จับติ้วยุโรป

ลุ้นระทึกผ่านหน้าเว็บ จนทำให้เว็บอย่างเป็นทางการของ "ยูฟ่า" เดี้ยงสนิทไปหลายรอบ

กับการจับติ้วแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีมสุดท้าย ที่โมนาโก ซึ่งถือเป็นฤดูกาลที่ 58

ปีๆ นึงถือว่าเร็วมาก เรายังจดจำมหัศจรรย์ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี กันไม่จางหาย ในการคว่ำสถานที่ที่ผมชอบที่สุดอย่าง "บาร์" พังกันไปถึงสองบาร์

บาร์เซโลน่า กับ บาเยิร์น มิวนิค!

นาทีนี้ เชลซี มาในฐานะ "แชมป์เก่า" กลายเป็นผู้ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไปแล้ว

เชลซี ถูกจับสลากไปอยู่ในกลุ่ม อี ได้ดวลกับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์, "ม้าลาย" ยูเวนตุส และนอร์ดเยลแลนด์ น้องใหม่เต็ง 32 ของการแข่งขัน

พูดง่ายๆ ก็คือ "บ๊วยถ่วย" นั่นแหละ

ถือว่างานไม่ยากเช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตรองแชมป์เมื่อสองปีก่อน แต่ก็ร่วงตกรอบแบ่งกลุ่ม จนต้องไปเล่นยูโรป้า ลีก แบบหมอไม่รับเย็บ

การได้เจอกับ บราก้า, กาลาตาซาราย และ ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ถือว่าหมูสวรรค์อย่างมาก หากไม่ผ่านเข้ารอบ

ไม่รู้จะพูดคำไหนอีกแล้ว

เช่นเดียวกับ อาร์เซนอล ที่มักจะทำผลงานได้ดีในเกมยุโรป น่าจะทำได้ดีต่อเนื่องอีกปี เพราะการเจอกับ ชาลเก้ 04, โอลิมเปียกอส และ มงต์เปลลิเยร์ ถือว่าไม่น่าจะระคายเคืองแข้ง

แม้ว่าตอนนี้จะปรับจูนกันไม่ค่อยติดก็ตาม

แต่ที่น่าสนใจสุดๆ ก็คือ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก

ปีนี้ต้อง "อ้วกแตก" อีกรอบ เมื่อต้องดวลกับ เรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา, ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกา และไอแอ๊กซ์ ยักษ์แห่งเนเธอร์แลนด์

ต้องบอกว่ามีโอกาสแพ้เห็นๆ อยู่ 2 นัด ทำให้ต้องลุ้นหนักในการเข้ารอบแบบไม่น่าจะมาหนักตั้งแต่ยกแรกๆ

เหมือนกับปีก่อนที่จับสลากมาอยู่สายเดียวกันกับ บาเยิร์น มิวนิค, นาโปลี และบีญาร์เรอัล ถือว่าเป็นเกมที่สุดหินอย่างมาก และเป็นกรุ๊ป ออฟ เดธ เมื่อปีที่แล้ว

ก่อนจะต้องมาอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ คราวนี้อีกครั้ง

แน่นอนที่สุด ยังเหลือเวลาอีก 1 วัน ให้กับ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือได้ไตร่ตรองอีกทีว่า ไอ้ที่เสริมทีมมาแค่ แจ๊ค ร็อดเวลล์, สก็อตต์ ซินแคลร์ และ ริชาร์ด ไรท์ มาร่วมทีมนั้น

มันจะพอล่ะหรือ

โดยเฉพาะในรายของ ไรท์ ที่เอามาเป็นมือ 3 บนวัย 34 ปี ดูเก๋าประสบการณ์ แต่ก็ไม่ได้เล่นในระดับลีกสูงสุดมานานกว่า 2,101 วัน หรือเกือบ 7 ปีเลยทีเดียว

ไหวหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เท่าที่มีอยู่มันอาจจะเยอะก็จริง

แต่คุณภาพไม่น่าจะไหวกับเป้าหมายที่ใหญ่ขนาดนี้!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"