มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ

ดาร์รอน กิ๊บสัน อาจไม่เคยเป็นที่รักของแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมากเท่ากับตอนนี้ที่เขาหันไปสวมเสื้อสีน้ำเงินของเอฟเวอร์ตันแล้วอย่างในตอนนี้

ลำพังแค่ตอนย้ายโบกมือลาโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปกูดิสัน ปาร์คเมื่อวันที่ 13 มกราคม ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ก็ทำเอาแฟนผีแดงบางคนแทบน้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความปลาบปลื้มแล้ว หลังจากเคยจิกหมอนลุ้นกันมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงซัมเมอร์ แต่กิ๊บโบ้ก็เซย์โนไม่ยอมร่วมแพ็กมหาเทพย้ายไปซันเดอร์แลนด์พร้อมกับจอห์น โอเชียและเวส บราวน์

แม้จะสร้างความเซ็งให้กับสาวกปิศาจแดงอยู่บ้าง แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่นของทีมในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล บวกกับการที่กิ๊บสันได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนต้องพักยาว ก็ทำให้ชื่อของเขาถูกลืมๆ ไปได้พักใหญ่

กิ๊บสันกลับมาลงสนามเป็นนัดแรกในฤดูกาล ในเกมคาร์ลิ่งคัพรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่พบกับคริสตัล พาเลซในบ้าน ซึ่งผีแดงต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอในเวลา ก่อนจะเจ๊งชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ตกรอบไปอย่างพลิกล็อก

หลังจากนั้นกิ๊บโบ้ก็ลงเตะนัดสุดท้ายของเขาในสีเสื้อปิศาจแดง ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่เปิดบ้านถล่มวีแกน 5-0 ในนัดบ๊อกซิ่งเดย์ ซึ่งเป็นช่วงที่ผีแดงมีปัญหานักเตะบาดเจ็บกันระนาว โดยเฉพาะผู้เล่นแดนกลางที่ขาดหายไปหลายคน

นับรวมเบ็ดเสร็จแล้วเขาลงเล่นให้แมนฯ ยูไนเต็ดทั้งสิ้น 60 นัด และทำไป 10 ประตูใน 4 ฤดูกาล ซึ่งดูๆ แล้วก็เป็นสถิติที่ไม่เลวเลย ในแง่ของจำนวนประตูต่อจำนวนเกมที่ลงเล่นสำหรับมิดฟิลด์ แต่ถ้าดูเฉพาะจำนวนนัดก็ถือว่าได้ลงเล่นน้อยไปหน่อยกับระยะเวลาเท่านี้

ส่วนในแง่ของความพึงพอใจที่เขาสร้างให้กับบรรดาเรดอาร์มี่แล้ว คงดูได้จากตอนที่เขาเปิดทวิตเตอร์เพื่อสื่อสารกับแฟนๆ เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วนั่นแหละ เพราะแอ็กเคาต์ของกิ๊บโบ้ที่เจ้าพ่อทวิตเตอร์อย่างริโอ เฟอร์ดินานด์อุตส่าห์ฝากฝังไว้กับผู้ติดตามทั้งหลาย ถูกถล่มด้วยข้อความที่ไม่น่าอภิรมย์จากแฟนผีแดงเอง จนต้องปิดกิจการเลิกเล่นไปภายในสองชั่วโมง

กิ๊บสันเกิดและเติบโตที่ไอร์แลนด์เหนือ และเริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนของทีมในบ้านเกิดในปี 2003 ก่อนจะถูกแมนฯ ยูไนเต็ดดึงตัวไปทดสอบฝีเท้าด้วย และได้เข้าเป็นนักเตะเยาวชนของปิศาจแดงในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น
หนึ่งปีให้หลัง กิ๊บสันในวัย 17 ปีก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับแมนฯ ยูไนเต็ดในปี 2005 โดยได้ประเดิมสนามนัดแรกกับทีมชุดใหญ่ด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมลีกคัพกับบาร์เน็ตเมื่อ 26 ตุลาคม 2005 ซึ่งเป็นเพียงเกมเดียวที่เขาลงเตะให้ทีมในฤดูกาลนั้น

เขาถูกปล่อยตัวไปเล่นกับรอยัล อันท์เวิร์ปในเบลเยียมในช่วงต้นฤดูกาล 2006-07 ตามด้วยการถูกวูล์ฟแฮมป์ตันยืมตัวไปในฤดูกาล 2007-08

กิ๊บสันกลับมามีชื่ออยู่ในทีมแมนฯ ยูไนเต็ดอีกครั้งในฤดูกาล 2008-09 และได้ประเดิมสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังของกับกับสโต๊ค ซิตี้เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2005 ตามด้วยการลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกครั้งในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในอีก 10 วันให้หลัง

การได้เข้ามาเป็นนักเตะของแมนฯ ยูไนเต็ดทำให้กิ๊บสันเป็นดาวรุ่งเนื้อหอมคนหนึ่ง จนกระทั่งสมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์เหนือกับสมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์ถึงกับเปิดฉากแย่งชิงตัวเขาไปลงเตะให้กับทีมชาติมาแล้ว สุดท้ายกิ๊บสันที่เคยเล่นให้ทีมเยาวชนไอร์แลนด์เหนือมาก่อน ก็เลือกจะเปลี่ยนไปเล่นให้ไอร์แลนด์ในภายหลัง

แม้จะเป็นหนึ่งดาวรุ่งของผีแดงที่ถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จได้ ขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยถูกมองว่าจะมาเป็นตัวแทนของรอย คีนที่อำลาทีมไปเลยด้วยซ้ำ ด้วยการเล่นในตำแหน่งเดียวกันและมีลูกยิงไกลที่เด็ดขาดไม่แพ้กัน

แต่จนแล้วจนรอด กิ๊บสันก็ไม่สามารถทำได้ตามที่ถูกคาดหวังไว้ เพราะฟอร์มการเล่นของเขาดีเป็นพักๆ แย่เป็นช่วงๆ แต่ปัญหาคือไอ้พักที่ว่ามันมักจะสั้น แต่ไอ้ช่วงที่ว่ามันมักจะนาน ทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมากพอในการลงสนามในทีมชุดใหญ่

นอกจากนั้นดูเหมือนกิ๊บโบ้จะกลายเป็นคนที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับแฟนบอลของผีแดงได้อย่างไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเพราะลีลาที่ชอบเดินนวยนาดอยู่กลางสนาม ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมวิ่งกันหูตาเหลือก หรือสไตล์การชอบยิงไกลขึ้นไปบนอัฒจันทร์ของเขา ที่ทำให้ใครๆ ก็ไม่รัก จนต้องโบกมือลาไปเข้าสมาคมศิษย์เก่าผีแดงที่กูดิสัน ปาร์คในที่สุด

แต่ประตูชัยที่เขาตะบันให้ทอฟฟี่จมเรือใบสีฟ้าได้เมื่อคืนวันอังคาร ก็ส่งผลให้แมนฯ ซิตี้ถูกหยุดแต้มไว้ที่ 54 คะแนนเท่าเดิม และเมื่อบวกกับชัยชนะของแมนฯ ยูไนเต็ดเหนือสโต๊ค

ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้เวย์น รูนี่ย์ที่ไม่ลงสนาม ทำให้หน้าที่สังหารจุดโทษทั้งสองลูกในเกมตกเป็นของฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซกับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟไป ก็ทำให้ผีแดงทำคะแนนขึ้นมาตีคู่กับจ่าฝูงได้อีกครั้ง

เหมือนกับล้างไพ่กันใหม่มาเริ่มออกสตาร์ตกันอีกครั้งในนัดที่ 24 ของฤดูกาลว่าสองทีมแห่งแมนเชสเตอร์ใครจะเข้าวินแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยมีสเปอร์สเป็นม้ามืดที่เกาะกลุ่มตามมาแบบไม่ยอมให้โดนทิ้งห่าง

โดยหวังว่าจะมีโอกาสรับส้มหากสองทีมที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดซีซั่นเกิดพลาดท่าขึ้นมาเมื่อไหร่

หลังจากนี้การขับเคี่ยวลุ้นแชมป์จะเป็นยังไง ก็คงต้องตามลุ้นตามเชียร์ตามแช่งกันตามศรัทธาต่อไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้กิ๊บสันคงกลายเป็นที่รักของแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นมาบ้างแล้ว แม้ว่าจะสายไปซักนิดก็ตาม

ตอนที่ทวิตเตอร์ของเขาถูกถล่ม มีแฟนผีคนหนึ่งบอกว่า "ไม่มีอะไรทำให้ฉันแฮปปี้ได้มากกว่านายถูกขายออกไปในซัมเมอร์นี้ นายอาจจะเป็นคนดี แต่นายเป็นนักฟุตบอลที่ห่วย"

กิ๊บโบ้คงต้องไปพิสูจน์ฝีเท้าของตัวเองกับทอฟฟี่ต่อไป แต่ตอนนี้แฟนเรือใบคงเป็นฝ่ายที่อยากจะครวญออกมาบ้างว่า"มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ" หลังจากปล่อยให้แฟนผีอยู่ในอารมณ์นี้มานาน