กุนซือจะกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้งมั๊ย และอะไรต่อมิอะไรอีกมามาย

แน่นอนในระหว่างซัมเมอร์ไม่ได้รับการแก้ไขให้ชัดเจน ทุกอย่างจึงก่อตัวพร้อมที่จะระเบิดออกมา หรือว่าใกล้ถึงเวลาของเวนเกอร์ ปืนโตต้องมีการเปลี่ยนแปลง นั่นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะการแก้ไขหลายเรื่องนั้นขึ้นอยู่กับแนวคิดของเวนเกอร์ที่ปฏิเสธไม่ได้

ยิ่งมีข่าวเป็นหนึ่งในสองคนที่เรอัล มาดริด สนใจจะดึงไปแทนที่โจเซ่ มูรินโญ่ ที่มีข่าวแตกแยกกับนักเตะและน้ามูเปิดปากบ่นเรื่องนี้ว่าฤดูกาลหน้า

ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ในเบอร์บาบิว ต่อหรือเปล่า...

เรื่องโดย "ดามัน"

<< เสียงโห่ในนัด อาร์เซนอล พบ แมนฯยูไนเต็ด >>

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook