"ป้องกันแชมป์.. เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"ป้องกันแชมป์.. เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"ป้องกันแชมป์.. เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้วนะครับสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018-19 ไม่ว่าสำนักไหนๆเขาก็ยกให้แชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัวเต็งป้องกันถ้วยสำเร็จ โดยไม่แคร์สถิติที่ผ่านมาว่าไม่มีสโมสรใดรักษาแชมป์มาได้ 10 ปีเข้าไปแล้ว (ทีมที่ทำได้ครั้งสุดท้ายคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 2008 ต่อด้วย 2009)

ดูฟอร์มไปแค่นัดเดียวสำนักต่างๆก็ออกราคา "เรือใบสีฟ้า" เป็นแชมป์ชนิดทิ้งห่างทีมอื่นๆอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเต็ง 2 อย่าง ลิเวอร์พูล หรือเต็ง 3 ร่วมอย่าง เชลซี, แมนฯยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไม่ต้องไปพูดถึง อาร์เซน่อล เพราะฟอร์มลูกน้องใหม่ของ อูไน เอเมรี่ ดูจะยังไม่เข้าตาบรรดาเกจิสักเท่าไร

 1015798288-594x594

แต่เอาเข้าจริงแล้วงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ?

กับการเสริมทัพหลักๆเพียงคนเดียว ริยาด มาห์เรซ จากเลสเตอร์ ซิตี้ ในราคา 60 ล้านปอนด์ เนื่องจาก "เป๊ป" ให้เหตุผลว่า 2 ปีที่ผ่านมาจัดไปเยอะแล้ว เที่ยวนี้เลยต้องเพลาๆมือลงบ้าง ขณะที่ทีมอื่นๆอย่าง ลิเวอร์พูล ทุ่มไป 170 ล้านปอนด์ ส่วน เชลซีก็มากกว่า 120 ล้านปอนด์

โดยส่วนตัวผมคาดหมายว่า ปีนี้การขับเคี่ยวน่าจะเข้มข้นมากถึงมากที่สุด แน่นอนคะแนนจะไม่หลุดห่างเหมือนเมื่อฤดูกาลที่แล้ว การทำนายแชมป์ล่วงหน้าคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะฟุตบอลอังกฤษยุคปัจจุบัน ตัวแปรต่างๆล้วนมีบทบาทเกี่ยวข้องและส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสำเร็จของแต่ละทีมทั้งสิ้น

1015794560-594x594

เรื่องแรกคืออาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลัก ทีมที่ได้แชมป์ 2-3 ฤดูกาลสุดท้ายคือทีมที่โชคดี เจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างน้อย ไม่ว่าจะเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ ในยุคของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ของคอนเต้ และทีม "เรือใบสีฟ้า" เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แต่พอมาปีนี้เริ่มต้น เควิน เดอ บรอยน์ ก็โชคร้ายเจ็บยาวต้องพัก 3-4 เดือน และหากนักเตะหลักของ "เรือใบสีฟ้า" เกิดโชคร้ายเดี้ยงขึ้นมาอีกคนสองคนอะไรจะเกิดขึ้น​

เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล ที่ อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน กองกลางต้องชวดลงสนามตลอดทั้งฤดูกาล โชคดีที่สโมสรรู้ตัวก่อนซีซั่นจะเปิดเลยยังพอแก้ปัญหาได้ทัน​

839563114-594x594

การเร่งฟอร์มของซูเปอร์สตาร์ในทีมก็เป็นอีกประเด็น อย่าประมาททีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งชอบทำตัวในลักษณะที่เป็นรองหรือม้านอกสายตา เมื่อไรที่ความกดดันและความคาดหมายไม่ได้อยู่ที่สโมสรของเขาแล้ว เขามักจะทำผลงานได้ดี ยิ่งถ้าหาก เฟร็ด, ป๊อกบา, และ ลูกากู พร้อมใจกันฟอร์มแรง ขึ้นมาอะไรมันก็ไม่แน่

คู่ต่อสู้ที่น่าจับตามองอีกคนคือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียนเข้ามาปรับเปลี่ยน เชลซี ให้เล่นในระบบใหม่ 4-3-3 มีเกมรุกที่หวือหวาขึ้น ดูฟอร์มจากเกมแรกก็เข้าท่าทีเดียว ยิ่งถ้าสามารถรักษา เอแด็น อาซาร์ ไว้กับทีมได้ตลอดรอดฝั่ง และ ซาร์รี่ ทำให้ผู้เล่นตัวหลักอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า หายปืนฝืด พวกเขาน่าจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่มีความหวัง ถ้าไม่ลืมประเด็นสำคัญที่สุดคือเรื่องของโชคชะตา

สุดท้ายแล้วการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกไม่เคยง่าย ตลอดเส้นทางอันยาวทางเกือบ 10 เดือน อะไรก็เกิดขึ้นได้ และมันจะเป็นอย่างนั้นอีกอย่างแน่นอนในฤดูกาลนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook