นักเตะที่น่าจับตามองเกม อังกฤษ vs อิตาลี

เกมระหว่างอังกฤษ พบกับ อิตาลี ถือเป็นคู่ทิ้งทวนในรอบ 8 ทีม ที่จะได้รู้กันแล้วว่าทีมใดจะได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมสุดท้าย ....แม้ทั้งสองทีมจะไม่ใช่ตัวเต็งในระดับต้นๆ ของทัวร์นาเมนต์ แต่ตลอดเกมในคืนนี้เชื่อว่าทั้งคู่น่าจะสู้กันอย่างสูสี และเต็มไปด้วยความเร้าใจแน่นอน

ในคอลัมน์วันนี้มีนักเตะที่น่าจับตามอง และอาจจะมีส่วนเปลี่ยนเกมมาให้ได้ติดตามกัน

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน

ขุนพลทีมอิตาลีอาจจะขึ้นชื่อในเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่น แต่ในนัดนี้การใช้แผงหลังเพียง 3 คน คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ เพราะมองแล้วโมเมนต์ของเกม เมื่อวิงแบ็กสองข้างเติมเกมขึ้นบุก และหากเจอจังหวะสวนกลับ รับรองขุมกำลัง "อัซซูรี่" งานเข้าแน่นอน

และหากจุดดังกล่าวเกิดขึ้น อังกฤษ มีแนวโน้มโจมตีและทำประตูได้สูง ซึ่งเมื่อมองแล้วพื้นที่ริมเส้นของทัพ "ทรีไลออนส์" หาก อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ได้สตาร์ตเหมือนในเกมเสมอกับ ฝรั่งเศส ด้วยนั้น ดาวรุ่งจากอาร์เซนอล ถือว่ามีความเร็วเพียงพอที่จะเอาชนะ คริสเตียน มัจโจ้ รวมทั้งยังมีวิธีการฉีกเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทั้ง 3 ได้อีกด้วย

แม้คุณสมบัติของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน จะยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นักในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่หากในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย แข้งวัย 18 ปี สามารถแสดงให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็น รับรองว่านั่นถือเป็นฝันร้ายของอิตาลีอย่างแน่นอน

อันเดรีย ปีร์โล่

อังกฤษ สามารถเล่นได้อย่างมีวินัยและเป็นระเบียบกับการรับมือ ยูเครน ในเกมรอบแรกนัดสุดท้าย ซึ่งเกมนั้นลูกทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ถือว่ามีโชคเข้าข้างไม่น้อย ทั้งๆ ที่เจ้าภาพร่วมเป็นฝ่ายที่โหมเกมรุกเข้าใส่

แต่สำหรับการเจอกับ อิตาลี ที่มี อันเดรีย ปีร์โล่ ยืนบัญชาการเกมอยู่ในแดนกลาง ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายดายแน่นอน เนื่องจากดาวเตะจากยูเวนตุสนั้นเต็มไปด้วยความสามารถหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอล, เปิดฟรีคิก หรือแม้แต่ทำประตูด้วยตัวเอง

และหากในนัดนี้ อดีตแข้ง เอซี มิลาน เกิดท็อปฟอร์มขึ้่นมา...นั่นหมายถึงจะส่งผลไปถึงเกมรุกของอิตาลี ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพ จนทำให้เปอร์เซ็นต์การครองบอลของ อังกฤษ จะลดลงตามไปในทันที

เวย์น รูนี่ย์

ดาวยิงจากแมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าทำผลงานได้ไม่เลว ในเกมแรกที่พบกับ ยูเครน หลังกลับมาจากโทษแบน 2 นัด ที่สำคัญคือการทำประตูชัยพาอังกฤษหลุดเข้ามาถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย

จากบทเรียนในเกมที่ผ่านมา ทำให้นัดที่จะเผชิญหน้ากับ อิตาลี รูนี่ย์ คงต้องเค้นฟอร์มการเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส พร้อมเพิ่มความคม และสร้างโอกาสทำประตูในครึ่งแรกให้มากกว่านี้ หากต้องการพาอังกฤษขยับเข้าสู่รอบตัดเชือก และหากศูนย์หน้าวัย 26 ปี เบิกร่องประตูแรกให้ได้เร็วเท่าไหร่ อังกฤษ ก็จะทวีความร้อนแรงในเกมทวีคูณขึ้น

อันโตนิโอ คาสซาโน่

หลายๆ คนอาจจะลืมไปแล้วว่า อันโตนิโอ คาสซาโน่ คือเพชฌฆาตสุดอันตรายของทัพ "อัซซูรี่" หลังจากถูกทาง มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวรุ่งอารมณ์ร้อนขโมยซีนขึ้นไปอยู่บนพาดหัวข่าวจากสื่อ อีกทั้งยังบดบังรัศมีหลายๆ ครั้งในสนาม

ในทัวร์นาเมนต์นี้ คาสซาโน่ ยังไม่สามารถสร้างความประทับใจได้เท่าที่ควร ซึ่งตราบใดที่ อิตาลี ยังอยู่ในรายการนี้แข้งจาก เอซี มิลาน ก็พร้อมป่วนแนวรับคู่ต่อสู้และสร้างโอกาสเซอร์ไพรส์ได้เสมอ

เพราะฉะนั้น 90 นาทีวันนี้ หาก จอห์น เทอร์รี่ และ โจลีออน เลสค็อตต์ ออกอาการสมาธิหลุดจากเกมเมื่อไหร่ รับรอง คาสซาโน่ จะสร้างความแตกต่างของเกมและพาทัพจากแดนมะกะโรนี เข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ไม่ยาก

สก็อตต์ ปาร์คเกอร์

ความไหลลื่นของเกมในทีมหากจะว่าไปแล้วจุดสำคัญที่สุดนั่นก็คือมาจากเกมในแดนกลาง แม้ในรอบแรกการครองบอลของอังกฤษ เปอร์เซ็นต์ตัวเลขจะไม่สูงก็ตาม แต่ทว่าทั้ง 3 นัดก็ไม่ได้จบด้วยความพ่ายแพ้ (ชนะ 2 เสมอ 1)

ซึ่งในเกมกับอิตาลี รอย ฮอดจ์สัน คงต้องปรับในจุดนี้ให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น มิเช่นนั้นเหล่าขุนพล "ทรีไลออนส์" จะไม่สามารถหาบอลกลางสนามได้เลย

สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ ถือเป็นคนที่เหมาะสมที่ต้องทำงานอย่างหนักพร้อมกับความกระตือรือร้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวเขาเองในการคุมจังหวะและครองบอลกลางสนามเพื่อให้เกมของอังกฤษเดินไปได้อย่างต่อเนื่อง

และหากแข้ง สเปอร์ส อดทนทำตรงจุดนี้ พร้อมจ่ายให้แนวรุกได้อย่างแม่นยำ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นน่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เข้าไปเจอกับ เยอรมัน ในรอบต่อไป