เมื่อ‘ไก่’ไม่มีกระดูก!

ศึกดาร์บี้แมตช์นอร์ธ ลอนดอน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดสนามดวลกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เป็นอีกเกมที่ใช้สมาธิค่อนข้างสูงในการชม ก่อนที่จะดูแบบไม่เต็มในช่วง 20 นาทีสุดท้ายในครึ่งหลัง

เราได้เห็นเกมนี้กันเต็มๆ ล่ะครับว่า มันเกิดอะไรขึ้น

เปิดฉากมาแค่ 4 นาทีเท่านั้น สเปอร์ส ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ อเดบายอร์ ได้บอลด้านซ้าย ก่อนแทงเข้ากลางให้ ซาฮา ล็อกเข้าซ้ายยิงไปติดขา โธมัส แฟร์มาเล่น กระเด้งข้ามตัว เซสนี่ เข้าไปตุงตาข่ายแบบมหาเฮง

มันสุดจะเฮงจริงๆ

ก่อนที่ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกไปแค่นาทีเดียว สเปอร์ส มาได้ลูกจุดโทษในจังหวะกังขา เมื่อ เกเร็ธ เบล แหวกทะลุ คีแรน กิ๊บบ์ส กับ โธมัส แฟร์มาเล่น และมี เซสนี่ พุ่งออกมาในจังหวะที่ เบล ล้มพอดิบพอดี ซึ่งมันก็น่ากังขาจริง ๆ

อเดบายอร์ สังหารเสียบมุมอย่างเลือดเย็น

สเปอร์ส นาทีที่ออกนำนั้น มันแทบจะไม่มีรูรอดให้เห็นเลยของ อาร์เซนอล แต่มีสถิติที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งก็คือ สเปอร์ส เคยออกนำคู่แข่ง 2 ประตู หรือ 2 ประตูขึ้นไป

พวกเขาเคยกลับมาแพ้ถึง 7 ครั้ง หนึ่งในนั้นก็คือ ความพ่ายแพ้ต่อ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อสัก 10 ปีที่แล้ว ที่นำก่อน 3-0 แต่โดนถล่มแหลกถึง 5 ลูกในครึ่งหลัง

ขณะที่ อาร์เซนอล เคยตามหลัง 2 ลูกแล้วกลับมาชนะได้ถึง 5 ครั้ง ในพรีเมียร์ลีก

สถิตินี้คิดกันเล่นๆ เท่านั้น เพราะโอกาสมันแทบจะไม่มีเลย

ในที่สุดมันก็เกิดขึ้นแบบ แฟนบอลสเปอร์ส ยังงงอยู่จนถึงตอนนี้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่

จะด้วยการเสียสองประตูในระยะเวลาแค่ 2 นาที ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันก่อนหมดครึ่งแรก หรือว่าการเลือกส่ง ซานโดร กับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต ลงเล่นตั้งแต่ครึ่งหลัง

แท็กติกของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ ผิดพลาดจริงหรือ

อันที่จริงแล้ว จ่าแฮร์รี่ ต้องการจะกลับมาเล่นในระบบที่ตัวเขาและลูกทีมเล่นมาตลอดซีซั่น เนื่องจาก 4-4-2 เริ่มจะโดนเปิดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ

การกลับมาเล่น 4-1-4-1

มันจำเป็นมากๆ ที่จะต้องกลับมาเล่นเหมือนเดิม แต่สุดท้ายจังหวะของเกมมันนำพาไป เมื่อโดนนำ ก็ต้องเปิดเกมรุก และแน่นอนว่าช่องโหว่ในแนวรับก็ต้องเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดามาก

ปัญหาก็คือ มันจะไปกลับอย่างไรกับผลการแข่งขันนัดนี้ สเปอร์ส ที่กำลังมาดีๆ และเล่นดีที่สุดในรอบหลายสิบปีทิศทางจะเป็นอย่างไร เมื่อนัดหน้าต้องเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ที่มักจะลากไส้ไก่มากินได้ง่ายๆ ทุกครั้งไปอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น กระแส “เรดแนปป์ ฟีเวอร์” ที่เรียกร้องให้ไปคุมทัพทีมชาติอังกฤษ ตะลุยยูโร 2012

มันจะดังแบบนี้...อีกมั้ย!

" บี แหลมสิงห์ "