"ปู่ลี" ผู้รักษาประตูวัย 79 ปี กับเหตุผลสุดซึ้งกินใจที่ทำให้หยุดเล่นฟุตบอลไม่ได้

"ปู่ลี" ผู้รักษาประตูวัย 79 ปี กับเหตุผลสุดซึ้งกินใจที่ทำให้หยุดเล่นฟุตบอลไม่ได้

"ปู่ลี" ผู้รักษาประตูวัย 79 ปี กับเหตุผลสุดซึ้งกินใจที่ทำให้หยุดเล่นฟุตบอลไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากคุณเป็นคนที่ชอบอยู่กับบ้านในวันหยุด เชื่อว่าในทุกๆวันอาทิตย์ เวลา 17.00 น -18.00 น. หากกดรีโมตไปเรื่อยคุณจะพบกับรายการที่มีชื่อว่า SUPER 60+ ซึ่งเป็นรายการที่ให้ผู้สูงอายุ (60 + ขึ้นไป) มาใช้ความสามารถเพื่อแลกกับความฝันหรือต้องการสิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เพื่อตนเองและผู้อื่น

นี่คือรายการที่ทำให้คนหนุ่มสาวที่รู้สึกเหนื่อยหน่าย จะได้รับรู้ว่าแท้จริงเเล้วชีวิตของคนเราไม่ได้ถูกกำหนดด้วยอายุแต่อย่างใด คุณลุงคุณป้าที่มาออกในรายการนี้พวกเขามีฝันเหมือนกันไม่ต่างกับคนวัยรุ่นแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่าสังคมต่างหากที่คิดว่าคนเหล่านี้เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง ที่จะเป็นภาระมากกว่าแรงบันดาลใจ

ในขณะเดียวกันที่ประเทศอังกฤษ โคลิน ลี ผู้รักษาประตูผู้ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในระบบลีกของประเทศอังกฤษ ในวัย 79 ปี หลายคนเชื่อว่านี่เป็นการกระทำที่หวังชื่อเสียงและการโปรโมตจากสื่อ เพราะด้วยอายุเเล้วไม่น่าลงสนามจริงได้ อย่างไรก็ตามเรื่องราวของจุดมุ่งหมายในชีวิตคนเรานั้นแตกต่างกัน และเชื่อว่ามีไม่กี่คนหรอกที่ทำได้อย่าง “ปู่ลี” คนนี้ และนี่คือเรื่องราวกินใจจาก โคลิน ลี ซูเปอร์ซิกซ์ตี้ แห่งเกาะอังกฤษ

ความจริงมาก่อน ฝันไว้ทีหลัง
โคลิน ลี ในวัยหนุ่มไม่ได้เป็นนักฟุตบอลที่เก่งกาจอะไรเลยแม้แต่น้อย ในช่วงวัยรุ่นอันเป็นวัยแห่งความฝันเขาก็มีแค่ฝันจริงๆที่พอจะทำได้ คุณปู่ลี ชอบเข้าไปเชียร์ฟุตบอลและหวังที่จะได้เป็นผู้เล่นของ วูล์ฟแฮมป์ตัน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เกินตัวไปหน่อย เพราะฝีเท้าของเขาในตอนนั้นทำได้เพียงการเล่นให้กับทีมระดับสมัครเล่นที่ชื่อแสนยาวอย่างอย่าง  "แคนาเดียน แบลค ว็อตช์ เฟิร์ส บัตตาเลี่ยน" และยังมีทีมเล็กๆอีกหลายทีมในช่วงเริ่มเป็นนักฟุตบอลระดับรากหญ้า ซึ่งในยุค '40-'50 นั้น ขนาดนักฟุตบอลทีมใหญ่ๆยังมีรายได้ที่ไม่แตกต่างจากคนธรรมดามากนัก ดังนั้นนักฟุตบอลทีมเล็กๆอย่าง ปู่ลี เเทบไม่ต้องหวังเรื่องเงินเลยหากคิดจะเอาดีด้านฟุตบอลต่อไป


Photo : uk.sports.yahoo.com

แต่เพราะเติบโตมาจากครอบครัวชนชั้นแรงงาน และตัวของเขาเองก็รู้ดีว่าควรจะเลือกอะไรที่อยู่ใกล้ตัวและดีต่อครอบครัวจะดีกว่าอย่างเช่นการมุ่งมั่นกับการสอบเข้าไปเป็นทหารในกองทัพอากาศของอังกฤษ ดังนั้นฝันสำหรับการเป็นนักฟุตบอลก็จบไม่ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

เมื่อเข้าไปเป็น 1 ในสมาชิกของกองทัพเเล้ว โคลิน ลี ก็ทำหน้าที่ทางราชการทั่วไป หลายคนที่อยู่ในวงการนี้เป็นเหมือนกันหมด นั่นคือเมื่อเข้าแล้วออกยาก เพราะทางราชการจะมีสวัสดิการตอบแทนมากมาย แม้เงินเดือนจะน้อยไม่เท่านักฟุตบอล แต่สำหรับคนที่มีทักษะทางฟุตบอลที่ค่อนข้างอ่อนด้อย การเลือกอยู่ในเซฟโซนแบบนี้คือสิ่งที่ไม่เลวนัก คุณปู่ลี ทำงานเป็นทหารจนถึงวัยเกษียณ ทว่าหลังผ่านวันวานอันพากเพียร สู่วันเกษียณอันภาคภูมิแล้ว เจ้าตัวกลับรู้สึกว่าในวัยที่สังขารเริ่มจะถดถอย แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ไฟในตัวสมัยวัยรุ่นมันลุกโชนขึ้นอย่างประหลาด เพราะทั้งสองสิ่งคือสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ หากเขาอยากเป็นนักดนตรี เขายังหัดเรียนได้,หากเขาอยากจะไปเที่ยวรอบโลก เขาก็แค่มีเงินก็พอ แต่ถ้าเขาอยากจะเป็นนักฟุตบอล มันยากแบบคนละเรื่อง เพราะในวัย 50-60 ปี แทบไม่มีทางเลยที่จะเข้าปะทะกับคู่แข่งที่เด็กกว่าและเเข็งแรงกว่าได้ ดังนั้น ปู่ลี ต้องรู้จักพลิกแพลงให้เท่าทันสถานการณ์ปัจจุบัน


Photo : www.mirror.co.uk

เพราะความอยากตอบสนองตัวเองทำให้ ปู่ลี ที่เคยเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟมาก่อน ต้องมองว่าถ้าเขาอยากจะเป็นนักฟุตบอล เขาต้องเล่นในตำแหน่งที่เหนื่อยน้อยที่สุด และมันจะมีอะไรดีกว่าการได้เป็นผู้รักษาประตู ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาเคยเล่นมาบ้างก่อนที่จะออกไปเป็นทหารอากาศเหมือนที่ได้กล่าวไว้ การเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูดูเหมือนจะเป็นอะไรที่สบายๆ แต่ก็มีอิทธิพลต่อทีมสูงมาก นี่คือตำแหน่งที่ตอบโจทย์ และ ปู่ลี จึงเริ่มฝึกการเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูแบบเอาจริงเอาจังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คนแก่ที่ยังมีไฟ
หลังจากได้ลองมาเล่นเป็นผู้รักษาประตูแล้ว ปู่ลี แทบถอนคำพูดไม่ทัน เพราะแม้จะเป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องวิ่งขึ้นวิ่งลง แต่ปัญหาก็คือสังขารของเขายังส่งผลให้มันเป็นเรื่องยากขึ้นนิดหน่อย เพราะปู่ลี นั้นเป็นทั้งโรคไขข้ออักเสบ และข้อเข่าเสื่อม เรียกได้ว่าให้กระโดดเซฟทีนึงก็ร้องโอยทีนึงอะไรประมาณนั้น


Photo : www.dailymail.co.uk

น่าแปลกที่ความโอดโอยเหล่านี้กลับเป็นความสุขอีกด้านของ ปู่ลี เขาเองก็รู้สึกตกใจเหมือนกันที่เมื่อได้ลงเฝ้าเสาเมื่อไหร่ ตัวเองกลับรู้สึกว่ามันสนุกจนหยุดไม่ได้ รู้ตัวอีกทีปู่ลีก็คลั่งไคล้การเป็นผู้รักษาประตูไปเสียเเล้ว

"ผมต้องบอกคุณเลยว่าผมคลั่งไคล้การเป็นผู้รักษาประตูมากๆ ผมชอบที่จะมีสมาธิกับการยิงประตูของคู่แข่ง ผมรู้สึกสนุกหลุดโลกไปเลยตอนที่วิ่งเต้นไปรอบๆเส้นเขตโทษแบบนี้ ทั้งๆที่ผมเป็นโรคข้อมืออักเสบและกระดูข้อเข่าเสื่อมนะ แต่ผมว่าเมื่อผมยิ่งเล่นกลายเป็นว่าผมเเข็งแรงขึ้น แน่นอนผมรักมันเลยล่ะ"

"ผมเนี่ย กว่าจะเล่นจบแต่ละเกมตัวผมนี่ฟกช้ำดำเขียวไปหมด แต่แปลกไหมล่ะ? มันมีแค่นั้นจริงๆ ผมไม่เคยได้รับบาดเจ็บหนักๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่เล่นฟุตบอลมากกว่า 70 ปี" ปู่ลี เล่าถึงการล่าฝันสมัยวัยรุ่นในวัยเกษียณ


Photo : metro.co.uk

และหากจะถามว่ามีสโมสรไหนกล้าจ้างคนอายุ 70-80 ไปเป็นผู้เล่นของทีมแบบที่ ปู่ลี เป็น? แน่นอนว่ามันไม่มีหรอกทีมประเภทที่จะยอมจ่ายเงินเปล่าให้ผู้เล่นที่หากลงครบ 90 นาทีเเล้วตัองนอนพักไปเป็นสัปดาห์แบบนี้ และปู่ลีแกก็รู้เรื่องดีอยู่เเล้ว เพราะการแก่พรรษาอายุเยอะไม่ได้เกิดขึ้นจากการปล่อยคืนวันไปเปล่า ดังนั้นเงินเก็บตลอดอายุราชการที่เก็บหอมรอมริบมาของปู่จึงถูกเอาออกมาใช้เพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ

โดยปกติเเล้วคนเฒ่าคนเเก่หากมีเงินก็เตรียมเก็บไว้เพื่อคอยรักษาดูแลตัวเองในอนาคตหากเจ็บไข้ได้ป่วย แต่สำหรับปู่ลีเขาจะเอามันมาใช้เพื่อทำให้ตัวเองได้ลงเล่นฟุตบอล และขั้นตอนที่ง่ายที่สุดคือการเป็นเจ้าของทีมเองไปเสียเลย จบเรื่องจบราว ง่ายที่สุดในเเล้วสำหรับเขาในเวลานี้

ทีมแห่งอุดมการณ์
ที่ประเทศอังกฤษที่ประชากรทุกคนแทบจะหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอล มีลีกฟุตบอลมากมายในประเทศแห่งนี้เพื่อรองรับความต้องการของคอบอลและนักเตะหลากหลายระดับ และสำหรับผู้เล่นแบบปู่ลี นั่นคือ มีใจรักแต่ฝีเท้าไม่ดีหรือไม่มีโอกาสได้เข้าสู่ระบบอาชีพหรือกึ่งอาชีพ สมาคมฟุตบอลอังกฤษก็ได้สร้างลีกที่ชื่อว่า "ซันเดย์ลีก" ขึ้นมารองรับเหล่านักล่าฝันระดับรากหญ้าเหล่านี้


Photo :  www.mirror.co.uk

ความหมายของลีกนี้ก็เป็นไปตามชื่อเป๊ะ มันคือลีกที่ต้องมาเเข่งขันกันในวันอาทิตย์ เพราะทุกวันเสาร์กิจวัตรของชาวอังกฤษจะต้องออกไปดูทีมรักลงแข่งขัน โดย ซันเดย์ลีก นี้จะเต็มไปด้วยมือสมัครเล่นที่ฝีเท้าต่ำกว่ามาตรฐาน และที่สำคัญพวกเขามีเวลาฝึกฝนฝีมือน้อยเพราะโดยส่วนมากแล้วผู้เล่นในลีกนี้มักจะมีอาชีพอื่นๆเป็นอาชีพประจำอยู่เเล้ว

"ความไม่พร้อมคือความพร้อม" ทุกอย่างที่กระท่อนกระแท่น เรื่องราวของผู้เล่นที่เมาและมาแข่งไม่ทันจนถูกปรับแพ้บาย คนอ้วนน้ำหนัก 150 กิโลกรัมลงเล่นเป็นกองหน้า,ผู้อพยพจากเเดนไกลที่มีความเร็วปานจรวด,ลูกยิงแปลกๆ,การเล่นผิดพลาดแบบไม่น่าเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในซันเดย์ ลีก และกลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ผู้คนไม่น้อยชื่นชอบที่จะมาดูเกมของเหล่ามือสมัครเล่น เพราะจะได้รสชาติที่แปลกใหม่และแตกต่างกว่าระดับอาชีพที่พวกเขาเคยเห็น และหนึ่งในทีมที่เข้าร่วมในการแข่งขัน ซันเดย์ ลีก นี้ก็คือทีม ธอร์ปเเลนด์ส คลับ 81 ที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1974 ทีมที่ ปู่ลี ใช้เงินเก็บทั้งหมดลงขันกับเหล่าเพื่อนๆทหารอากาศที่ปลดประจำการสร้างทีมนี้ขึ้นมา


Photo : uk.sports.yahoo.com

แน่นอนทีมของปู่ไม่ได้เก่งกาจอะไรเหมือนเช่นตอนที่เขายังเป็นหนุ่ม การสร้างทีมนี้มีจุดมุ่งหมายให้ผู้คนในชุมชนได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าเขาเป็นเจ้าของทีมและจะต้องลงสนามทุกนัดอย่างที่ใครเข้าใจ แต่การเป็นเจ้าของทีมทำให้ปู่ลีในวัยไม้ไกล้ฝั่งได้ลงเล่นฟุตบอลในการแข่งอย่างเป็นทางการร่วมกับลูกชายวัย 50 ปี และหลานชายวัย 21 ปีของเขา นอกจากนี้ยังได้ขับเคลื่อนชุมชนด้วยทีมฟุตบอลของเขาเอง เด็กๆจะถูกดึงออกมาจากโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นเด็กแก๊ง ขณะที่เหล่าผู้คนในเมืองก็จะมีกิจกรรมประจำในวันอาทิตย์ด้วยการมาเชียร์ลูกหลาน หรือใครก็ตามที่เป็นผู้เล่นของ ธอร์ปแลนด์ส คลับ 81 แห่งนี้


Photo : www.mirror.co.uk

ด้านปู่ลีเองยืนยันว่าตัวของเขานั้นเคยลงเล่นเต็ม 90 นาที มาแล้วแบบสบายๆชิว ดังนั้นเรื่องของการประกาศแขวนถุงมือนั้นคือสิ่งที่ไมได้อยู่ในหัวสมองของเขาเลยแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่จะหยุดเขาได้คือร่างกายของเขาเอง เมื่อไหร่ที่มันไม่ไหวจริงๆ เมื่อนั้นตำนานเฒ่าทรนงแห่งนอร์ธแฮมป์ตันก็คงถึงวันปิดฉาก

"ในเดือนมิถุนายนนี้ ผมจะอายุ 80 ปีแแล้ว แต่ผมก็ไม่มีแผนที่จะหยุดเล่นหรอกนะ ผมจะเล่นนานเท่านานจนกระทั่งร่างกายไม่อนุญาต ส่วนจะได้ลงสนามหรือไม่ผมบอกได้เลยว่าไม่ต้องห่วง เพราะทุกวันนี้ผมยังเป็นคนจัดทีมเองอยู่" ปู่ลี หัวเราะอย่างอารมณ์ดี


Photo : www.sportbible.com

บางครั้งการที่ไม่ได้เป็นคนเก่งหรือเป็นยอดฝีมือก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้ชีวิตอย่างที่คิด ปู่ลี แค่ใช้ชีวิตในแบบที่เราเป็นเราเท่านั้นเองที่ทำให้เขายังมีความสุขและเเข็งแรงดีในขณะที่คนแก่รุ่นเดียวกันบางคนแม้แต่จะเดินก็ยังลำบาก ชีวิตของปู่ลีคือชีวิตวัยชราที่น่าอิจฉา เขามีคนรักทั้งเมือง เขาไม่ได้มองแค่ความสุขของตัวเองเท่านั้น แต่สิ่งที่ปู่ลีทำยังทำให้ชุมชนเข้มแข็งและทุกคนที่อยู่ในชุมชนแห่งนี้ก็มีความสุขไม่ต่างจากที่เขามี

ทุกวันนี้ปู่ลีลงเล่นน้อยลง หรือเกมละราวๆ 20 นาทีเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าร่างกายไม่ไหว แต่มันเป็นเพราะตอนนี้คุณปู่ต้องทำงานด้านบริหารมากขึ้น เขาเป็นเลขานุการของสำนักงานท้องถิ่นที่ต้องทำหน้าที่ดูและทีมระดับโรงเรียนและเยาวชนอีก 8 ทีม ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ความสุขเล็กๆของตัวเองนี้ในที่สุด ปู่ลี ก็ได้รับการยกย่องในวงกว้างจนได้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปู่ลี เพิ่งคว้ารางวัล "Barclays Community Sports Award" หรือรางวัลที่จะมอบให้สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับฟุตบอลชุมชน เขาได้ออกทีวีไปทั่ว ลงหน้าหนึ่งของสื่อใหญ่ของ เดอะ ซันส์,เดอะ มิร์เร่อร์,เดลี่ เมล์ และสื่ออื่นๆอีกมากมาย ที่สุดเเล้วบทบาทการอุทิศตนเพื่อสังคมก็ทำให้อย่างน้อยๆ ปู่ลี ได้ขึ้นพาดหัวข่าวใหญ่เหมือนกับนักฟุตบอลดังๆอันเป็นฝันของเขาตั้งแต่วัยหนุ่ม แม้มันจะแตกต่างแต่มันก็ภูมิใจไม่ต่างกัน


Photo : www.thesun.co.uk

"ผมดีใจมากที่ได้รับรางวัลฮีโร่นะ ทุกๆปีคนมาร่วมทีมเรามากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผมว่าสมาชิกของเราน่าจะถีงหลักพันคนเเล้วนะ ซึ่งมันก็ทำให้เราก็มีทีมมากขึ้นเช่นกัน" ปู่ลี กล่าวหลังรับรางวัล

ธอร์ปแลนด์ส คลับ 81 ไม่ใช่ทีมเต็งเลื่อนชั้น และมีโอกาสที่จะอยู่ในซันเดย์ลีกไปอีกหลายปี อย่างไรก็ตามในลีกที่เป็นแหล่งสิงสถิตย์ของเหล่าแข้งฝีเท้าห่วยเหล่านี้ เคยเป็นสนามที่นักเตะระดับทีมชาติอังกฤษอย่าง จอห์น เทอร์รี่ และ เจอร์เมน เดโฟ เคยผ่านมาก่อน ดังนั้นไม่มีการการันตีใดๆทั้งสิ้นว่าคนที่ห่วยจะต้องห่วยอยู่วันยังค่ำ ไม่แน่ทีมเล็กๆของปู่ลีคนนี้อาจจะสร้างนักเตะเก่งๆสักคนมาประดับทีมชาติอังกฤษก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook