The one and only...เฟอร์กี้เท่านั้น

The one and only...เฟอร์กี้เท่านั้น

The one and only...เฟอร์กี้เท่านั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา และแล้ววันนี้ก็มาถึง แม้จะเนิ่นนานเกือบ 27 ปี แต่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็กำลังจะก้าวลงตำแหน่งกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อจบฤดูกาลนี้ พร้อมกับทิ้งคำถามไว้ว่าปิศาจแดงในยุคที่ไร้เซอร์จะยังคงความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้หรือเปล่า

การนึกภาพผีแดงที่ไม่มีเฟอร์กี้คุมทีมอาจจะเกินจินตนาการของหลายคน เพราะแฟนบอลไม่น้อยที่ปวารณาตัวเป็นเด็กผีตอนที่เซอร์คุมทีมอยู่แล้ว หรือบางทีเซอร์แกอาจจะคุมทีมมาก่อนที่หลายคนจะเกิดด้วยซ้ำ

เบบี้แบร์เองก็เป็นคนหนึ่งที่เริ่มเชียร์บอลอังกฤษในยุคที่ป๋าเฟอร์กี้นั่งแป้นเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ดแล้ว แรกๆ ก็ยังไม่ได้ปักใจเชียร์ทีมไหนเป็นพิเศษ แต่แมนฯ ยูฯ นี่มันมีคาแร็กเตอร์บางอย่างที่โดนใจยังไงบอกไม่ถูก ติดตามไปติดตามมาก็เลยชอบ เอาล่ะวะ ตูเชียร์ทีมนี้แหละ ที่ว่ามานั่นคือเมื่อประมาณซักปี 1987-1988 ที่ผีแดงยังไม่ได้ผงาดง้ำค้ำโลกอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลย

ตอนที่ป๋าพาลูกทีมมาทัวร์ไทยในช่วงปรีซีซั่นของฤดูกาล 1989/90 เบบี้แบร์ก็ไปตามรับตามส่งตามเชียร์ ประหนึ่งสาวกเกาหลีในยุคนี้ก็ไม่ปาน รูปถ่ายพร้อมลายเซ็นของนักเตะหลายคนก็ยังเก็บสะสมไว้จนถึงตอนนี้ เสียดายที่ไม่ได้ขอของป๋าแกเอาไว้

และปีนี้แหละที่เป็นจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อเฟอร์กี้ที่ขาเก้าอี้โยกคลอนมาหลายเพลา จากผลงานที่ยังไร้ความสำเร็จมานานกวา 3 ปี ก็เปิดซิงแชมป์แรกกับทีมได้ ด้วยการคว้าแชมป์เอฟเอคัพไปครองแบบต้องลุ้นกันขี้แทบแตก แน่นอนว่าเบบี้แบร์ก็เฝ้าหน้าจอรอดูถ่ายทอดสดจากช่อง 5 หรือช่อง 7 ซักช่องนี่แหละทั้งสองนัด และได้ลิ้มรสกับความสำเร็จที่น่าปลาบปลื้มใจเป็นครั้งแรกในตอนนั้นเอง ว่าเวลาทีมที่เรารักมันได้แชมป์นี่ มันสุขสุดๆ ขนาดไหน

ปีต่อมาป๋าก็ทำให้แฟนๆ ได้เฮอีกกับการคว้าแชมป์คัพวินเนอร์สคัพ ตามด้วยแชมป์ลีกคัพในปีถัดมา ณ จุดนี้ป๋าเริ่มทำให้แฟนผีเสพติดความสำเร็จกันบ้างแล้ว แม้หนึ่งปีหลังจากนั้นจะต้องพลาดแชมป์ลีกสูงสุดไปอย่างชอกช้ำ แต่เฟอร์กี้ก็พาทีมกลับมาแก้มือได้ในปีถัดไป ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 1992/93 ไปครอง หลังจากนั้นมาก็ไม่มีใครหยุดป๋าและเด็กผีอยู่อีกแล้ว

หนึ่งในผลงานเด่นของเซอร์คือการวางรากฐานให้กับทีม ด้วยนโยบายการใช้งานนักเตะเยาวชน และชื่อของ Class of 92 ก็กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดีไปด้วย

เซอร์เฟอร์กี้ไม่ได้มีดีแค่กึ๋นในการคุมทีมอย่างเดียว แต่คาแร็กเตอร์ของเขาก็มีเสน่ห์ที่น่ารักน่าชัง ไหนจะเคล็ดวิชาถ้วยชาบินว่อน ลมปราณเครื่องเป่าผม ที่ทำเอาศิษย์ในห้องแต่งตัวบรรลุพลังฝีมือในสนามกันถ้วนหน้า ยังไม่รวมตำราพิชัยยุทธในการทำสงครามน้ำลายกับกุนซือฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่วิชากำลังภายในที่ร่ำลือกันว่าเหนือชั้นสุดๆ จนเอฟเอและสิงห์เชิ้ตดำทั้งหลายยังต้องศิโรราบ

เรื่องความเด็ดขาดและไม่ยอมลงให้ใครของเฟอร์กี้ก็ใช่ย่อย จนเป็นที่รู้กันว่านักเตะคนไหนที่งัดข้อกับเขา มีอันต้องระเห็จออกจากทีมทุกรายไป แต่แมนฯ ยูไนเต็ดก็ยังรักษาความเป็นยอดทีมเอาไว้ได้ด้วยฝีมือของเขาคนนี้ แม้จะซื้อนักเตะแป้ก ๆ ก็บ่อย จนโดนล้ำโดนอำไม่เลิก แต่นักเตะที่ซื้อมาแล้วรุ่งก็เยอะกว่า

ตลอด 20 กว่าปีมานี้ เซอร์เฟอร์กี้สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษได้มากมาย วลีเด็ดๆ ทั้งคำชม คำด่า คำเสียดสีประชดประชันของเขา ยังเป็นที่จดจำของหลายๆ คน ลีลาการเคี้ยวหมากฝรั่งแหยบๆ เวลาคุมทีมไปด้วย แอ๊กชั่นเวลาลุกขึ้นมาดีใจเมื่อทีมได้ประตู หรือการออกมาโวยวายกรรมการและไลน์แมนเวลาตัดสินไม่ตรงใจ ทั้งหมดต่างเป็นภาพที่ยากจะลืมเลือน และคงน่าใจหายที่เราจะไม่เห็นภาพเหล่านี้อีกแล้ว หลังจบ 3 นัดที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้

เซอร์จะผันตัวเองไปเป็นผู้บริหารของแมนฯ ยูไนเต็ดต่อไป และครั้งนี้เขาคงจะไม่มีการกลับลำเหมือนกับเมื่อปี 2001 อีกแล้ว หลังจากเคยประกาศจะรีไทร์ครั้งแรกจนทีมฟอร์มวูบ ทำให้ป๋าอดรนทนดูไม่ได้ ต้องยอมกลืนน้ำลายกลับมาคุมทีมใหม่ และก็ยิงยาวมาอีกเป็นสิบปี

ครั้งนี้เฟอร์กี้คงจะล้างมือในอ่างทองคำจริงๆ ทิ้งงานชิ้นใหญ่เอาไว้ให้กับคนที่จะก้าวมารับตำแหน่งต่อ ส่วนตัวป๋าแกก็จะขึ้นหิ้งเป็นตำนานยอดกุนซือลูกหนังของแมนฯ ยูไนเต็ด, วงการฟุตบอลอังกฤษ และวงการลูกหนังโลก ที่คงจะไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว

เรื่องโดย "เบบี้แบร์"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook