ฤาจะเป็นปีของ "เชลซี" และ "ตอร์เรส"

ฤาจะเป็นปีของ "เชลซี" และ "ตอร์เรส"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในฐานะแฟนปืนใหญ่ ผมยังอดดีใจกับ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ไม่ได้ ที่ใช้เวลาแค่ 32 นาทีเท่านั้น ก็สามารถทำประตูแรกในสีเสื้อ "ปิศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ (นัดกับเอฟเวอร์ตัน เล่น 22 นาที นัดกับ ฟูแล่ม ยิงได้ในนาทีที่ 10)

ถือเป็นเรื่องที่ต้องบอกว่า "เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง" จริง ๆ สำหรับศูนย์หน้าชาวเมืองกังหันลมผู้นี้ ที่ทำให้สาวกปิศาจแดงทั้งหลาย ไม่ต้องรอนาน ก็ได้เห็นประตูแรกจากฝีเกือกของนักเตะราคา 24 ล้านปอนด์ แถมเป็นประตูที่เข้าข่าย "สุดสวย" อีกต่างหาก

ผมชอบพาดหัวข่าวหน้า 1 ของฮอตสกอร์ ฉบับเมื่อวานนี้ (ไม่ได้เชียร์ของตัวเองจนออกนอกหน้านะครับ) ที่หัวข่าวหน้าปกพาดว่า "คืนเปิดซิง"

เพราะมันเป็นคืนเปิดซิงของ 3 นักเตะที่เพิ่งย้ายทีมหมาด ๆ ทั้ง อาร์วีพี , ชินจิ คางาวะ และนักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงสุด ๆ จนถูกพูดถึงในทุกนัดที่ลงสนามอย่าง เอด็อง อาซาร์

ยังเหลือลุ้นก็แต่ ขุนพลใหม่ของปืนใหญ่ทีมรักอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูต์ , ลูคัส โพดอลสกี้ และ ซานติ คาซอร์ล่า นี่แหละว่า เมื่อไหร่ จะเปิดซิง เหมือนอย่างคนอื่นได้บ้าง (ตอนที่ปั่นต้นฉบับอยู่ คู่ สโต๊ค กับ อาร์เซนอล ยังไม่เตะ)
มาเข้าเรื่องที่จั่วหัวเอาไว้ดีกว่าครับ

แฟน ๆ ที่ติดตามคอลัมน์ "ซอยสามัคคี" ซึ่งถือเป็นคอลัมน์ที่ฮิต และ โด่งดังที่สุด ในหน้า 4 ส่วนล่างของฮอตสกอร์ (หน้าอื่นส่วนอื่นไม่เกี่ยวเด้อ) ก็คงจะได้ทราบมาโดยตลอดว่า สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี ฤดูกาล 2012-13 นี้ ผมยกให้ แมนฯ ซิตี้ , แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี เป็นทีมเต็งที่มีโอกาสคว้าแชมป์

โดยยกให้ 2 ยักษ์ใหญ่เมืองแมนเชสเตอร์ มีโอกาสมากกว่าทีมมหาเศรษฐีของกรุงลอนดอน

แต่! พอได้เห็นการโชว์ฟอร์ม 3 นัดแรกของทีม "สิงห์น้ำเงินคราม" เชลซี แล้ว ใครจะมองว่า "เร็วเกินไป" ที่จะมาสรุป แต่ผมขอยืนยันว่า ตอนนี้ ในความคิดของผม ทีมของกุนซือโรเบอร์โต้ ดิ มัตเตโอ ดูจะดีกว่า 2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในแทบจะทุกองค์ประกอบ

ในขณะที่ ทีมของท่านเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แสดงให้เห็นจุดอ่อนในเกมรับ เห็นได้จากนัดพ่าย เอฟเวอร์ตัน หรือแม้กระทั่งนัด เฉือน ฟูแล่ม 3-2 ประตูทั้ง 2 ลูกที่พวกเขาเสียให้กับทีมเจ้าสัวแห่งลอนดอน ชัดเจนว่า มาจากความผิดพลาดในแนวรับ ยังดีที่ ดาวิด เด เกอา ช่วยเซฟสำคัญให้ได้เห็น อย่างน้อย ๆ ก็ 3 หน ทำให้ทีมผีแดง มี 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้แบบแฟน ๆ "อุนจิ" แทบหักใน

ส่วนเรือใบสีฟ้า แม้ผมจะยังไม่เห็นเกมนัดที่พวกเขาไปเยือน แอนฟิลด์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (วันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค.) แต่ที่เห็นจากเกมคอมมิวนิตี้ชิลด์ ที่พวกเขาเฉือนเชลซี 3-2 และในเกมกับ เซาแธมป์ตัน ทีมน้องใหม่ ก็ยังโดนทีมจากแดนใต้ ยิงนำก่อน 2-1 ยังดีที่แซงกลับมาชนะได้

ปัญหาของ โรเบอร์โต้ มันชินี่ ไม่ต่างไปจากที่ท่านเซอร์เฟอร์กี้ กำลังประสบ นั่นก็คือ เกมรับที่ยัง "หละหลวม" พอ ๆ กัน

แน่นอนว่า ทั้ง เรือใบสีฟ้า และ ปิศาจแดง ยังมีเวลาและเงินตราที่เพียงพอ สำหรับการ "แก้ไข" ปรับปรุงในสิ่งบกพร่องที่แสดงออกมา

แต่! ถึงยังไง การแก้ไขจุดบอดที่ว่า ผมไม่คิดว่าจะแก้ได้ในเวลาเพียงชั่ว "พริบตา"

สำหรับ "สิงห์น้ำเงินคราม" เชลซี ที่ผมเริ่มมองว่า มีโอกาส "ดีกว่า" แล้ว นั่นเป็นเพราะการได้เห็นความ "ลงตัว" อย่างรวดเร็วของพวกเขานั่นเอง

แนวรับ เป็นที่ยอมรับได้อยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่คว้าแชมป์ยุโรปมาครอง

แดนกลางได้ เอด็อง อาซาร์ มาเติมเต็มได้อย่างสุดวิเศษ แถมยังมีอาวุธใหม่อย่าง ออสการ์ ที่รอเวลาจะฉายแสง

แต่ที่ผมอยากให้ทุกท่าน จับตามองเป็น "พิเศษ" ก็คือ ในแดนหน้าครับ

การเสีย ดิดิเยร์ ดร็อกบา ไป ดูเหมือนจะไม่ส่งผล "กระทบ" พวกเขามากมายนัก เมื่อ เฟร์นันโด ตอร์เรส หัวหอกราคาแพงครึ่งร้อยล้านปอนด์ ทำท่าว่าจะแสดงความ "คุ้มค่า" ของเขาออกมาในฤดูกาลนี้

3 นัดที่ เชลซี ชนะรวด ตอร์เรส เพิ่งยิงไปแค่ 2 ประตูก็จริง แต่ว่าหัวหอกชาวเมืองกระทิงดุผู้นี้ ก็ทำให้ เชลซี ได้จุดโทษ อันนำมาซึ่งประตูแรก ในเกมที่พวกเขา เชือดนิ่ม นิวคาสเซิล เมื่อคืนวันเสาร์ (25 ส.ค.) ที่ผ่านมา

ได้เห็นสภาพร่างกายของ ตอร์เรส ที่ดูจะ "ฟิตปั๋ง" บวกกับความมั่นอกมั่นใจที่จะเพิ่มพูนขึ้นในแต่ละนัดที่ลงสนาม ซึ่งผมเชื่อว่า กุนซือ ดิ มัตเตโอ คงให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวเองเต็ม ๆ แน่ ในซีซั่นนี้

ผมเลยไม่วาย ต้องคิดล่วงหน้า ฝันรอเอาไว้ก่อนเลยว่า ทีมสิงห์น้ำเงินคราม มีโอกาสสูงมาก ที่จะกลับมาซิวบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีอีกครั้ง

และโอกาสที่ "สูงลิบลิ่ว" อีกอย่างก็คือ

ตอร์เรส จะเป็นดาวซัลโวสูงสุดบอลลีกเมืองผู้ดี ฤดูกาลนี้

ใครเห็นด้วย โปรดยกมือสนับสนุนครับ

เรื่องโดย "เฮียนอส"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook