15 วันแห่งการล้างป่าช้า!

15 วันแห่งการล้างป่าช้า!

15 วันแห่งการล้างป่าช้า!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เปิดทำการ ขอยอมรับตามตรงว่าเบื่อมากครับ กับข่าวลือทั้งหลาย นับตั้งแต่ผมเริ่มอ่านออกเขียนได้ อยากบอกว่าข่าวการย้ายทีมของบรรดาซุปตาร์วงการลูกหนังในช่วงมกราคม นี้แหละครับ มีอัตราความตอแหลมากที่สุดในวงการสื่อทุกสำนัก

ทำให้ผมไม่อยากจะเชื่อหรือใส่ใจอะไรมากมาย ตราบใดที่ยังไม่มีการชูเสื้อ หรือนั่งจรดปากกากันอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ก็บอกเลยว่าควรฟังหูไว้หู อย่าเสพอะไรที่ไม่มีที่มาที่ไปมากเกินวันละ 2 รอบ เพราะสิ่งที่นักข่าวชอบที่สุดในช่วงนี้ คือการจับแพะชนแกะครับ และช่วงนี้แหละมันขายข่าวได้ใครก็สนใจ นักข่าวหลายคนอาจยึดสุภาษิตที่ว่า "น้ำขึ้นให้รีบตัก"

ส่วนใหญ่แล้วไม่มีนักเตะคนไหนอยากจะย้ายในช่วง กลางซีซั่นแบบนี้หรอก ในมุมนักเตะ หากต้องย้ายด้วยความจำเป็นบางประการนั่นก็อาจเป็นเพราะไม่มีที่ว่างในทีมชุดใหญ่ หรือไม่ก็สโมสรได้รับข้อเสนออย่างคุ้มค่าแก่การปล่อยตัว จนไปถึงการมีปัญหากับโค้ช หรือพูดง่ายๆ คืออยู่แล้วมันคับใจ ย้ายเสียดีกว่า หมดใจกับต้นสังกัดเดิมนี่คือเหตุจูงใจที่ทำให้เกิดการย้ายสังกัดได้

แต่มีอยู่ข่าวหนึ่งครับที่มีมูลเหตุจูงใจให้เกิดการโยกย้ายทว่าช่างแยบยลและไม่ตรงกับที่กล่าวมาข้างต้น

เขาคือหนึ่งในนักเตะปิศาจแดงที่กำลังลือกันให้แซดว่าจ่อจะได้ไปใช้ชีวิตในดินแดนอิตาลีกับ ฟิออเรนติน่า อยู่รอมร่อ นั่นก็คือ อันแดร์สัน จอมทัพสำรองหมายเลข 8

จากรายงานของสื่อจากอังกฤษเจ้าหนึ่งระบุว่า ผู้อำนวยการสโมสรฟิออเรนติน่า ดานิเอเล่ ปราด ได้พูดคุยเรื่องข้อตกลงกับทาง นักเตะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกล่าวผ่าน "มีเดียเซต" สถานีโทรทัศน์อิตาลี ว่า "เราสนใจอันแดร์สัน จริง แต่ก็ยังมีเป้าหมายอื่นๆ อีกด้วย เรามองหาศูนย์หน้าเพื่อเข้ามาเป็นทางเลือก อย่างไรก็ตามเรากำลังเฝ้าติดตามเขา(อันแดร์สัน) และเขาอาจจะเข้ามาร่วมทีม แต่เป้าหมายเรายังมีอีก ใจเย็นๆ มีเวลาถึง 31 มกราคม แน่ะ"

จากคำกล่าวผู้อำนวยการสโมสร "ม่วงมหากาฬ" นั่นหมายความว่า อันแดร์สันกำลังจะได้ย้ายไปสู่ถิ่น อเตมิโอ ฟรังคี่ สูงมาก ครับ แล้วเหตุไฉนเดวิด มอยส์ ถึงไม่มีปฏิกิริยาจะรั้งดาวเตะร่างอวบรายนี้ไว้กับทีมบ้างเลย และนี่คือประเด็น
อันแดร์สัน หลุยส์ เดอ อับรู โอลิเวียร่า หรือที่เพื่อนๆ เจ้าตัวเรียกกันว่า "อันโด้" ในวัย 25 ปี มิดฟิลด์สายพันธุ์แซมบ้า ย้ายมาร่วมทัพปิศาจแดงตามคำแนะนำของดาร์เรน เฟอร์กูสัน (น้องชาย "ป๋า") ที่เป็นทีมแมวมองในขณะนั้นด้วยค่าตัว 20 ล้านด์ปอนด์

โดย "ป๋า"ยอมรับถึงเบื้องหลังความผิดพลาดในการซื้อ อดีตมิดฟิลด์ปอร์โต้รายนี้ว่า เกิดจากน้องชายของเขานี่แหละที่ ย่องไปกระซิบข้างๆ หู ประมาณว่า "นี่คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของวงการลูกหนังโลก" พลางบอกว่าไอ้หมอนี่เจ๋งสุดๆ และจะกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่มีฝีเท้าระดับโลก "อย่าได้สงสัย"

แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่ปักใจเชื่อครับ จึงตรวจสอบกันอีกรอบจนเป็นที่แน่ใจแล้วว่า ต้องรีบฉุดเจ้าหนุ่มอนาคตไกล จากต้นสังกัด เกรมิโอ( ทีมเดียวกับนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกจริงๆอย่าง โรนัลดินโญ่ เคยค้าแข้ง) เข้าสู่ทีมให้เร็วที่สุด ก่อนที่บาเซโลน่า จะรู้ว่ามีเด็กอัศจรรย์คนนี้อยู่บนโลกมนุษย์

วันที่ 1 กรกฎาคม 2007 "ป๋า" ก็เปิดตัวนักเตะที่กลัวเหลือเกินว่าทีม "ต่างดาว" จะฉกตัวไปอย่าง อันแดร์สัน ให้ชาวโลกได้รับรู้ว่าเป็นนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย

จากวันนั้นถึงวันนี้ นับเป็นเวลาเกือบๆ 7 ปีเต็มแล้วครับ ที่มิดฟิลด์อนาคตไกลอย่าง อันแดร์สัน ฝังหนอกอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ทว่าปัจจุบันนี้แทบไม่มีชื่อติด 7 ผู้เล่นม้านั่งสำรองเสียด้วยซ้ำไป มันเกิดอะไรกับ "อันโด้" ?

อันแดร์สัน รับใช้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปทั้งสิ้น 179 เกม ยิงได้เพียง 9 ประตู พูดง่ายๆ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติบราซิลรายนี้ จะยิง 1 ประตู ต่อ 19 เกม โดยประมาณ

เมื่อยิงไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ในเมื่อเป็นกองกลางที่ฝากความหวังในการทำประตูไม่ได้อาจมีบางอย่างเข้ามาชดเชยส่วนที่ขาดหาย นั่นคือการ "แอสซิสต์" หรือการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมกระทุ้งตาข่ายได้สำเร็จ

แต่ครับแต่ 3 ซีซั่นนับรวมฤดูกาลนี้ด้วย เจ้าตัวสามารถส่งบอลให้เพื่อนยิงเป็นประตูรวมได้เพียง 7 ครั้งเท่านั้น

มันน้อยเกินไปครับ กับตำแหน่งและบทบาทที่ได้รับ เรียกได้ว่า เป็นนักเตะที่ "หาจุดเด่นในตัวเองไม่เจอ"

การได้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หายเจ็บกลับมาสู่ทีมและทำผลงานได้เนียนตาใน 2 เกมล่าสุด ไมเคิล คาร์ริก ขาประจำ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, ชินจิ คางาวะ ที่กำลังกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้ง ไหนจะ มารูยาน เฟลไลนี่ ที่กุนซือ "ป๋าดัน" ไปคว้ามาด้วยราคาแพงอีก

จึงส่งผลให้ อดีตดาวรุ่งพุ่งกระฉูดที่เคยเจิดจรัสในนามทีมชาติบราซิล ยู-17 พร้อมคว้ารางวัล "โกลเด้นบอล"มาครองอย่างสมเกียรติ กลับกลายเป็นของเก่าราคาแพงไร้ค่า

ไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมเดวิด มอยส์ จึงไม่คิดจะรั้งตัวอันแดร์สัน ไว้ ทั้งที่เจ้าตัวเคยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีกถึง 4สมัย แชมป์เปี้ยนส์ลีก อีก 1 สมัย ในยุคของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เพราะผู้จัดการทีม แมนฯยูในเต็ดวันนี้ชื่อ "เดวิด มอยส์" และสิ่งที่เขากำลังทำต่อจากนี้คือ "การกวาดบ้านให้สะอาด ก่อนจะหาเฟอร์นิเจอร์ มาตกแต่งให้สวยงามและน่าอยู่"

นั่นหมายความว่า อันแดร์สัน อาจไม่ใช่รายเดียวเท่านั้นที่กำลังจะถูกโละทิ้ง ทว่ายังมีอีกหลายคนที่หมดสภาพ และเดวิด มอยส์ ก็พร้อมจะตัดสินชะตาชีวิตนักเตะเหล่านี้ด้วยวิธีเดียวกัน

กรณีของอันแดร์สัน อาจเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ หากใครยังไม่รู้ตัวก็ตื่นได้แล้ว หากใครอยากมีอนาคต อยู่ในสีเสื้อปิศาจแดงต่อไป โอกาสที่ได้รับในสนามทุกวินาทีต่อจากนี้ จะเป็นตัวตัดสินอนาคตของตัวเอง เพราะสิ่งที่เดวิด มอยส์ เริ่มทำให้เห็นกับกรณีของอันแดร์สัน อาจไม่ใช่การเชือดไก่ให้ลิงดู แต่อาจเป็นการล้างป่าช้าภายใน 15 ที่เหลือวันนับจากนี้ต่างหาก

Boo Redbull

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook