My Liverpool: ลิเวอร์พูลยิงเยอะเสียเยอะ!

My Liverpool: ลิเวอร์พูลยิงเยอะเสียเยอะ!

My Liverpool: ลิเวอร์พูลยิงเยอะเสียเยอะ!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ประตูชัยของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในเกมที่เฉือนเอาชนะ สวอนซี ลงได้อย่างจวนเจียน 4-3 ไม่เพียงแต่จะทำให้ ลิเวอร์พูล รักษาช่องห่างจากทีมที่ไล่หลังมาสำหรับการลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็น 6 คะแนนแล้ว

นี่ยังเป็นชัยชนะที่สำคัญยิ่งสำหรับความหวังลึกๆของแฟนๆที่อยากจะเห็นทีมกลับมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศให้ได้ครั้งแรกในรอบ 24 ปี

หลังจากเคยโดน สวอนซี เล่นงานแบ่งแต้มมาแล้วในการเจอกันครั้งแรกของฤดูกาล ล่าสุดในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สวอนซี เกือบจะทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องพลาด 3 คะแนนอีกครั้งเมื่อสู้อย่างสุดฤทธิ์

ก่อนที่สุดท้าย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะกลายเป็นฮีโร่ให้กับแฟนๆได้เฮเมื่อยิงประตูชัยพาทีมยึดอันดับ 4 อย่างเหนียวแน่นและกับการที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งไล่หลังมาไม่ห่างจากพวกเขาเกิดสะดุดแพ้พร้อมกันๆทำให้ล่าสุด ลิเวอร์พูล ทำคะแนนหนีห่างจาก สเปอร์ส ซึ่งอยู่อันดับ 5 ไป 6 คะแนนเรียบร้อยแล้ว

ลิเวอร์พูล ขึ้นนำไปก่อนถึง 2-0 จาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และน่าจะเก็บ 3 คะแนนได้ไม่ยากทว่าพวกเขาก็ปล่อยให้ สวอนซี กลับมาสู่เกมจนได้จากประตูของ จอนโจ้ เชลวี่ย์ และ วิลฟรีด โบนี่ แต่ สเตอร์ริดจ์ ก็ช่วยให้ ลิวเอร์พูล ขึ้นนำอีกครั้งก่อนจะจบครึ่งแรก

 

สเตอร์ริดจ์ เป็นนักเตะอังกฤษที่ยิงได้เยอะสุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้

โดยสองประตูของ สเตอร์ริดจ์ ที่ทำได้ทำให้เขาสะสมไปแล้ว 18 ประตูเฉพาะในลีกและเป็นนักเตะอังกฤษที่ยิงได้เยอะสุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้อีกด้วยหลังจากเคยทำสถิติยิงได้มากที่สุดในบรรดากองหน้าอังกฤษด้วยกันของพรีเมียร์ลีกมาแล้วในปี 2013

กลับมาต้นครึ่งหลัง โบนี่ หัวหอกไอวอรี่โคสต์ ตีเสมอให้กับทีมเยือนได้สำเร็จ ลิเวอร์พูล พยายามที่จะเอาประตูเพิ่มให้ได้เพราะในวันเสาร์ทีมในกลุ่มนำอย่าง เชลซี, อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างพากันเก็บชัยชนะได้หมดล่วงหน้าไปก่อนแล้ว

และเมื่อถึงนาทีที่ 74 ของเกม เฮนเดอร์สัน ก็สบโอกาสจากจังหวะที่เติมเข้าไปในเขตโทษรับบอลจาก ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก่อนจะยิงผ่าน มิเชล วอร์ม นายประตูดัตช์ของ สวอนซี เข้าไปได้สำเร็จและกลายเป็นประตูชัยในเกมนี้ของเจ้าถิ่น

ฟอร์มที่ดีของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับลิเวอร์พูลอาจทำให้เขาได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกกลางปีนี้

โดยหลังจบเกมตัวของ เฮนเดอร์สัน เองให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าประตูชัยของเขาที่ทำให้ทีมได้ในเกมนี้อาจจะเป็นประตูที่มีความหมายที่สุดที่เขาเคยทำได้ ณ L4 (ที่ตั้งของสนามแอนฟิลด์) เลยก็ว่าได้

เกมรับยังเป็นสิ่งที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องรีบแก้ไขหากไม่อยากจะให้โอกาสในการลุ้นพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของทีมและโอกาสในการลุ้นแชมป์ซึ่งถือว่าพวกเขาก็มีลุ้นเช่นกันไม่หลุดลอยไปให้เสียดายเล่น

ลิเวอร์พูล อาจจะยิงไปแล้ว 70 ประตูซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของลีกแซงหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียอีก แต่เกมรับของพวกเขาก็น่าเป็นห่วงเพราะเสียไปแล้วครึ่งหนึ่งของที่ยิงได้คือ 35 ประตูและหากกวาดตามองดูในครึ่งบนของตารางคะแนนแล้วจะมีแต่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดของ อลัน พาร์ดิว เพียงทีมเดียวที่เสียประตูมากกว่าพวกเขา

โปรแกรมลงสนามเกมต่อไปของ ลิเวอร์พูล คือการจะต้องบุกไปเยือนรังเซนต์ แมรี่ส์ ของทีม "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน ซึ่งเกมนี้จะหวดกันในวันเสาร์ที่ 2 มี.ค.นี้ในเวลาบ้านเราประมาณเที่ยงคืนครึ่ง

และสัปดาห์ถัดไปหลังจากนั้นเกมลีกจะต้องหลบทางให้กับโปรแกรมเกมทีมชาติอุ่นเครื่องก่อนจะกลับมาว่ากันใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 16 มี.ค.ซึ่งหลายคนทราบดีแล้วว่านั่นคือเกมแดงเดือดที่ ลิเวอร์พูล จะต้องไปเยือนคู่ปรับอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นเอง

เซาแธมป์ตันของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เป็นทีมเดียวที่บุกมาชนะลิเวอร์พูลในเกมลีกที่แอนฟิลด์ฤดูกาลนี้ 

ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล หมดสิทธิ์ที่จะประมาท เซาแธมป์ตัน ได้เลยเพราะในฤดูกาลนี้ความพ่ายแพ้เกมเดียวในลีกที่เกิดขึ้นของพวกเขาก็มาจากทีเด็ดของทีมจากตอนใต้ของอังกฤษทีมนี้นั่นเอง

อย่างไรก็ดีผลงานของในลีกเกมล่าสุดนั้นทีม "นักบุญ" ซึ่งมีดาวเตะดีกรีทีมชาติอังกฤษอย่าง เจย์ โรดริเกวซ์, อดัม ลัลลาน่า และ ริคกี้ แลมเบิร์ต อาจมีสะดุดไปบ้างในการบุกไปอัด เวสต์แฮม ที่มีเกมรับเหนียวแน่นเลยต้องกลับบ้านมาพร้อมกับความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ถึง 3-1

ย้อนกลับไปในการเจอกันที่รังของ เดอะ เซนต์ส เมื่อฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เคยได้รับบทเรียนมาแล้วในการมาเยือนที่นี่เมื่อโดน เซาแธมป์ตัน อัดพ่ายกลับมา 3-1

พูดถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว พวกเขากำลังทำอันดับขึ้นมาอย่างเงียบๆ ล่าสุดหลังจาก สเปอร์ ส กับ เอฟเวอร์ตัน สะดุดไป ทีมของ เดวิด มอยส์ ที่สามารถบุกไปเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จจากรัง เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค ของ คริสตัล พาเลซ ก็ขึ้นมาเสียบอยู่ในอันดับ 6 เรียบร้อยแล้วโดยตามหลัง สเปอร์ส ที่รั้งอันดับ 5 อยู่ 5 คะแนน

ยูไนเต็ด ปืนฝืดในลีกมา 3 เกมก่อนหน้านี้เช่นเดียวกับ เวย์น รูนี่ย์ ที่ยิงไม่ได้มา 5 เกมติด แต่เกมที่บุกไปปราบ พาเลซ นั้น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ รูนี่ย์ ที่เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปกับ ยูไนเต็ด ช่วยกันทำคนละประตูให้กับทีมเก็บชัยชนะที่สำคัญได้สำเร็จ

มาร์ค สุรเดช

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook