ไทยไร้ดวงโดนตีเสมอก่อนพ่ายจุดโทษ เดนมาร์กซิวแชมป์คิงส์คัพอย่างน่าเจ็บใจ

ไทยไร้ดวงโดนตีเสมอก่อนพ่ายจุดโทษ เดนมาร์กซิวแชมป์คิงส์คัพอย่างน่าเจ็บใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทีมชาติไทย พลาดโอกาสทองปล่อยให้โดนตีเสมอ สุดท้ายต้องตัดสินด้วยลูกจุดโทษ ก่อนพ่ายเดนมาร์ก ไปอย่างน่าเจ็บใจด้วยสกอร์รวม 5-7 (ในเวลา 2-2) ชวดคว้าแชมป์ฟุตบอล ชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 39 ที่สนามสุระกุล จ.ภูเก็ต เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 23 ม.ค.

เกมในช่วง 15 นาทีแรกทีมชาติไทยต่อบอลตามช่องเปิดเกมรุกเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่อง แต่เดนมาร์กซึ่งมีผู้เล่นที่รูปร่างสูงใหญ่ ก็ยังตัดบอลจากแดนกลางได้อย่างน่าดูไม่แพ้กัน ทว่าทั้งสองทีมแทบไม่มีโอกาสได้จบสกอร์เลย จนกระทั่งถึงนาที 35 เดนมาร์กได้ฟรีคิก สต๊อปโฮล โยนบอลยาวเข้ามา ให้เพื่อนโหม่งชงต่อให้ แดนนี่ โฮลเซ่น หวดตุงตาข่ายให้ทีมโคนมขึ้นนำไปก่อน 1-0 จนจบครึ่งแรก

ครึ่งหลัง ปีเตอร์ รีด กุนซือใหญ่แก้เกมให้ทีมไทยเปลี่ยนผู้เล่นสำรอง ส่งเจ้ามุ้ยธีรศิลป์ แดงดา หัวหอกดาวรุ่งลงสนาม เติมเกมบุกเข้าใส่นักเตะแดนโคนมอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสหวุดหวิดจะได้ประตูหลายครั้งหลายหน จนถึงนาที 64 ไทยได้ฟรีคิกจังหวะเปิดบอลโยนเข้ามาหน้าประตู กองหลังเดนมาร์กไปเบียดดึงกับเจ้ามุ้ยล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้ไทยได้ลูกจุดโทษทันที เจ้าเบิร์ท สุธี สุขสมกิจ รับหน้าที่สังหารกลายเป็นสกอร์ตีเสมอให้ไทย เป็น 1-1 ถึงนาที 70 ณัฐพร พันฤทธิ์ เป็นตะคริวต้องส่ง นิเวส ศิริวงศ์ กองหลังจอมเก๋าวัย 38 ปีลงไปแทน สี่นาทีต่อมา ไทยเปลี่ยน อานนท์ สังข์สระน้อย ลงแทน สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกเท่าไหร่ในเกมนี้ ขณะที่ผู้เล่นเดนมาร์กเองก็ดูจะอ่อนแรงแผ่วปลายลงเห็นชัด จนถึงนาที 79 นาทีทองของไทยก็มาถึง เมื่อสุรีย์สกัดบอลได้ลูกมาเข้าทางธีรศิลป์ กระดกบอลให้สุธี ที่เติมขึ้นมาทางกราบซ้าย กระชากบอลเข้าไปยิงเสียบตุงตาข่าย กลายเป็นสกอร์ให้ทีมไทยขึ้นนำบ้าง 2-1 ประตู นาทีต่อมาไทยมีโอกาสน่าจะได้ประตูที่สาม จากจังหวะหลุดเข้ายิงของดัสกร ทองเหลา แต่บอลชนเสากระดอนออกมา ช่วงสามนาทีสุดท้ายเดนมาร์กโหมบุกขนานใหญ่อีกครั้ง แต่แล้วก่อนจะหมดเวลานาทีเดียว กองเชียร์เดนมาร์กนับพันคนก็เฮกันลั่น เมื่อผู้เล่นเดนมาร์กโยนลูกโด่งมาจากกลางสนาม บอลย้อยมาหน้าประตู ผู้เล่นเดนมาร์กใช้อกพักบอลก่อนชงให้ เคน ไอโซ หวดเต็มเกือกส่งบอลเข้าประตูตีเสมอแบบไม่น่าเชื่อ 2-2 ทำเอาแฟนบอลเจ้าถิ่นจำนวนไม่น้อยพากันโห่ใส่ที่เห็นนักเตะไทยเสียสมาธิง่ายๆ ครบ 90 นาทีเต็มเสมอกันอยู่ 2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ผลการดวลจุดโทษ ผู้เล่นของไทย ทั้ง สุธี สุขสมกิจ, อานนท์ สังข์สระน้อย, รังสรร วิวัฒน์ชัยโชค สังหารตุงตาข่ายทุกคน ยกเว้นมี ดัสกร ทองเหลา ของไทยเพียงคนเดียวแปบอลเบาตรงตัว คริส เจนเซ่น ผู้รักษาประตูแดนโคนม ขณะที่ผู้เล่นเดนมาร์กยิงเข้าทุกคนทั้ง 5 ลูก สุดท้าย เดนมาร์ก ดวลจุดโทษชนะทีมไทย ไปด้วยสกอร์รวม 7-5 ประตู คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ไปครองสมใจ

หลังเกม รีดเผยเกมวันนี้ไทยก็เล่นดี แต่ยอมรับว่าเดนมาร์กนั้นแข็งแกร่ง และมีเทคนิคดี เราเองเริ่มเกมตื่นไปหน่อย แต่พอคุมเกม ได้ก็ไหลลื่น จากการวิเคราะห์เห็นว่าเกมรุกของเขาเล่นได้ดี ประตูเดนมาร์กเองต้องทำงานหนัก เสียดายที่เราโดนตีเสมอ แต่โดยรวมก็พอใจเกม สาเหตุที่เก็บตัวสำคัญไว้ก็เพื่อต้องการไว้ใช้งานสู้ศึกอิหร่าน ในเอเชียน คัพ วันที่ 28 ม.ค.นี้ ตนคุมทีมมาแล้ว 3 รายการ ได้เข้าชิงทั้งหมด แม้จะได้เพียงแชมป์รายการเดียว ก็ถือว่าโอเคแล้ว นักเตะไทยนั้นมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในด้านฟิตเนส เห็นได้ชัดเจนว่ามีผลต่อการแข่งขันอย่างมาก จากนั้นทีมไทยจะปักหลักซ้อมที่ภูเก็ตยาวจนถึงวันที่ 26 ม.ค.จึงจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ

สำหรับผลคู่ชิงที่ 3 เลบานอน เป็นฝ่ายเฉือนชนะ เกาหลีเหนือ 1-0 ได้ประตูชัยจากการสังหารจุดโทษของอับบาส อัตวี ในครึ่งหลัง ทำให้เลบานอน ครองอันดับ 3 ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 39

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook