เก็บตก! 5 เรื่องหลังเกม ลิเวอร์พูล พ่าย เรอัล มาดริด นัดชิงฯ UCL

เก็บตก! 5 เรื่องหลังเกม ลิเวอร์พูล พ่าย เรอัล มาดริด นัดชิงฯ UCL

เก็บตก! 5 เรื่องหลังเกม ลิเวอร์พูล พ่าย เรอัล มาดริด นัดชิงฯ UCL
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แกเร็ธ เบล รับบทฮีโร่ของเกมหลังลงสนามเป็นตัวสำรอง ก่อนทำคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเอาชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 3-1 คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน พร้อมสร้างสถิติคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 13 และนี่คือ 5 เรื่องหลังเกมที่เรานำมาฝากแฟนๆ

5. เกเก้นเพรสซิงกับคู่ต่อสู้เวิลด์คลาส
LLUIS GENE/GettyImages

เป็นที่คาดการณ์จากกูรูลูกหนังทั้งหลายว่า หงส์แดง ต้องใช้กลยุทธ์บีบพื้นที่เข้าใส่ ราชันชุดขาว อย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนที่พวกเขาเคยทำเท่านั้นเพื่อกดดันให้บรรดาแข้ง โลส บลังโกส เล่นยาก ไม่ให้ตั้งเกมอย่างถนัด ก่อนที่จะอาศัยเกมรุกที่ฉับไวเข้าโจมตีทีมดังจาก สเปน

เป็นวิธีการที่ได้ผล - ทว่าแค่เพียงครึ่งชั่วโมงแรกของเกมเท่านั้น

ความมั่นใจของนักเตะ เรอัล กลับคืนมาเมื่อโมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปหลังจากที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เพรสซิ่งของ ลิเวอร์พูล เสียขบวนยามสตาร์ อียิปต์ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้น ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ มาร์เซโล มีบทบาทกับเกมมากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งแผงมิดฟิลด์ของ ราชันชุดขาว ที่ค่อยๆ กลับมาสู่เกม โดยเฉพาะ ลูก้า โมดริช ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นที่สุดของพวกเขา

เมื่อความพยายามวิ่งไล่บอลอย่างเอาเป็นเอาตายไม่เป็นผล เรี่ยวแรงแข้ง หงส์แดง ยิ่งถดถอยเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายของเกม บวกกับตัวสำรองที่ไม่สามารถเปลี่ยนเกมได้ก็แทบทำให้ประตูในการคัมแบ็คของพวกเขาถูกปิดตาย และลงกลอนอย่างแน่นหนาก่อนจะถูกฝังเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดยาว

4. น้ำตาลูกผู้ชายPAUL ELLIS/GettyImages
เดอะค็อป หัวใจแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต้องลงไปกองกับพื้นเมื่อถูก เซร์คิโอ รามอส เข้าปะทะก่อนที่จะรับการปฐมพยาบาลกลับมาเล่นได้อีกครั้ง ทว่าก็เพียงไม่นานเมื่อเจ้าตัวทนอาการบาดเจ็บไม่ไหว เดินร้องไห้ออกจากสนามไป

นับเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่สำคัญเมื่อหลังจากนั้น โมเมนตัมของเกมกลับกลายเป็นฝั่ง ราชันชุดขาว ที่ดูจะกระเตื้องขึ้นมาในท้ายครึ่งแรกจนเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ตอนนั้นหากลูกซ้ำดาบสองของ คาริม เบนเซมา ไม่ถูกตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า

นอกจากนี้ รายงานล่าสุดหลังจบเกมยังมีข่าวออกมาว่าเจ้าตัวอาจจะต้องพลาดการลงเล่นในศึกฟุตบอลโลก ที่ รัสเซีย จากอาการบาดเจ็บดังกล่าว เช่นเดียวกับ ดานี การ์บาฆาล ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามพร้อมกับคราบน้ำตา

3. ความยอดเยี่ยมของ แกเร็ธ เบลLaurence Griffiths/GettyImages
แทบจะกลายเป็นแข้งส่วนเกินของทีมเมื่อเจ้าตัวตกเป็นข่าวว่าจะถูกปล่อยตัวรวมทั้งได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ จนไม่ค่อยได้ลงสนามนักในช่วงก่อนหน้านี้ แถมยังถูกลดบทบาทเมื่อ ซีเนดีน ซีดาน นายใหญ่ของ ราชันชุดขาว มักเลือกใช้ คริสเตียโน โรนัลโด้ จับคู่กับ คาริม เบนเซมา ในแผนการเล่น 4-3-1-2 หรือ 4-4-2 ไดมอนด์ เสียมากกว่า

ทว่าจนแล้วจนรอด สตาร์ทีมชาติ เวลส์ ก็ยังคงอยู่กับทีมและกลายเป็นฮีโร่อีกครั้งเมื่อเจ้าตัวซัด 2 ประตูสุดสวยหลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงสู่สนามในครึ่งหลัง

2. ทีเด็ดทีขาดบนม้านั่งสำรองLLUIS GENE/GettyImages

นอกจากขุมกำลัง 11 คนแรกของ เรอัล มาดริด ที่ดูมีภาษีดีกว่า ลิเวอร์พูล แล้ว บนม้านั่งสำรองของพวกเขายังมีทีเด็ดที่สามารถทดแทนได้แทบไม่ต่างกันอยู่

อดัม ลัลลานา ลงสนามมาแทนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกแต่เจ้าตัวแทบจะไม่มีบทบาทใดๆ กับเกมเลย ในทางกลับกัน แกเร็ธ เบล ที่ลงมาแทน อิสโก้ ในครึ่งเวลาหลังนั้นแผลงฤทธิ์ทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ ราชันชุดขาว กำชัยสำเร็จ

นอกจากนั้น โลส บลังโกส ยังมี มาร์โก อเซนซิโอ ที่มีฝีเท้าแทบไม่ต่างกับเหล่าแนวรุกชุดตัวจริงของพวกเขา ส่วนฝั่ง หงส์แดง มีเพียง เอ็มเร ชาน ที่พอจะเปลี่ยนเกมได้แต่เมื่อลงไปก็ทำไม่สำเร็จ ขณะที่กองหน้าสำรองของพวกเขาอย่าง โดมินิค โซลันกี้ ก็ดูมาตรฐานยังห่างไกลจากสามประสาน ซาลาห์, มาเน และ ฟีร์มิโน

ขนาดและมาตรฐานของผู้เล่นที่ใช้หมุนเวียนในทีมเป็นหนึ่งในการบ้านที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไปหากยังหวังที่จะยกระดับขึ้นมาต่อกรกับยักษ์ใหญ่ในทวีป

1. ลอริส คาริอุส?Laurence Griffiths/GettyImages
กลายเป็นจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้จากประสบการณ์และการตัดสินใจที่ยังไม่ดีพอกับการพาทีมก้าวขึ้นไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

คาริอุส ผิดพลาดเต็มๆ ในจังหวะที่เสียประตูแรกเมื่อพยายามไหลบอลให้เพื่อนร่วมทีมทว่าถูก เบนเซมา แหย่เท้าจิ้มตัดบอลได้ไปแบบดื้อๆ ก่อนบอลจะไหลสู่ก้นตาข่ายไปอย่างช้าๆ แม้ประตูที่สองที่เสียเจ้าตัวจะหมดสิทธิ์ป้องกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเจอลูกจักรยานอากาศสุดมหัศจรรย์ของ เบล ทว่าประตูตอกฝาโลงของ ราชันชุดขาว จากการซัดไกลของดาวเตะชาว เวลส์ นั้น คาริอุส น่าจะทำได้ดีกว่านี้โดยการตัดสินใจชกหรือทุบบอลออกไปแทนที่จะพยายามตะปบรับด้วยฝ่ายมือจากความแรงรวมทั้งวิถีการส่ายของลูกบอล

อย่างไรก็ตาม นอกจาก 2 ลูกเหวอดังกล่าว คาริอุส ก็ยังมีช็อตเซฟสำคัญๆ ให้เห็นในเกมนี้ และช็อตขอโทษแฟนบอลอย่างจริงใจหลังจบเกมก็ทำให้ เดอะค็อป ต่างใจสลายไปตามๆ กัน

หลังจากนี้โจทย์สำคัญที่สุดของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูท่าจะเป็นการยกระดับตำแหน่งผู้รักษาประตูของทีมเมื่อทั้ง คาริอุส และนายทวารอีกรายอย่าง ซิมง มินโญเลต์ สามารถพาทีมมาได้ไกลที่สุดเพียงเท่านี้ โดยที่สำคัญคือหนึ่งในนั้นกลายเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมไปได้ไม่สุดทางในถ้วยบิ๊กเอียร์ฤดูกาลนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook