ตัวเดียวเสียวทั้งลีก!!

ฟุตบอล : ฮือฮาไม่เบาทีเดียวสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ เมซุต โอซิล ห้องเครื่องคนใหม่ของ อาร์เซน่อล หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ซึ่งมีการเปิดตัวกันไป ณ ลอนดอน โคลนี่ย์ สนามซ้อมหลักของทัพ "ปืนใหญ่" เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) ที่ผ่านมา สำหรับห้องเครื่องชาวเยอรมันคนนี้น่าจะเป็นนักเตะที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขายซัมเมอร์ที่ผ่านมา

เพราะนอกจากการเป็น "เซอร์ไพรส์ ดีล" แล้ว ยังมีประเด็นตามต่อกับการเสียหน้าของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่ถูกรุมประณามว่าขายนักเตะ "โคตรดี" ของทีมออกไปได้อย่างไร

ซึ่งทางออกที่บิ๊กบอส "ราชันชุดขาว" ทำคือการโบ้ยความผิดไปที่ตัวนักเตะว่าผิดวินัยบ้างล่ะ ติดหญิงบ้างล่ะ จนพ่อ โอซิล ต้องออกมาขู่ว่าจะฟ้อง "หมิ่นประมาท" ถ้ายังไม่เลิกสร้างข่าวเสียหายให้ลูกชายตัวเอง ถึงจะยอมสงบปากสงบคำในที่สุด

จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ปัจจุบันเป็นเด็กปืนไปแล้วขอบคุณ

มีหลายกระแสที่พูดถึง โอซิล กับการย้ายมา อาร์เซน่อล ในครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่มองว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของนักเตะรายนี้กับการได้ย้ายมาร่วมทีมที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในทีมขึ้นชื่อว่ามีเกมบุกที่ดีที่สุดทีมหนึ่งของยุโรป และเชื่อว่าจะพลิกสถานการณ์ของทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ให้กลับมาเป็นทีมที่พร้อมจะลุ้นคว้าความสำเร็จได้อีกครั้ง หลังไม่สามารถคว้าถ้วยแชมป์ในรายการใดมาครองได้เลยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่บางกระแสก็ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของกองกลางรายนี้ เพราะน่าจะมีทีมอื่นที่ทำให้เขากลายเป็น "โคตรแข้ง" ได้มากกว่าทีมที่ร้างความสำเร็จอย่าง อาร์เซน่อล ในฐานะกองเชียร์ ปืนใหญ่ และเจ้าของคอลัมน์ "อารมณ์คมคาย" นี้ขอฟันธงแบบเข้าข้างตัวเองด้วยคำพูดที่ผมเอ่ยติดปากกับใครหลายคนว่า "โอซิล ตัวเดียว เสียวทั้งลีก" นะครับ โดยมีเหตุผลประกอบ 5 ประการดังนี้

1. เยอรมันคอนเน็คชั่น!!

มีคนพูดจาภาษาเดียวกันอยู่ในทีมเลยทำให้อะไรมันดูง่ายขึ้น

หลายคนอาจเข้าใจว่า อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะเลือดน้ำหอม เพราะตัวหลักหลายรายทั้ง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, โลร็องต์ กอสเซียลนี่ หรือแข้งใหม่อย่าง มาติเยอ ฟลามินี่ ล้วนเป็นแข้งฝรั่งเศสทั้งสิ้น จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ในฐานะที่เป็นกุนซือชาวฝรั่งเศสเคยสร้างปรากฏการณ์ "เฟร้นช์ คอนเน็คชั่น" มาแล้วจากการประสานงานกันของ เธียรี่ อองรี, เอ็มมานูเอล เปอตีต์, โรแบร์ ปิแรส หรือ ปาทริค วิเอร่า ที่พา อาร์เซน่อล คว้าความสำเร็จมากมายเมื่อครั้งอดีต

แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ ปัจจุบัน อาร์เซน่อล มีนักเตะฝรั่งเศส อยู่ 6 คน เท่ากับนักเตะเยอรมัน เมื่อรวม โอซิล เข้าไปด้วย โดยแข้งเลือดเบียร์ที่อยู่กับทีมเมืองหลวงประกอบด้วย แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, ลูคัส โพดอลสกี้ นี่คือ 2 นักเตะในทีมชุดใหญ่

ส่วนอีก 3 รายเป็นดาวรุ่งทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น เซิร์จ นาร์บี้, เกดิออน เซราเล็ม และโธมัส ไอส์ฟิลด์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยให้ โอซิล ปรับตัวในการเล่นได้รวดเร็วขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ห่วงเรื่องการปรับตัวไปเปราะหนึ่ง

2. การันตีด้วยสถิติ

ไม่ว่าจะทีมชาติ, สโมสร มาตรฐานโอซิล ไม่เคยตก 

หากใครยังปรามาส โอซิล ว่าจะหมดอนาคตในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ลองย้อนไปดูกราฟผลงานการเล่นของเจ้าตัวนับตั้งแต่ย้ายออกจาก แวร์เดอร์ เบรเมน แล้วไปร่วมทีมเรอัล มาดริด เมื่อปี 2010 ดูนะครับ แทบไม่มีช่วงเวลาฟอร์มตกเลย มีแต่ฟอร์มขึ้นเรื่อยๆ นี่คือนักเตะที่มีสถิติในการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้น้อยกว่าเพียงแค่ ลิโอเนล เมสซี่ กองกลาง "ต่างดาว" ของ บาร์เซโลน่า แข้งที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของโลกทำได้ในช่วงเวลาเดียวกันเท่านั้น

เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาข้อด้อยเดียวที่ โอซิล เป็นรอง เมสซี่ คือยิงได้น้อยกว่า เขาจ่ายให้เพื่อนทำประตูเท่ากับ เมสซี่ ที่ 47 ครั้ง ซึ่งเฉลี่ยเป็นสถิติได้ว่าลงเล่นทุก 22.1 นาทีจะจ่าย "คิลเลอร์ พาส" 1 ครั้ง ซึ่งเจ้าตัวก็มั่นใจว่าจะสามารถสร้างทั้งหมดให้เกิดขึ้นอีกครั้งกับ อาร์เซน่อล ได้ในฤดูกาลนี้

3.รวมกันเป็นหนึ่ง

ชิรูด์ก็เริ่มเข้าที่ได้ตัวปั้นดีๆ อย่างโอซิลเข้ามาถ้าจูนติดกันเร็ว มีเสียวทั้งลีก

ข้อแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง เรอัล มาดริด กับ อาร์เซน่อล คือระบบการเล่นของทีม ทัพ "ราชันชุดขาว" มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และแกเร็ธ เบล เป็นแข้งมากความสามารถที่พร้อมจะกระชากลากเลื้อยโชว์ให้เห็นว่า "เมพขิงๆ" แค่ไหน โดยก่อนนี้ โอซิล มีหน้าจ่ายบอลให้แข้งเหล่านี้เข้าไปทำประตู ในขณะที่ อาร์เซน่อล ไม่มีนักเตะแบบนั้น ทำให้ต้องเน้นการเล่นแบบเป็นระบบมากกว่า

ซึ่ง โอซิล จะกลายเป็นหัวใจสำคัญในเกมบุกของทีม โดยมีเพื่อนร่วมทีมอย่าง แจ็ค วิลเชียร์, ซานติ กาซอร์ล่า และเพื่อนร่วมชาติอย่าง "โพลดี้" คอยสนับสนุน นั่นหมายความว่านอกจากจะได้เห็นเขาจ่ายบอลให้เพื่อนยิง ยังจะได้เห็นการยิงประตูจากแถวสองของเขา เหมือนที่ทำกับทีมชาติเยอรมัน ในตลอดช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย

4. ทำงานกับกุนซือจอมปั้น

มาถึงก็เลียเป็นเลยนะ แบบนี้อยู่กันได้ยาวๆ อิอิ

โอซิล ให้สัมภาษณ์ในวันแรกของการแถลงข่าวที่ ลอนดอน โคลนีย์ ว่า "ผมรู้สึกดีมากๆ ที่นี่ ผมมั่นใจว่าหัวหน้า (อาร์แซน เวนเกอร์) จะพัฒนาผม และผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม ผมคุยกับ (แพร์) แมร์เตซัคเกอร์ และ (ลูคัส) โพดอลสกี้ เกี่ยวกับสโมสรนี้ ผมได้ยินอะไรดีๆ มาเยอะมาก นี่เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากมายกับการพัฒนาผู้เล่นดาวรุ่ง และหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือกมาที่นี่"

อาร์แซน เวนเกอร์ นับว่าเป็นนักปั้นมือทองคนหนึ่งของโลกลูกหนัง และก่อนนี้เจ้าตัวเคยเปรยไว้แล้วว่า เขามั่นใจว่า โอซิล คือนักเตะประเภท "พร้อมใช้งาน" ที่จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อาร์เซน่อล ต่อไปในอนาคตข้างหน้า และน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า เวนเกอร์ นั้นจะใช้งาน โอซิล ให้มีประสิทธิภาพได้มากน้อยเพียงใด

5. ยังไม่ถึงจุดสูงสุด

ไม่ได้มาตอนแก่, ไม่ได้มาตอนฟอร์มตก วุ้ย...เสียวทั้งลีก

ปัจจุบัน โอซิล เพิ่งจะอายุ 24 ปี แต่สถิติการลงเล่นของเขาให้กับบรรดาทีมใหญ่ๆนั้นมากมายเหลือเกิน สมัยอยู่กับ "นกนางนวล" แวร์เดอร์ เบรเมน ตลอด 4 ปีได้ลงเล่นกว่า 108 เกม ยิงได้ 18 ประตู พอย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด 3 ปี ได้ลงเล่นรวมทุกรายการ 159 เกม ยิงได้ 27 ประตู มีแต่จะมากกว่าขึ้นทุกที

หากมองไปถึงสถิติการเล่นทีมชาติแล้วด้วย อายุเพียงเท่านี้ แต่รับใช้ชาติไปแล้วถึง 48 เกม ยิงได้ 14 ประตู ยังเหลือเวลาอีกเยอะมากให้เจ้าตัวสร้างตำนาน ว่ากันว่าอาชีพพ่อค้าแข้งนั้นจะมีจุดสูงสุดในช่วงเวลาอายุประมาณ 28-29 ปี นั่นหมายความว่ามีสถิติอีกมากมาย นอกจากการเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร และนักเตะเยอรมันที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติรอให้ โอซิล ทำลายสถิติอยู่ในวันข้างหน้า

ว่ากันว่า อาร์เซน่อล พร้อมที่จะส่ง โอซิล ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมทันทีในเกมลีกที่มีคิวบุกเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ทั้งที่เพิ่งลงซ้อมกับ อาร์เซน่อล ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เห็นว่า 5 ประการที่ผมบอกนั้นเป็นจริงหรือไม่ เชื่อผมเถอะครับ "โอซิล ตัวเดียวเสียวทั้งลีก"

อธิคม ภูเก้าล้วน เรียบเรียง