การตัดสินใจเพื่อ 'เลส์ เบลอส์'

การตัดสินใจเพื่อ 'เลส์ เบลอส์'

การตัดสินใจเพื่อ 'เลส์ เบลอส์'
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางกระแสข่าวการประกาศรายชื่อของทีมชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เหลือเวลาอีกเพียง 28 วันจะเข้าสู่การแข่งขันนั้น ไม่มีข่าวใดที่จะสร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นได้มากไปกว่าข่าวการตัดชื่อ ซาเมียร์ นาสรี่ และกาแอล กลิชี่ พ้นจากรายชื่อทีมชาติฝรั่งเศสชุด 25 คนแรกที่จะลุย "แซมบ้า'14" ครั้งนี้

ทั้งๆที่หากพิจารณาถึงฟอร์มการเล่นแล้ว นาสรี่ และกลิชี่ อยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเฉพาะมิดฟิลด์เพลย์เมคเกอร์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับสมญาว่าเป็น "นิว ซีดาน" อยู่ในฟอร์มที่น่าจะดีที่สุดในชีวิตของเขา โดยมีเรื่องของประสบการณ์เข้ามาเติมเต็มพรสวรรค์ที่มีอัดแน่นในตัว

เรียกว่าถ้าไม่นับ ฟรองก์ ริเบรี่ แล้วนาสรี่ ไม่ได้เป็นรองใครในทีมแม้แต่คนเดียว

แน่นอนว่านี่เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของ ดิดิเย่ร์ เดชองป์ส ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว

แฟนสาวของนาสรี่ อนารา อตาเนส รับไม่ได้กับการตัดสินใจดังกล่าว ถึงขั้นด่าสาดเสียเทเสียผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ด้วยไม่เชื่อว่าดาวเตะวัย 26 ปีจะหลุดจากทีมแบบไม่มีเหตุผลเช่นนี้ ไม่ติดแม้กระทั่งชุดสแตนด์บายด้วยซ้ำไป

นาสรี่ไม่แคร์เรื่องหลุดทีมชาติ

ขณะที่เจ้าตัวเองส่งสัญญาณว่าพอจะรู้เป็นนัยว่าไม่ติดทีมของเดชองป์สแน่ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ โดยบอกว่า "ผมจะดูฟุตบอลโลกผ่านโทรทัศน์ เพราะถ้าผมเป็นตัวจริงของสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคว้าดับเบิลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ยังไม่เพียงพอ ยังแย่มาก ผมก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว"

อย่างไรก็ดีในเบื้องหลังการตัดสินใจของ "เดเด้" นั้นไม่ได้อิงอยู่กับเรื่องของ "ฝีเท้า" เป็นหลัก

หากแต่เป็นเรื่องของการรักษาเสถียรภาพความมั่นคงภายในทีมเอาไว้ ไม่ให้เกิดกรณีปัญหาเหมือนในอดีตที่ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค อดีตเลอ เซอเลคซิยอนเนอร์ ถูกลูกทีม "สไตรก์" ในฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งเป็นกรณีอื้อฉาวที่น่าอับอายขายหน้าชาวโลก

นาสรี่ อาจจะมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมจริง แต่ที่ผ่านมาเดชองป์ส ไม่ชอบ "ทัศนคติ" ของดาวเตะรายนี้มากนักในการเล่นให้กับทีมชาติฝรั่งเศส และไม่ได้ให้ลงสนามตัวจริงอีกนับตั้งแต่จบเกมเพลย์ออฟ กับยูเครนเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว

นอกจากนี้ในช่วงแรกที่ก้าวมาติดทีมชาติในยูโร 2008 นาสรี่ เองถูกพูดถึงในทางลบว่าเป็นเด็กที่ไม่มีสัมมาคารวะ กล้าจะแย่งที่นั่งของเธียร์รี่ อองรี บนรถโค้ช และมีปากเสียงกับวิลเลี่ม กัลาส เป็นประจำครั้งยังเล่นด้วยกันในทีมอาร์เซนอล

ในฟุตบอลโลก 2010 นาสรี่ หลุดโผทีมชาติ ซึ่งเขากล่าวในภายหลังว่าเป็น "จุดเปลี่ยน" ของชีวิต ที่จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อจะไม่พลาดโอกาสครั้งนี้อีก เพียงแต่เมื่อได้โอกาสกลับมาเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในยูโร 2012 นาสรี่ กลับทำตัวมีปัญหาอีก โดยเปิดฉากจวกผู้สื่อข่าวจนทำให้โดนลงโทษแบนสถานหนักถึง 3 นัด

เมื่อพิจารณาจากประวัติแล้ว และจาก "ทัศนคติ" ที่ดื้อแพ่ง โดยนักเตะรายนี้ประกาศชัดเจนว่าต้องการเป็น "ตัวจริง" เท่านั้น ซึ่งเดชองป์ส การรันตีตำแหน่งให้ไม่ได้ ในความรู้สึกของกุนซือผู้เคยสัมผัสแชมป์ฟุตบอลโลกกับฝรั่งเศสมาจึงประเมินแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่นาสรี่ จะกลายเป็นตัวปัญหาอีกครั้ง และมันอาจส่งผลเสียต่อ "บรรยากาศ" ภายในทีมทั้งหมดเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

ริเบรี่คือความหวังสูงสุดของทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เดชองป์ส ตัดสินใจที่จะไม่เอานาสรี่ติดทีมไปด้วย พร้อมให้เหตุผลประกอบอย่างชัดเจนว่า "ผมมีหน้าที่สร้างทีมที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่เลือกนักเตะฝรั่งเศสที่เก่งที่สุด 23 คน"

เพราะถึงจะไม่มีนาสรี่ เดชองป์ส ยังเชื่อว่านักเตะอย่าง มาติเยอ วัลบูเอนา, อองตวน กรีซมันน์ และริเบรี่ ดีพอจะสนับสนุนคาริม เบนเซม่า หรือหัวหอกรายอื่นๆในระบบ 4-3-3 อยู่แล้ว

ดีกว่าจะพก "ระเบิดเวลา" ไปบราซิลด้วย

จะถูกหรือผิดเขาก็พร้อมจะรับผิดชอบด้วยตัวเอง

รายชื่อผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส
ผู้รักษาประตู: ฮูโก้ ญอริส (ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์), สตีฟ มองดองดา (มาร์กแซลล์), มิคาเอล ลองโดร (บาสเตีย)
กองหลัง: มาติเยอ เดบูชี่ (นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด), ลูคัส ดีญน์ (เปแอสเช), ปาทริซ เอวร่า (แมนฯ ยูไนเต็ด), โลร็องต์ กอสเซียลนี่ (อาร์เซนอล),) เอเลียควิม มองกาลา (ปอร์โต้), บาการี ซาญ่า (อาร์เซนอล), มามาดู ซาโก้ (ลิเวอร์พูล), ราฟาเอล วาราน (เรอัล มาดริด)
กองกลาง: โยฮัน คาบาย (เปแอสเช), เคลมองต์ เกรอนิเยร์ (ลียง), แบลส มาตุยดี้ (เปแอสเช), ริโอ มาวูบา (ลีลล์), ปอล ป็อกบา (ยูเวนตุส), มุสซา ซิสโซโก้ (นิวคาสเซิล), มาติเยอ วัลบูเอน่า (มาร์กเซย์)
กองหน้า: คาริม เบนเซม่า (เรอัล มาดริด), โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (อาร์เซนอล), อองตวน กรีซมันน์ (เรอัล โซเซียดัด), โลอิก เรมี่ (นิวคาสเซิล), ฟรองก์ ริเบรี่ (บาเยิร์น มิวนิค)
สแตนด์บาย: สเตฟาน รุฟฟิเยร์ (โมนาโก), โลอิก เปร์แรง (แซงต์ เอเตียง), มักซิม โกนาลองส์ (ลียง), มอร์แกน ชไนเดอร์แลง (เซาแธมป์ตัน), เบอนัวต์ เตรมูลินาส (ดินาโม เคียฟ), อเล็กซานเดอร์ ลากาแซต์ (ลียง), เรมี่ กาเบลลา (มงต์เปลลิเยร์)

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook