"ฟอลส์ ไนน์" ไม่เคยตาย (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"ฟอลส์ ไนน์" ไม่เคยตาย (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)

"ฟอลส์ ไนน์" ไม่เคยตาย (คอลัมน์สนุกมือ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คงยังไม่สายที่จะกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่แก่ผู้อ่านสนุกดอทคอมนะครับ แม้ปี 2019 นี้จะไม่มีมหกรรมลูกหนังระดับใหญ่อย่างเวิลด์คัพหรือบอลยูโร แต่ก็มีเกมระดับท้องถิ่นอย่าง ซีเกมส์ และแน่นอนการโรมรันพันตูเพื่อแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เข้มข้นเสียจริงๆ "แฟนหงส์" ลุ้นกันอย่างหนักให้การรอคอยอันยาวนาน 28 ปีสิ้นสุดลงเสียที

ข้อเขียนนี้เป็นตอนแรกของปี ขอเขียนเรื่องเบาๆเกี่ยวกับตำแหน่ง "ฟอลส์ ไนน์" (false 9) ซึ่งถ้าจะแปลเป็นไทยว่า ศูนย์หน้าเทียม ศูนย์หน้าปลอมๆ ก็คงไม่ผิดนัก ทีแรกนึกว่าจะล้มหายตายจากไปจากวงการลูกหนังแล้ว แต่ที่ไหนได้ฤดูกาลนี้กลับมาใช้กันอย่างคึกคัก ขนาดยอดกุนซืออย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ ของเชลซี ยังจับ เอแอน อาซาร์ มาเล่นได้อย่างโอเคทีเดียว เล่นไปเรื่อยๆอาจจะกลายเป็น "ฟอลส์ ไนน์" ที่ดีที่สุดไปเลยก็ได้

gettyimages-1069969244-594x59

การใช้แทคติคแบบนี้ไม่น่าจะสร้างความสุขให้กับผู้เล่นศูนย์หน้าแท้ๆสักเท่าไหร่ ผู้เล่นอย่าง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หรือ อัลบาโร่ โมราต้า คงจะมีความกระอักกระอ่วนไม่น้อย ที่ต้องนั่งดูผู้เล่นที่ไม่ธรรมชาติ มาเล่นแทนในตำแหน่งของตัวเอง

ระบบนี้เริ่มต้นแทรกซึมเข้าสู่วงการเมื่อไหร่ จำไม่ได้แน่ชัดนักนะครับ แต่น่าจะเป็นช่วงประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งพ่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคุมทีมบาร์เซโลน่าอยู่แล้วพัฒนาขึ้นมาโดยใช้ ลิโอเนล เมสซี่ นี่แหละครับเป็นตัว "ฟอลส์ ไนน์" เน้นหนักที่การต่อบอลในแดนกลาง เชส ฟาเบรกาส เป็นอีกคนที่ได้รับบทบาทนี้ทั้งกับสโมสรและในนามทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกปี 2010

gettyimages-98656288-594x594

มันคือการเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอล ซึ่งแทคติคและระบบการเล่นมันสลับไปได้เรื่อยๆ จะเรียกว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งก็น่าจะได้ จากสมัยก่อนที่มีรูปแบบการยืน MW, 4-2-4 บ้าง หรือ 4-3-3 ซึ่งทีมชาติบราซิลนำมาใช้ประสบความสำเร็จในยุค 70 ต่อมาเป็น 4-4-2 ในช่วงปี 80-90 โยฮัน ครัฟฟ์ นำ 3-4-3 มาแทรกบ้างกับ บาร์ซ่า รวมทั้ง อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็ใช้ในยุคนั้น จนในปัจจุบัน 4-3-3 กลับมาฮิตอีกครั้ง

แต่ไม่ว่าระบบไหนก็จะต้องมีผู้เล่นดาวยิงอยู่ 1 คนเป็นอย่างน้อย หรือบางช่วงใช้ 2 คนเสียด้วยซ้ำจนก่อกำเนิดคู่หูอย่าง เคนนี่ เดลกลิช-เอียน รัช หรือ แกรี่ ลินิเกอร์-ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ ขึ้นมา ถ้าไม่มีเสียเลยใช้ลักษณะศูนย์หน้าปลอมๆแบบนี้ ผมบอกตามตรงว่าดูๆไปแล้วบางทีมันก็น่าเบื่อนะครับ ใจมันยังรักจะชมความน่าตื่นเต้นจากผู้เล่นในตำแหน่งดาวยิง เวลาแสดงทักษะและศิลปะการเล่นในตำแหน่งนี้

gettyimages-1081362822-594x59

สุดท้ายก็ต้องทำใจยอมรับว่า มันคือวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาของผู้จัดการทีม ยามที่ขาดศูนย์หน้า หรือในช่วงดาวยิงที่มีอยู่ไม่สามารถกระซวกประตูคู่แข่งได้ ผู้เล่นอย่าง เอแดน อาซาร์ หรือ ริชาร์ลิสัน ก็จำเป็นที่จะต้องถูกผลักดันให้ขึ้นมาเล่นในตำแหน่ง "ฟอลส์ ไนน์"

อย่างว่าละครับ ในโลกของ "ฟุตบอล" ไม่มีอะไรถูกอะไรผิด ถ้าลองแล้วได้ผล พาทีมชนะและเป็นแชมป์ได้ ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook