บทสรุปแบดไทย.. จะเป็นเช่นไรต่อไป?

บทสรุปแบดไทย.. จะเป็นเช่นไรต่อไป?

บทสรุปแบดไทย.. จะเป็นเช่นไรต่อไป?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แบดมินตัน : วันนี้วันพระใหญ่ขณะที่หลายๆ คนทำบุญใส่บาตรในวันอาสาฬหบูชา กำลังจรรโลงใจในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา...แต่โลกแห่งความเป็นจริงยังดำเนินอยู่ เมื่อเปิดโทรทัศน์อัพเดทข่าวสารบ้านเมืองหรือเปิดรับสื่อในโซเชียลมีเดียที่มีพลานุภาพ ในเรื่องของความฉับไว

เข้าถึง รวดเร็ว ก็ต้องตกใจกับคลิปที่เผยแพร่ไปว่อนเน็ต และเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศต้องอึ้งไปทั่วแผ่นดิน และเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับหลากหลายคำถามที่เกิดขึ้นและยังคงสงสัย ว่าทำไม"นักแบดไทยถึงมาตีกันเอง"

 

 อดีตเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด บดินทร์ อิสระ กับ มณีพงศ์ จงจิตร

กลายเป็นทอล์ค อ็อฟ เดอะ ทาวน์ งามหน้าไปทั่วเมือง!! เมื่อนักกีฬาไทยแบดมินตันอดีตคู่ซี้เก๋าเกม บดินทร์ - มณีพงษ์ ต่อยกันกลางเกมการแข่งขัน ซึ่งถือว่าเป็นข่าวกีฬาที่แรงที่สุดของไทยในรอบวันนี้และปีนี้หรือตลอดไปเลยก็ว่าได้  ขนาดตัวท่านนายกสมาคมแบดมินตันไทยเอง ทำงานมา 58 ปี ก็ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ วันนี้ตอบคำถามจากสื่อทั่วทุกสำนักจนโทรศัพท์ท่านแบตหมดไปเลย

ภาพเหตุการณ์ที่ถูกอัดคลิปวีดีโอไว้
 

ประเด็นที่ฉาวไปทั่วโลก กับกรณีเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด บดินทร์ - มณีพงษ์ ฟาดปากกันยับ ในรอบชิงชนะเลิศเเบดมินตัน เเคนาดาโอเพ่น ก่อนจะยกเลิกการเเข่งขันและปรับ บดินทร์ และ ภควัฒน์ เเพ้ฟาล์ว ไปในที่สุดศึก เแบดมินตัน โยเน็กซ์ แคนาดา โอเพน ประเภทชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ มณีพงศ์ จงจิตร จับคู่กับ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ลงสนามเจอกับคู่ของ บดินทร์ อิสสระ และ ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ ซึ่งถือเป็นการชิงกันเองของทีมขนไก่ชายไทย และเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกมแรก เป็นทางด้าน มณีพงศ์ กับ บดินทร์ ซึ่งเคยเป็นอดีตคู่หูกันมาก่อน ในศึก "ลอนดอนเกมส์" เมื่อปีที่แล้ว มีปากเสียงกันจนถึงขั้นเปิดศึกวิวาทระหว่างเปลี่ยนแดน เเละมีการลงไม้ลงมือจนส่งผลให้ ทีมงาน ต้องช่วยกันเข้ามาเเยก

 

ภาพเหตุการณ์ที่ถูกอัดคลิปวีดีโอไว้


 *** หลังเหตุการณ์ยุติลง ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ประกาศปรับให้คู่ของ บดินทร์ กับ ภควัฒน์ แพ้ฟาวล์ไปในที่สุด ส่งผลให้ มณีพงษ์ เเละ นิพิฐพนธ์ คว้าเเชมป์ไปครอง

 

วันนี้ทีมข่าวก็ได้สรุปประเด็นในแง่มุมต่างๆ ทั้งสื่อมวลชนและสื่อจากโซเชียลมีเดีย รวบรวมไว้ดังนี้

ภายหลังจากเกิดเหตุวุ่นวายตีกันกลางคอร์ทกีฬาแบดมินตันโลก เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (22 ก.ค.56) ที่ผ่านมา ศ.เจริญ วรรธนสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย เผยว่า "ได้รับรายงานจาก นางรุ่งนภา พินทุวัฒน์ ผู้จัดการทีมแบดมินตันไทยแล้วเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (22 ก.ค.) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ซึ่งตนจะให้ทางผู้จัดการทีมและทีมสตาฟฟ์โค้ช รวบรวมเหตุการณ์และตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยชุดพิเศษ เพื่อพิจารณาความประพฤติของนักกีฬาไทยทั้งคู่ต่อไปหลังกลับมาถึงประเทศไทยวันที่ 23 ก.ค.นี้"

ศ.เจริญ วรรธนสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย

"อย่างไรก็ตามเรื่องที่ผมเป็นห่วงมากที่สุด คือสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือบีดับเบิลยูเอฟ ที่ทราบเรื่องนี้แล้ว อาจเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ย่อมหมายความว่านักกีฬาไทยทั้งคู่อาจจะโดนตัดออกจากรายชื่อนักกีฬาของสหพันธ์แบดมินตันโลก หรือบีดับเบิลยูเอฟ ไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นปัญหาภายในของนักกีฬาไทยเองมากกว่า โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 58 ปี ที่ผมอยู่ในวงการแบดมินตันไทยไม่เคยเกิดเรื่องเสื่อมเสียมาก่อน เป็นเรื่องที่แย่มากๆ อยากให้ทางฝั่งแกรนูลาร์ ต้นสังกัดของบดินทร์ อิสระ ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ และควบคุมนักกีฬาของตนเอง”

 

มณีพงษ์  จงจิตร

    

ด้าน มณีพงศ์ จงจิตร เผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ว่า “ทางด้านบดินทร์ อิสระ เป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยถามตนว่าจะตะโกนสะใจทำไม ? และได้ให้ของลับไปอีกด้วย ทำให้เกิดอารมณ์ยั่วยุกันไปมา ก่อนที่เกิดเหตุการณ์จะบานปลาย
ตามคลิปที่ได้เห็น” โดยตั้งแต่เช้ามืด มณีพงศ์ ยังเผยผ่านเรื่องเล่าเช้านี้ ว่าบดินทร์ ได้ตะโกนด่าอยู่ตลอดเกมจนกระทั่ง ตอนเปลี่ยนฝั่ง บดินทร์ ได้ยืนรอเพื่อที่จะทำร้ายตนเอง   

ส่วนทางด้าน ท็อป ภควัฒน์ คู่ของ อาร์ต บดินทร์ นักแบดฯไทย ยืนยันว่า เอ มณีพงศ์ได้ให้ของลับก่อนจากนั้นอาร์ต ก็ต่อย เอ และ เอ ก็เอาไม้แบดฟาด อาร์ต จนเลือดอาบ


บดินทร์ อิสระ

 

โดย “อาร์ต” บดินทร์ อิสระ ยอมรับผิดใจกับ “เอ” มณีพงศ์ จงจิตร ตั้งแต่แยกทางกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับยืดอกรับว่าเป็นฝ่ายเริ่มก่อเรื่องทะเลาะวิวาทก่อน ผ่านรายการเจาะข่าวเด่น ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ในช่วงเย็นวันนี้ “อาร์ต” บดินทร์ อิสระ เผยผ่านรายการเจาะข่าวเด่น โดยยอมรับว่าเป็นฝ่ายเริ่มทำร้ายทางมณีพงศ์ก่อน เนื่องจากโดนยั่วยุตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มการแข่งขัน และกรรมการได้เรียกมาตักเตือนตลอดทั้งเกม จนตนไม่มีสมาธิ และไม่สามารถควบคุมสติไม่อยู่ ก่อนพ่ายไปในเกมแรก ต่อมาในเกมที่สองต้องเปลี่ยนแดนกัน ปรากฏว่า มณีพงศ์ยังยั่วยุต่อ จนทำให้ตนทนไม่ไหว จึงได้สาวหมัดใส่ ทำให้โดนแร็กเกต หวดใส่ที่กกหูด้านขวาจนฉีกขาด ต้องเย็บถึง 5 เข็มด้วยกัน จนในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ตามที่ได้เห็นในคลิปต่อไปด้วย

 

   

อดีตคู่ซี้

นับตั้งแต่ที่แยกทางกับมณีพงศ์ จากปัญหาภายในสมาคมและส่วนตัว เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทาง บดินทร์ ยอมรับว่าเริ่มบาดหมางตั้งแต่นั้นมา “ตอนนั้นผมกับมณีพงศ์ ได้ปรึกษากันว่าจะออกจากสมาคมพร้อมกัน แต่เจ้าตัวกลับไม่ออกมาด้วยกัน เนื่องจากเหตุผลบางประการ และหลังจากนั้นก็เริ่มผิดใจตั้งแต่นั้นมา เมื่อเจอหน้ากันก็แทบไมได้คุยหรือทักทายอะไรทั้งสิ้น เหมือนคนที่ไม่เคยรู้จักกัน และมีปัญหาส่วนตัวอีกด้วย”


       

ภาพหวานในอดีต

ย้อนมาดู คู่หูอาร์ท-เอ” บดินทร์ อิสสระ กับ มณีพงศ์ จงจิตร นักตบลูกขนไก่ประเภทชายคู่ของไทย ที่แจ้งเกิดในวงการด้วยการคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ รายการอินเดียน โอเพ่น และผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศโอลิมปิกเกมส์ พร้อมก้าวขึ้นเป็นเป็นอันดับที่ 8 ของโลก โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “เจ้าอาร์ท” บดินทร์ ที่ได้ขึ้นตรงกับสมาคมแบดมินตันและได้ประกาศอำลาวงการด้วยเหตุผลเรื่องการบาดเจ็บ และเรื่องส่วนตัวที่เป็น  และมีปัญหากับทางสมาคมที่โดนต่อว่าและหลายๆ เหตุการณ์ที่ทำให้ เกิดความไม่สบายใจที่จะอยู่กับทางสมาคม ก็เป็นอีกครั้งที่นักกีฬามีปัญหากับสมาคมแบดมินตัน หลังจากเหตุการณ์นี้ ถึงขั้น”แตกหัก”กันมาแล้ว

 

"อาร์ต" บดินทร์ อิสระ ออกมาขอโทษแฟนแบดมินตันชาวไทย ผ่านรายการข่าวทันเหตุการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ขณะที่ "ท็อป" ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ ออกมาขอโทษผ่านอิสตาแกรมส่วนตัวเช่นกันเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ หลังก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับ มณีพงศ์ จงจิตร ในเกมรอบชิงชนะเลิศศึก แคนาดา โอเพ่น
 

โดยบดินทร์ อิสระ ออกมาขอโทษผ่านรายการข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า "ผมบดินทร์ อิสระ ผมต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผมโดนไม้แร็กเก็ตฟาดเข้าที่ใบหูจนฉีกขาด เลือดออก ทำให้ผมขาดสติ ผมต้องขอโทษแฟนๆชาวไทยทุกคน ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติ ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และขอให้เรื่องจบลงแค่ตรงนี้ ขอบคุณครับ"


 ท็อป ภัควัฒต์ วิไลลักณ์

"ท็อป" ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ ได้ออกมาขอโทษผ่าน อินสตาแกรมส่วนตัวว่า "สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก่อนอื่นผมและอาร์ตต้องขอโทษคนไทยทุกคนที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตัวผมและอาร์ตยอมรับในสิ่งที่กระทำลงไปแล้ว ยอมรับอย่างลูกผู้ชาย ซึ่งก่อนการแข่งขัน ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แล้วเป้นฝ่ายผมเองที่ควบคุมสติไม่อยู่ และเสียใจที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ภาพในวันนี้ เหตุการณ์ในวันนี้ขอน้อมรับและยอมรับผิดครับ แต่การที่เด็กผู้ชายคนนึงโมโหอย่างบ้าคลั่งได้ขนาดนี้เป้นเพราะอะไร? อยากให้ทุกคนเข้าใจผมและน้องผมด้วยครับ"


บดินทร์  อิสสระ ได้ทำคลิปขอโทษแฟนแบดฯชาวไทย ต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วย โดยมีใจความสรุปได้ว่า ขอโทษที่ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย ตนขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และขอให้เรื่องจบแค่เพียงตรงนี้

"ผม บดินทร์ อิสระ ผมต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผมโดนไม้แร็กเก็ตฟาดเข้าที่หูจนเลือดออก หูฉีก ทำให้ผมขาดสติ ผมต้องขอโทษแฟนๆ ชาวไทยทุกคนที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงประเทศชาติ ผมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ผมขอให้เรื่องจบลงที่ตรงนี้ ขอบคุณครับ" บดินทร์ กล่าวในคลิป ขณะที่ มณีพงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า “อดีตคู่หูยั่วคู่ของตนตลอดเกม และเป็นบดินทร์ที่ลงมือก่อน”  

บทสรุปเรื่องนี้

นายเจริญ วรรธนะสิน กล่าวว่า ส่วนคู่ของ “อาร์ต” บดินทร์ กับ ภควัตร  คาดว่า สหพันธ์แบดมินตันโลกจะมีการประชุมบทลงโทษกันในเดือน พ.ย. ซึ่งตนคิดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกแบนห้ามเล่นตลอดชีวิต ส่วน สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย จะมีบทลงโทษเช่นเดียวกัน โดยจะเรียกคณะกรรมการประชุมเรื่องนี้ในวันที่ 27 ก.ค. เหตุที่ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง
 

“ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ผมอยู่ในวงการแบดมินตันมา 58 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้เลย มันทำให้ชื่อเสียง และผลงานของนักแบดมินตันคนอื่นๆที่ทำดีมาตลอดเสียไปด้วย ทั้งการคว้าแชมป์ในประเภทหญิงเดี่ยว ของ ณิชชาอร จินดาพล ในรายการเดียวกัน หรือแม้กระทั่งการคว้าแชมป์ของ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในรายการยูเอส โอเพ่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา กลายเป็นว่า คนทั้งโลกต้องมาจำเหตุการณ์ที่ดังกล่าวที่ไม่สมควรเกิดขึ้น” นายเจริญกล่าว
 

นายเจริญ เผยอีกว่า ในฐานะสมาคมแบดมินตันฯต้องรอรายงานจากกรรมการผู้ชี้ขาด จากโค้ชและผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ และต้องรอดูว่า สหพันธ์แบดมินตันโลก จะมีบทลงโทษอย่างไร ซึ่งถ้าใครผิดก็ต้องถูกลงโทษเพียงคนเดียว สิ่งที่ห่วงตอนนี้คือ อาจจะมีผลกระทบกับการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 5-11 ส.ค. เนื่องจากคู่ มณีพงศ์ - นิพิฐพนธ์ เป็นคู่มือวาง 15 ของรายการ ในประเภทชายคู่

ขณะที่ สุดเขต ประภากมล นักแบดมินตันไทย มืออันดับ 7 ของโลกประเภทคู่ผสม ได้โพสต์ข้อความในอินสตราแกรมของตัวเองแสดงความเห็นใจต่อนักแบดมินตันรุ่น น้องที่ก่อเรื่องดังกล่าวว่า “การที่เด็กผู้ชายวัยรุ่น 2 คน ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันชกต่อยกันเป็นเรื่องธรรมดาที่เห็นกันบ่อยๆตามสื่อเกือบ ทุกวัน เพียงแต่มันอาจจะผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย มันเป็นเพียงการขาดสติชั่ววูปก็เท่านั้นเอง แต่มันก็เป็นเรื่องของเด็กๆ ซึ่งผมเคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นเช่นกัน อย่าได้โทษใครคนใดคนหนึ่ง ไม่มีใครผิดใครถูก ไม่มีใครไม่เคยทำผิด ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เด็กทั้ง 2 ทำผิดก็คงไม่อยากให้ใครมาซ้ำเติม ยังไงก็ยังต้องการกำลังใจดีๆมากกว่า ปัญหาทุกอย่างมีทางออกที่ดี อยู่ที่คนแก้อยากให้จบแบบดีรึป่าวก็เท่านั้น ให้โอกาสน้องๆผมด้วย”
 


สุดเขต ประภากมล ได้โพสต์ข้อความในอินสตราแกรม


        ท้ายที่สุดแล้วผลจะออกมาเป็นเช่นไรนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินต้องรอดูว่า สหพันธ์แบดมินตันโลก จะมีบทลงโทษอย่างไร ซึ่งถ้าใครผิดก็ต้องว่ากันไปตามบทลงโทษ อีกส่วนหนึ่งของมุมมองด้านการควบคุมอารมณ์ ที่เป็นชนวนเพียงเพราะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ จนทำให้เหตุการบานปลายเช่นนี้ กลายเป็นผลเสียต่อตัวนักกีฬาเอง สมาคม และประเทศชาติ หลังจากนี้จะเป็นเช่นไรต่อไปติดตามได้ในตอนต่อไปนะคะ

 

 

กรรณิการ์  ตระกูลสา (กันย์)

 

ขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซด์สยามกีฬา

ขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซด์ข่าวสด

ขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซด์แนวหน้า


 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook