หนังสือฉาวสะท้านวงการ?

หนังสือฉาวสะท้านวงการ?

หนังสือฉาวสะท้านวงการ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Alex Ferguson: My Autobiography

ความจริงเรื่องของการเปิดตัวหนังสือชีวประวัติของนักฟุตบอล อดีตนักฟุตบอล ผู้จัดการทีม หรืออดีตผู้จัดการทีมนั้นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่อยู่คู่กันกับวงการฟุตบอลในยุโรปมาช้านานครับ โดยเฉพาะในอังกฤษจะมีมากเป็นพิเศษ

ในแต่ละเดือนจะมีการเปิดตัวหนังสือในลักษณะนี้เสมอ ซึ่งตามธรรมเนียมก็จะมีการส่งเทียบเชิญให้แก่บรรดาสำนักข่าวต่างๆมาร่วมงานแถลงข่าว

นอกจากนี้ยังมีการส่ง "น้ำจิ้ม" ด้วยเรื่องคัดย่อเด็ดๆที่มาจากในหนังสือมาให้สำนักข่าวได้ตีพิมพ์เผยแพร่ก่อน ซึ่งเรื่องที่ส่งไปในชุดแรกนี่แหละครับที่ถือเป็นของเด็ดของดีจริง

กระนั้นผมก็ไม่เคยเห็นการเปิดตัวหนังสือของใครที่จะกลายเป็นข่าวระดับพาดหัวได้เหมือนของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันมาก่อน

โดยที่ทั้งช่วงก่อนการเปิดตัว หรือในช่วงหลังการเปิดตัว เรื่องราวในหนังสือต่างเป็น Talk of the town ชนิดที่ดุเด็ดเผ็ดร้อน และตีแผ่ในหลายเรื่องบางประเด็นที่เราอาจจะเคยระแคะระคายมาบ้างจากข้อมูลของนักข่าววงในที่อังกฤษ แต่ไม่เคยได้ยินจากปากของเฟอร์กี้มาก่อน

ผมรวบรวมเอามาให้อ่านกันคร่าวๆ เป็นน้ำจิ้มเช่นกัน โดยที่หากอยากจะอ่านฉบับเต็มต้องรบกวนไปซื้อหนังสือ Alex Ferguson: My Autobiography

เฟอร์กี้ถึงเดวิด เบ็คแฮม

เฟอร์กี้ และเบ็คแฮม แตกหักกันหลังจบเกมเอฟเอ คัพ รอบที่ 5 ในปี 2003 และผลของมันก็นำไปสู่ภาพฉาวเมื่อ เบ็คแฮม มีบาดแผลที่คิ้วที่เกิดจากการหวดสตั๊ดบันดาลโทสะอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านั้น เฟอร์กี้ วิพากษ์ผลงานของเจ้าพ่อฟรีคิก แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ

"ก็เหมือนทุกที เดวิด ในช่วงเวลานั้นเขาไม่ทนกับการวิจารณ์ของผมอีก เขาอยู่ห่างออกไป 12 ฟุต แล้วเขาก็โพล่งคำพูดออกมา ผมเลยเดินเข้าไปหาเขาแล้วก็หวดสตั๊ดไปเข้าหางคิ้วขวาของเขา เขาลุกขึ้นทันทีจะเอาเรื่องแต่เพื่อนๆห้ามไว้ ผมเลยบอกเขาให้นั่งลง แกทำให้เพื่อนผิดหวัง แกอยากจะเถียงอะไรก็เอาเลย จากนั้นผมโทรหาเขา และเขายังไม่ยอมรับว่ามันเป็นความผิดของเขา"

"จากนั้นวันรุ่งขึ้น เรื่องก็ถึงสื่อ และมันก็เป็นวันที่ผมบอกกับบอร์ดบริหารว่าเดวิด ต้องย้ายออกไป"

เฟอร์กี้ถึงคริสติอาโน่ โรนัลโด้

เฟอร์กี้ กล่าวสรรเสริญโรนัลโด้ว่าเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงสุดที่เขาเคยดูแลมา "เขาเก่งยิ่งกว่ายอดนักเตะคนไหนๆที่ผมเคยดูแลที่ยูไนเต็ด"

โรนัลโด้ ย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2009 ด้วยค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์ ซึ่งความจริงก่อนหน้านั้นมีการตื้ออย่างหนักจากเรอัล มาดริด จนทำให้เฟอร์กี้ ต้องบินไปกล่อมโรนัลโด้ด้วยตัวเองถึงบ้านที่โปรตุเกสในปี 2008

ในครั้งนั้น เฟอร์กี้ บอกกับโรนัลโด้ว่า ถ้าจะให้ "ขาย" เขาออกไปให้เรอัล เอาปืนมา "ยิง" เขาดีกว่า

เฟอร์กี้ถึงราฟา เบนิเตซ

ทั้งสองเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันทั้งในสนามและนอกสนาม

โดยสาเหตุนั้น เฟอร์กี้ เผยว่าเป็นเพราะ ราฟา ซึ่งขณะนั้นนำทีมลิเวอร์พูลขึ้นมาเบียดลุ้นแชมป์ได้อยู่ฤดูกาลนึง เลือกที่จะเอาความขัดแย้งจากเรื่องในสนามออกมาอยู่ในชีวิตจริงด้วย

"เมื่อเลือกที่จะเอาความขัดแย้งมาเป็นเรื่องส่วนตัวด้วยคุณก็หมดโอกาส เบนิเตซ พยายามจะคว้าแชมป์รวมถึงจ้องจะเล่นผมด้วย ซึ่งไม่ฉลาดเลย

เฟอร์กี้ถึงเวย์น รูนี่ย์

เฟอร์กี้ ชื่นชอบรูนี่ย์อย่างมากในเรื่องความสามารถในการเล่น แต่เริ่มกังวลใจในสภาพความฟิตของเขา โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งทำให้ทั้งสองแตกหักกัน

"ผมรู้สึกเขาเริ่มมีปัญหาและเสียพลังในตัวบางอย่างไป และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งมีปัญหามากขึ้น ในการจะเล่นให้ได้เต็มเวลา 90 นาที"

เฟอร์กี้ ยังเผยอีกว่า รูนี่ย์ มาขอพบจริงเพื่อขอย้ายทีมจริง แต่ไม่ยอมย้ายเพราะมีเงื่อนไขในสัญญาระบุเอาไว้ว่าหากเป็นฝ่ายที่ขอย้ายทีมเองจะไม่ได้เงินกินเปล่า (siging-on-fee) ซึ่งคงจะเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้ก็ยังคงหงุดหงิดกับเรื่องพวกนี้จนถึงวันนี้

เฟอร์กี้ถึงรอย คีน

ว่ากันว่าในหนังสือของเฟอร์กี้เล่มนี้ คนที่โดนหนักที่สุดน่าจะเป็น รอย คีน อดีตกัปตันทีมของเขา

เฟอร์กี้เผยว่า คีน นั้นหลงตัวเอง ยึดมั่นถือมั่นในอำนาจตัวเองมากจนเกินไป และพร้อมจะเปิดปากวิจารณ์ทุกคนบนโลกโดยไม่ไว้หน้า

"สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของรอย คีน ก็คือปากของเขา เขามีฝีปากที่โหดร้ายที่สุดเกินกว่าใครจะจินตนาการได้"

"เขาสามารถทำลายความมั่นใจของคนที่มั่นใจที่สุดในโลกได้เพียงเสี้ยววินาที"

ลูกแม่กิ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook