เป็นตายเท่ากัน! "ซีดาน" กับอนาคตที่เบอร์นาบิว

เป็นตายเท่ากัน! "ซีดาน" กับอนาคตที่เบอร์นาบิว

เป็นตายเท่ากัน! "ซีดาน" กับอนาคตที่เบอร์นาบิว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากย้อนไปเมื่อปี 1998 ชื่อของ ซีเนดีน ซีดาน  ดังกระฉ่อนโลกจากการพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกบนแผ่นดินของตัวเองอย่างยิ่งใหญ่

หลังจากนั้น อดีตมิดฟิลด์ 'ราชันชุดขาว' คนนี้ยังพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2000 สองปีหลังจากพวกเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาหมาด ๆ

ต่อด้วยปี 2002 ซิซูเอี้ยวตัววอลเลย์สุดสวยบอลเข้าไประเบิดตาข่ายไบเออร์ เลเวอร์คูเซนในรอบชิงชนะเลิศยูฟา แชมป์เปี้ยนส์ลีก ณ แฮมเด้นปาร์ค เมืองกลาสโกลว์ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุโรปรายการนี้

ซีดานร่วมคว้าถ้วยรางวัลมากมายในฐานะนักเตะตลอดชีวิตการค้าแข้ง โดยเฉพาะการเล่นให้กับเรอัล มาดริด ซึ่งเขาอยู่ในยุค "กาลาติกอส" อันลือลั่น เพราะในขณะนั้น 'ราชันชุดขาว' มีนักเตะซุปเปอร์สตาร์เต็มทีมทุกตำแหน่ง ตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า เช่น อีเคร์ คาซิยาส โรเบโต คาร์ลอส มิเชล ซัลกาโด กูตี หลุยส์ ฟิโก้ โรนัลโด้ (บราซิล) เดวิด เบ็คแฮม ราอูล กอนซาเลส และตัวเขา ซีเนดีน ซีดาน เป็นต้น

แม้จะมีถ้วยประดับบารมีและเกีรยติยศมากมาย แต่การยุติเส้นทางการค้าแข้งก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เขาและทุกคนหวังเอาไว้ อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสทำ "เฮดบัท" บรรลือโลกใส่มาร์โก มาเตรัชซีจนโดนใบแดงไล่ออก ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งสุดท้ายพลพรรคอัซซูรีคว้าแชมปไปครอง

จบชีวิตการค้าแข้งของยอดกองกลางสายคลาสสิคคนหนึ่งของโลกไว้เพียงแค่นั้น

หลังจากนั้นเจ้าตัวหันมาทำงานด้านโค้ช โดยผลงานที่ทำให้เขาก้าวเข้ามายืนในตำแหน่งโค้ชใหญ่ของเรอัล มาดริดได้ คือ การถูกดึงมาเป็นผู้ช่วยโค้ชของคาร์โล อันเชล็อตติ ในปี 2013 และคว้าแชมป์ UCL ร่วมกับทีมในปี 2014 อย่างยิ่งใหญ่ หลังร้างถ้วยใบนี้มาตั้งแต่ปี 2002 ที่เขาช่วยให้ทีมได้แชมป์ครั้งสุดท้ายในฐานะนักเตะ

แล้วก็สร้างประวัติศาสตร์อย่างยิ่งใหญ่หลังการเข้ามาแทนที่ราฟาเอล เบนิเตซเมื่อปี 2016 ช่วยให้มาดริดคว้าถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกติดต่อกัน 2 ปีซ้อนในปี 2016 และ 2017 และเป็นแชมป์ลาลีกา สเปน ในปี 2017 ด้วยเช่นกัน

แม้ผลงานที่ผ่านมาในช่วง 18 เดือนที่รับงานคุมทีมจะเข้าขั้นสุดยอด พาทีมคว้าแชมป์ทั้งหมด 8 รายการ เป็นผู้จัดการทีมคนแรกนับตั้งแต่ปี 1958 ที่สามารถพาเรอัล มาดริด คว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งลาลีกาสเปนและยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก และยังพาทีมป้องกันแชมป์ยุโรปได้อีกสมัยเมื่อต้นปี แต่ ณ สถานการณ์ปัจจุบัน ถ้วยรางวัลเหล่านั้นไม่ได้ช่วยการันตีเก้าอี้ผู้จัดการทีมราชันชุดขาวอีกต่อไป

'ราชันชุดขาว' แน่นิ่งอยู่อันดับ 4 บนตารางลาลีกา มีความเสี่ยงที่จะไม่ติดอัดนับ 1 ใน 3 ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004  ส่วนผลงานในยูฟาแชมป์เปี้ยนส์ลีกก็เข้ารอบแบ่งกลุ่มมาเป็นอันดับ 2 รองจากท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ทีมดังจากอังกฤษ จนถูกจับฉลากมาเจอกับโคตรทีมมหาเศรษฐีจากบ้านเกิดอย่าง PSG ปารีส แซงแชร์กแมงในรอบน๊อกเอ๊าท์ 16 ทีมสุดท้าย

"มันเป็นสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง แต่เราต้องอยู่กับมันให้ได้และพยายามอยู่บนเส้นทางของเรา"

ซีดานให้สัมภาษณ์กับ RTL สถานีวิทยุในฝรั่งเศสเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

'ซิซู' ซึ่งเกิดที่มาร์กเซย เมืองที่นับว่าเป็นคู่รักคู่แค้นกันอย่างยาวนานของ PSG ต้องการจะใช้ชัยชนะนัดนี้พาพวกเขาไปอยู่ในจุดที่เหมาะสมอีกครั้ง

"เราจะไม่ทิ้งทุกอย่างที่เราทำไว้เพราะฟอร์มการเล่นของเราในขณะนี้หรอก"

แม้ผลงานนัดล่าสุดในลาลีกาจะทำได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ก็ยังไม่ทำให้สถานการณ์ที่อึมครึมนั้นคลายลงไปเท่าไดนัก

"ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น ถ้ามีอะไรในด้านลบออกมาแม้จะไม่ได้รุนแรงมาก สื่อก็พร้อมที่จะทำให้มันเป็นเรื่องราวใหญ่โต" ซิซูกล่าว

ผู้จัดการทีมราชันชุดขาวรายนี้เพิ่งต่อสัญญากับทีมออกไปจนถึงปี 2020 เมื่อเดือนที่แล้ว และด้วยการที่เขายังได้รับการเคารพอยู่นั้น ทำให้ยังไม่มีการออกมาเรียกร้องจากแฟนบอลและสื่อให้ปลดเขาออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด

ท่านประธานสโมสร ฟลอเรนติโน เปเรซ ก็ไม่ได้คิดว่าซีดานเป็นแพะรับบาปจากฟอร์มการเล่นของทีมที่ตกลงไปอย่างน่าใจหายและผลงานอันย่ำแย่ในปัจจุบัน

แต่ก็ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้ เทรนเนอร์วัย 45 ปีคงต้องระวังตัวให้มากเพราะตามสถิติของสโมสรแล้ว ที่นี่ไม่ใช่ทีมที่ผู้จัดการทีมจะอยู่ได้นานเท่าไหรนัก

นับตั้งแต่ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ถูกไล่ออกเมื่อปี 2003 มาดริดใช้ผู้จัดการทีมไปทั้งสิ้น 13 คน โดยคนที่สามารถมีชีวิตอยู่ยาวนานที่สุดบนเก้าอี้ข้างสนามได้คือ โชเซ มูรินโญ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคนปัจจุบันซึ่งสามารถคุมทีมชุดขาวได้นานถึง 3 ฤดูกาล

เมื่อถูกถามว่าหากเขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้นได้จะเกิดอะไรขึ้น

"ถ้าผมคิดว่าผมไม่สามารถทำได้แล้ว ผมก็จะลาออกวันพรุ่งนี้เลย" 'ซิซู' ตอบ

"ผมชอบในสิ่งที่ผมทำอยู่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้ ผมสร้างมันมาเกือบทั้งหมด แต่ผมก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรยั่งยืนตลอดไปหรอก"

แม้จะยังไม่ได้พาทีมตกรอบน็อกเอ้าท์ก็ตาม แต่เพื่อการันตีเก้าอี้ตัวนี้ที่เบอร์นาบิว ซีเนดีน ซีดาน จะต้องพาทีมลูกผ่านด่านอรหันต์ที่มี เนย์มาร์และผองเพื่อนทีมปารีส แซงต์-แชร์กแมง ขวางทางอยู่ให้จงได้ และถ้าอยากจะให้ชัวร์จริง ๆ การคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่สามติดต่อกันจะเป็นรางวัลการันตีให้กับอดีดตมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ได้อยู่ในถิ่นเบอร์นาบิวต่อไปอีก

แม้จะแค่จบฤดูกาลนี้ก็ตาม!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook