ชีวิตติด "สุข" กับ "บัวขาว บัญชาเมฆ​"

ชีวิตติด "สุข" กับ "บัวขาว บัญชาเมฆ​"

ชีวิตติด "สุข" กับ "บัวขาว บัญชาเมฆ​"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าจะให้พูดถึง “ฮีโร่ยอดมวยไทย” ในยุคปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นนักมวยแชมป์โลก เจ้าของฉายา “ดำดอทคอม” หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกชื่อก้องโลก วีรบุรุษสังเวียนผ้าใบ ลูกหลานชาวสุรินทร์ วัย 33 ปี

ซึ่งทุกวันนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทุกตารางนิ้วของเมืองไทยนั้น ชื่อเสียงเรียงนามของบัวขาวได้แผ่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า เป็นหนึ่งยอดนักสู้ในดวงใจของคนไทยทุกเพศ ทุกวัย เลยก็ว่าได้

ภาพที่คนส่วนใหญ่จะได้เห็น “บัวขาว” หรือ ส.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ นั้น ย่อมหนีไม่พ้นภาพของนักมวยตัวใหญ่ ผิวคล้ำ ร่างกายกำยำ กล้ามเป็นมัดๆ กับกางเกงมวย และนวม พร้อมจะต่อสู้

แต่จะสักกี่คนที่จะเคยเห็นว่า เบื้องหลังของนักกีฬาสุดแกร่ง ผู้สร้างชื่อเสียงกระหึ่มโลกคนนี้ กลับเป็นเพียง “เด็กบ้านนอก” คนหนึ่ง ซึ่งมีชีวิตที่เรากล้าเรียกได้เต็มปากว่า “เรียบง่าย” และ “ดีงาม”


วันนี้ "นิตยสารสบายดีสุรินทร์" ก็ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจาก “พี่บัวขาว” ให้ได้เข้ามาจับเข่าพูดคุยถึงชีวิตนอกสังเวียนของเขากันบ้าง จะเป็นอย่างไร จะมีสนุกสนาน บู๊ล้างผลาญแค่ไหนนั้น ไปรู้จักกับเขากันเลยค่ะ

สบายดี : เล่าชีวิตในวัยเด็กให้ฟังหน่อย

บัวขาว : บ้านเกิดผมอยู่ที่บ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์เรานี่แหละครับ ตอนเด็กๆ ผมก็เหมือนเด็กบ้านนอกทั่วๆ ไปครับ เป็นเด็กทะโมนๆ รวมกลุ่มกันกับเพื่อนๆ แถวนั้น ยิงนก ตกปลา ไปเรื่อยๆ (ตอนเด็กๆ เกเรไหม) ไม่ครับ (หัวเราะ) คือผมก็เป็นเด็กผู้ชายซนๆ ทั่วไปนี่แหละ ชอบสนุก แต่ไม่เคยทำเรื่องเดือดร้อนมาถึงพ่อแม่นะ

สบายดี : เริ่มชกมวยตั้งแต่เมื่อไร

บัวขาว : จำได้ว่าครั้งแรกตอนอายุประมาณ 8 ขวบครับ เรียนอยู่ ป.2 เป็นการชกมวยในงานวัดที่บ้านตูม อำเภอปรางกู่ จังหวัดศรีสะเกษ พอไปต่อยแล้วได้เงินก็รู้สึกว่า เอ๊ะ ดีจัง ต่อยมวยแล้วได้เงินด้วย ก็คิดสนุกตามประสาเด็ก เลยชกมาเรื่อยๆ โชคดีที่ครอบครัวผมก็สนับสนุนผมก็เลยได้ฝึกซ้อมจริงจัง แล้วก็เดินสายขึ้นชกตามงานวัดบ้าง ตามที่ที่เขาจัดชกบ้าง ค่าตัวได้ร้อยกว่าบาทก็เอา สนุกดี

bo04
สบายดี : ชื่อ “บัวขาว” เป็นชื่อจริงเลยหรือเปล่า

บัวขาว : เปล่าครับ “บัวขาว” เป็นชื่อในวงการมวย เค้าคงเห็นผมตัวดำ พอเรียกบัวขาวมันก็แปลกดี ชื่อจริงผมชื่อ สมบัติ บัญชาเมฆ เรียกสั้นๆ ก็ “บัติ” ครับ

สบายดี : จริงๆ แล้วบัวขาวเป็นคนอย่างไร

บัวขาว : ผมเป็นเด็กบ้านๆ ครับ นอกจากตอนชกมวย ผมก็เหมือนคนทั่วๆ ไป ถ้าว่างจากการซ้อมผมก็จะกลับมาบ้านที่สุรินทร์ เวลาได้กลับมาบ้านแล้วผมมีความสุขนะ เหมือนเราได้มาชาร์จแบต
bo03สบายดี : ถ้าวันนี้บัวขาวไม่ได้เป็นนักมวย คิดว่าคุณจะเป็นอะไร

บัวขาว : อืม (ทำท่าคิด) ผมก็คงเป็นชาวนา กรรมกร หรือรับจ้างตัดอ้อยมั้ง (หัวเราะ) หรือไม่ก็อาจขายปุ๋ย แต่เอาจริงๆ แล้วผมให้คำตอบไม่ได้หรอก เพราะตั้งแต่เกิดมาผมก็ไม่เคยอยากเป็นอย่างอื่นเลย (ไม่เคยคิดจะทำอาชีพอื่นเลยเหรอ) ไม่เลยครับ จะเรียกว่ามุ่งมั่นเอาดีทางนี้เลยก็ได้ ตั้งแต่เด็กจนโต ชีวิตผมอยากเป็นอย่างเดียวคือนักมวย

สบายดี : งานอดิเรกที่คุณชอบทำล่ะ

บัวขาว : กินข้าว ฟังเพลง ยิ้ม หัวเราะ (ยิ้ม) สำหรับผมงานอดิเรกคืองานที่ไม่ใช่งานจริงครับ เป็นสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข ผมชอบกินข้าว คุยกันกับเพื่อนๆ ได้นั่งยิ้ม นั่งหัวเราะ แค่นี้แหละงานอดิเรกของผม (ดูคุณเป็นคนมีความสุขในชีวิตนะ) ความสุขคือสิ่งที่คนทุกคนต้องมีครับ แต่ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมอาจจะมีความสุขกับสิ่งพื้นๆ พวกนี้ แต่คนบางคนอาจจะมีความสุขกับอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้

สบายดี : แล้วอาหารโปรดของคุณคืออะไร

บัวขาว : ข้าวผัด ข้าวผัดกะเพรา เพราะมันเร็วดี ไข่เจียวก็ชอบ เวลาผมไปนั่งกินอาหารหรูๆ แล้วสั่งไข่เจียว ทุกคนจะพูดแบบ “หูววว มาตั้งร้านหรู สั่งไข่เจียว” แต่พอยกอาหารมา ไข่เจียวหมดก่อนเพื่อนเลย (หัวเราะ) อาหารอะไรที่ผมกินแล้วมีความสุขผมก็ชอบหมดแหละ แต่ที่สำคัญคือกินแล้วต้องไม่เกิดผลเสียต่อร่างกาย ผมเป็นคนดูแลตัวเอง เป็นคนรักษาสุขภาพ อย่างผมบอกว่าชอบข้าวผัด แต่ถ้าผมไม่สบาย หมอบอกให้กินข้าวต้ม ผมก็ต้องกินข้าวต้ม เพราะเรารู้ว่าข้าวผัดจะทำให้เราป่วย คือนอกจากกินอะไรที่ชอบแล้ว ต้องดีต่อสุขภาพด้วยครับ ไม่ใช่ตะบันกินเข้าไปอย่างเดียว ให้ชอบยังไง ถ้าไม่ดีก็ต้องไม่กิน

สบายดี : เวลาคุณกลับบ้านที่สุรินทร์ คนที่นี่ยังตื่นเต้นอยู่ไหมเมื่อได้เจอคุณ

บัวขาว : ครับ ก็มีคนที่มาขอถ่ายรูปด้วย หรือมาทักทายเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ผมเข้าใจนะ (ยิ้ม) ถ้าเป็นผม ผมได้เจอคนที่ผมชื่นชอบแบบตัวเป็นๆ ผมก็ตื่นเต้น อยากจะเข้าไปทัก เข้าไปคุยนั่นแหละ แต่ถ้าคนที่ได้เจอกันบ่อยๆ เนี่ย เขาก็ไม่ตื่นเต้นแล้ว ยิ่งผมเป็นคนสุรินทร์ด้วย เขาก็คงมีความปลื้มใจกับผมบ้าง อย่างเมื่อกี๊ผมนั่งรถกระบะมา (ขณะที่บัวขาวเดินทางมาให้สัมภาษณ์กับเรา บัวขาวนั่งบนด้านหลังของรถกระบะมา) นั่งผ่านถนนในเมืองสุรินทร์ ผู้คนสองข้างทางเขาเห็น เขาก็จำได้ ก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กๆ มาไง ไปไง เนี่ย อยู่ๆ มานั่งหลังกระบะรถ บางคนก็โบกมือให้ ผมก็สัมผัสความรู้สึก ความตื่นเต้นของเขาได้นะ

bo05
สบายดี : วันนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง

บัวขาว : จริงๆ แล้วความสำเร็จมันมาตั้งแต่ก้าวแรกแล้วครับ ก้าวแรกที่เราลงมือทำ ถ้าไม่ทำคือไม่สำเร็จ อย่างเช่นทำอาหารเนี่ย ลงมือทำเราก็รู้ว่ามันจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่ความสำเร็จมันก็มีเป็นขั้นๆ ไปอีก มันยังไม่จบ มันยังมีเรื่องให้ทำ เรื่องที่ต้องสำเร็จไปข้างหน้าอีก

สบายดี : รู้สึกอย่างไรชีวิตในทุกวันนี้

บัวขาว : (ทำท่าคิด) คือชีวิตมันก็มีสนุก มีเศร้า มียิ้ม มีหัวเราะ มันมีครบทุกรสแหละ แต่สำหรับผม ผมพยายามมองชีวิตให้มันเป็นเรื่องสนุกไง เพราะถ้ามันไม่สนุก มันก็กินข้าวไม่อร่อย (หัวเราะ) ผมพยายามมีความสุขกับทุกๆ อย่างที่ผมทำ

bo06สบายดี : สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงคนสุรินทร์บ้าง

บัวขาว : ถ้าผมจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างเล็กๆ ให้กับทุกคนได้บ้างผมก็ยินดีนะ ไม่ใช่เรื่องการประสบความสำเร็จ การได้ไปชกมวยไกลถึงเมืองนอกเมืองนาหรอก

แต่ผม... มาจากเด็กสุรินทร์บ้านนอกธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรเหนือกว่าใครๆ เลย เป็นคนทั่วๆ ไป ที่แทบจะมีน้อยกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่ผม “พยายาม” พยายามในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เฉพาะด้านกีฬานะ ด้านวิชาการผมก็พยายาม ด้านสังคมผมก็ทำ

ผมเป็นตัวแทนของชุมชน พยายามช่วยคิด ช่วยพัฒนาบ้านเกิดของผม ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า เราทุกคนมีศักยภาพ มีความสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ ขอแค่คุณมี 2 อย่างเท่านั้น ก็คือ ความพยายาม และความสุข ครับ

จาก  : คอลัมน์คนเมืองช้าง
นิตยสารสบายดี สุรินทร์ เล่ม 6
ประจำเดือนมิถุนายน 2560

bo01

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook