บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการบริหารฯ ชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในเดือน มี.ค.นี้ นั้น ขณะนี้คณะกรรมการกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารฯ ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ ในวันดังกล่าวจะมีการหารือถึงกำหนดการการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ซึ่งมีวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ด้วย เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 30 หรือ 31 มี.ค. ซึ่งการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ จะมีตัวแทนจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) เข้าร่วมสังเกตการณ์ด
ในการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิค แห่งประเทศไทยฯ ครั้งนี้ จะมีผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 45 เสียง แบ่งเป็นสมาคมกีฬาที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิคฯ 33 เสียง, ผู้แทนโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) 1 เสียง (ดร. ณัฐ อินทรปาณ), ผู้แทนชมรมนักกีฬาโอลิมปิก 1 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน เพื่อร่วมกัน ลงคะแนนเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ จำนวน 23 คน รวมกับผู้แทนโอลิมปิกสากล 1 คน กับผู้แทนชมรมนักกีฬาโอลิมปิก 1 คน รวมเป็น 25 คน จากนั้นคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จะร่วมกันโหวตเลือกประธานอีกครั้ง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตามกฎของ ไอโอซี การเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกของแต่ละประเทศจะต้องเลือกคณะกรรมการฯ ก่อนจึงจะมีการเลือกประธานฯ ซึ่งจากขั้นตอนดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าจุดสำคัญจะอยู่ในช่วงที่เลือกตั้งประธาน อาจเกิดการพลิกผันขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม แม้การเลือกตั้งจะจัดขึ้นใกล้กับช่วงการที่ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยน มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ระหว่าง 25 พ.ค.-3 เม.ย.นี้ แต่เชื่อว่าจะไม่ทำให้งานสะดุดอย่างแน่นอน
ผมอยู่ในตำแหน่งประธานโอลิมปิคไทย มา 2 สมัย รวม 8 ปี ซึ่งในครั้งนี้หากเพื่อนสมาชิกยังให้ความไว้วางใจก็พร้อมจะเป็นต่ออีกสมัยเท่านั้น เพราะตั้งใจว่าจะทำงานเพื่อพัฒนาวงการกีฬาไทยอย่างเต็มที่ แต่หากไม่ได้รับตำแหน่งก็ยังไม่ได้วางแผนหรือโครงการอะไรไว้รองรับ รวมถึงยังไม่มีแนวคิดที่จะเบนเข็มเข้าสู่เส้นทางของการเมืองด้วย บิ๊กอ๊อด ยืนยัน.