SCOOP : ล้วงลึก “ซานเฟรชเซ่” ดีลคว้าตัว “เจ้ามุ้ย” ลุยเจลีก

SCOOP : ล้วงลึก “ซานเฟรชเซ่” ดีลคว้าตัว “เจ้ามุ้ย” ลุยเจลีก

SCOOP : ล้วงลึก “ซานเฟรชเซ่” ดีลคว้าตัว “เจ้ามุ้ย” ลุยเจลีก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวไหนในแวดวงลูกหนังไทย ที่แฟนๆให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเท่ากับข่าวของ “เจ้ามุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่กำลังเป็นที่สนใจของ ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิม่า สโมสรในศึกเจลีก ญี่ปุ่น

จากการที่ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของ ดาวยิงเบอร์ 1 ทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยว่า ผู้บริหารของทีมดังในศึกเจลีก ได้เดินทางมาเจรจา พร้อมยื่นข้อเสนอในการดึงตัว ธีรศิลป์ แดงดา ไปร่วมทีมอย่างเป็นทางการ

เรื่องราวทั้งหมดมันมีที่มาจากการที่หลายสโมสรในญี่ปุ่น เริ่มหันมามองนักเตะจากบ้านเรา และต้องการขยายฐานแฟนบอลมายังภูมิภาคอาเซียน ยิ่งทางเจลีก ได้เพิ่มโควตาพิเศษ ของแข้งจากอาเซียนด้วยแล้ว ทำให้ทุกทีมเริ่มหันมาสนใจแข้งไทย ซึ่งถือว่ามีคุณภาพฝีเท้าดีที่สุดในย่านนี้

อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางร่างเล็ก ที่กล้าตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ" ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร่" ในลีกสูงสุดแดนปลาดิบ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดนักเตะจาก "ประเทศไทย" แบบแจ้งเกิดเต็มตัว! 

ในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน ชื่อของ "ชนาธิป สรงกระสินธ์" กลายเป็นที่ถูกพูดถึงในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ทั้งในเรื่องของฟอร์มการเล่น และความมีอัธยาศัย และมารยาทที่ดี ทำให้กลาย "เจ้าเจ" หลายเป็นที่รักของแฟนบอล ที่สำคัญยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ต้นสังกัดอีกด้วย

ทุกอย่างที่ “เมสซี่เจ” บรรจงสร้างชื่อไว้ที่ดินแดนอาทิตย์อุทัย จึงเหมือนกับเป็นใบเบิกทางให้กับ แข้งจากแดนสยามรายอื่นๆ ได้มีโอกาสที่จะเดินตามรอยเท้าย้ายไปค้าแข้งในญี่ปุ่น

ซึ่งดาวเตะวัย 23 ปี เคยเปิดใจว่า ตัวเขาอยากให้นักเตะเพื่อนร่วมชาติทุกคน หากมีโอกาสย้ายมาค้าแข้งในต่างแดนให้รีบคว้าเอาไว้ทันที เพราะมันจะช่วยยกระดับพัฒนาทีมชาติไทยในอนาคตได้แน่นอน 

วกกลับมาที่เรื่องของการที่ “หมีมหาภัย” ซานเฟรชเซ่ ฮิโรชิม่า ต้องการตัว "ธีรศิลป์ แดงดา" ไปไล่ล่าตาข่ายช่วยทีม นั่นก็เพราะทีมกำลังประสบปัญหาขาดตัวจบสกอร์แบบจริงๆจังๆ

ผลงานห่วยบรมในซีซั่นที่ผ่านมา ที่ทั้งซีซั่น 34 เกม พวกเขาทำประตูได้เพียง 32 ประตูเท่านั้น นั่นคงไม่แปลกใจอะไรที่ทีมต้องดิ้นรนหนีตกชั้น จนรอดมาได้แบบเลือดตาแทบกระเด็น 

จากยุคเรืองรอง เป็นแชมป์เจลีก 3 สมัย ในช่วงเวลา 4 ปี แถมเป็นทีมที่มีลุ้นคั่วแชมป์มาตลอด แต่ทุกอย่างดูสวนทางเมื่อทีมไม่สามารถรักษานักเตะสำคัญไว้ได้ในทุกซีซั่น

ไล่ตั้งแต่การปล่อยนักเตะตัวหลักออกจากทีมอย่าง "ดักลาส" ดาวยิงชาวบราซิล รองดาวซัลโวเจลีก 2015, "ฮิซาโตะ ซาโตะ" ดาวยิงจอมเก๋าเจ้าของสถิติดาวยิงสูงสุดของสโมสร, และล่าสุด "ปีเตอร์ อูทากะ" ศูนย์หน้าชาวไนจีเรีย เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวเจลีก 2016

จากปัญหาการที่ไม่สามารถรักษาผู้เล่นสำคัญไว้ได้ในแต่ละฤดูกาล ทำให้เกิดปัญหาในทีม เมื่อนักเตะเยาวชนที่ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ไม่สามารถทดแทนขุมกำลังเดิม จนเป็นเหตุให้ "ฮาจิเมะ โมริยาสุ" กุนซือผู้ปลุกปั้นทีมมานาน ตัดสินใจลาออกเพื่อเป็นการรับผิดชอบ

กับฤดูกาล 2018 ชื่อของ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กลายเป็นที่จับตาทันที หลังเจ้าตัวสามารถโชว์ฟอร์มได้ดีในศึก เอเอฟซี ชปล. ซีซั่นที่ผ่านมา

โดยเจ้าตัวทำไปได้ 5 ประตู แถมพา “กิเลนผยอง” ทะลุเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย นอกจากนี้ยังสามารถทำประตูได้ในการพบกับสองทีมแกร่งจากญี่ปุ่นทั้ง "คาชิม่า แอนท์เลอร์ส" ในรอบแบ่งกลุ่ม และ "คาวาซากิ ฟรอนตาเล่" ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายอีกด้วย

มองกันที่ "ดีล" นี้ เป็นเรื่องของการต้องการตัวจบสกอร์ที่ทีมขาดหายไปเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งบอร์ดบริหารเล็งเห็นว่า “กองหน้าเบอร์ 1 ทีมชาติไทย” จะเข้ามาทำหน้าที่นั้นได้

แถมด้วยการตลาด ที่อาจต่อยอดให้ฐานแฟนบอลกระจายมายังประเทศไทย เหมือนที่ "ซัปโปโร่" ทำสำเร็จกับกระแส “ชนาธิปฟีเวอร์”

ถึงตอนนี้ แฟนชาวไทย คงเฝ้ารอว่า ดาวยิงทีมชาติไทย จะตัดสินใจออกผจญภัยอีกครั้ง ยังดินแดนอาทิตย์อุทัย หรือไม่? หลังจากที่ต้องพบกับความผิดหวังในการไปผจญภัยในแดนกระทิงดุ กับ "อัลเมเรีย" เมื่อ 3 ปีก่อน

แม้ครั้งนี้มันจะไม่ใช่เวทียุโรปอย่างที่เจ้าตัวเคยวาดฝันไว้ แต่เชื่อเหลือเกินว่า ด้วยวัย 29 ปี ของดาวเตะไทยที่ชื่อ "ธีรศิลป์ แดงดา" มันถึงเวลาอันสมควรที่เจ้าตัวจะกลับไปพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในการเล่นยังต่างแดน

เพราะชั่วโมงนี้....ถ้าจะว่าไป เจ้ามุ้ยคงไม่มีอะไรให้เขาต้องพิสูจน์ฝีเท้าอีกแล้วกับการค้าแข้งในประเทศ ไปเถอะมุ้ยไปลุยเจลีกเถอะ!! 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook