"เอริสเคย์ เอฟซี" : สโมสรจากเกาะจิ๋วที่มีสนามสุดพิเศษราวหลุดมาจากเทพนิยาย

"เอริสเคย์ เอฟซี" : สโมสรจากเกาะจิ๋วที่มีสนามสุดพิเศษราวหลุดมาจากเทพนิยาย

"เอริสเคย์ เอฟซี" : สโมสรจากเกาะจิ๋วที่มีสนามสุดพิเศษราวหลุดมาจากเทพนิยาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไกลออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของสก็อตแลนด์ มีเกาะขนาดเล็กมีพื้นที่แค่เพียง 8 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าเกาะสีชังถึง 2 เท่า และมีผู้คนใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นไม่ถึง 150 คน แต่ครั้งหนึ่งเกาะแห่งนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากฟุตบอล

ปี 2015 สนามฟุตบอลของสโมสรที่นั่น ได้รับเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้เป็นหนึ่งใน 8 สนามที่เป็นเอกลักษณ์ของโลก จากสภาพแวดล้อมและทัศนียภาพที่ไม่เหมือนใคร

 

เอริสเคย์ ฟุตบอลคลับ คือชื่อของพวกเขา และนี่คือเรื่องราวของสโมสรแห่งนี้

ฉากหนึ่งของนิยาย

ณ ดินแดนอันห่างไกลบนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติสของสก็อตแลนด์ ลึกออกไปทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือระหว่างเกาะ ยูอิสต์ใต้ และบาร์รา มีเกาะที่ชื่อว่า เอริสเคย์ตั้งอยู่

 1

เจ้าชาย บอนนีย์ ชาลีย์ คือคนแรกที่ค้นพบเกาะนี้เมื่อปี 1745 ก่อนที่มันจะมีชื่อเสียง หลังกลายเป็นสุสานของเรือเอสเอส โปลิติเชียน ที่บรรทุกวิสกีกว่า 250,000 ขวด และอัปปางลงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1941

การอัปปางของเรือได้กลางเป็นแรงบันดาลใจในหนังสือ Whisky Galore ที่แต่งโดย คอมตัน แมคเคนซี ในปี 1947 ก่อนที่มันจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันในปี 1949 และถูกนำมาสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2016

Whisky Galore เป็นเรื่องราวของเกาะแห่งหนึ่งในสก็อตแลนด์ที่กำลังจะขาดแคลนวิสกี อันเนื่องมาจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่แล้ววันหนึ่งได้มีเรือบรรทุกวิสกี้มาอัปปางใกล้กับเกาะ ทำให้ชาวเมืองไปช่วยกู้วิสกีออกมาก่อนเรือจะจมลง

ทว่าหลังจากนั้นนายทหารผู้เถรตรงของเกาะก็ไล่จับกุมชาวเมืองที่นำวิสกี้มา แต่ชาวเมืองไม่ยอมเพราะไม่อยากใช้ชีวิตที่เหี่ยวแห้งโดยไร้วิสกีอีกแล้ว จึงเกิดการไล่จับไล่ซ่อนระหว่างเจ้าหน้าที่และคนบนเกาะ ซึ่งแน่นอนว่าเกาะแห่งนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกาะเอริสเคย์เช่นกัน

 2

การอัปปางของเรือยังทำให้เกาะเอริสเคย์ ยังเป็นที่รู้จักจากม้าสายพันธุ์โบราณที่หายาก และเพาะพันธุ์ไม่ได้ง่ายๆ มันคือม้าที่เคยถูกใช้ในการขนส่งวิสกี้ที่กู้มาจากเรือ เอสเอส โปลิติเชียน และปัจจุบันถูกปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่บนเกาะ

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเกาะแห่งนี้มีสโมสรฟุตบอล ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกพูดถึงจากฟีฟ่า

สนามสุดขรุขระ

ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยโขดหิน ทำให้เกาะเอริสเคย์ มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก พื้นที่ส่วนหนึ่งของเกาะเป็นที่ตั้งของบ้านเรือน ผับ ร้านค้า ศาลาประชาคม แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับสนามฟุตบอลของ เอริสเคย์ เอฟซี สโมสรประจำเกาะ

 3

มันเป็นสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน แต่ไม่ได้ราบเรียบมากนัก และเป็นหลุมเป็นบ่อ อีกทั้งยังมีเนินเล็กน้อยตรงมุมธงและกลางสนาม แถมริมสนามยังเต็มไปด้วยก้อนหินมากมาย

“มันเป็นเรื่องยากที่จะเล่นฟุตบอลที่เอริสเคย์เพราะว่าสภาพแวดล้อมมันไม่ได้ดีเลิศ สนามแตกต่างจากสนามส่วนใหญ่ที่คนเคยเล่น” ฌอน แม็คคินนอน ผู้เล่น-ผู้จัดการทีมของ เอริสเคย์ เอฟซีกล่าวกับ BBC  

“มันไม่ได้เรียบมาก มีเนินอยู่ตรงมุมธง และตรงกลางสนามก็สูงกว่าส่วนท้ายเล็กน้อย อีกฝั่งก็ชันกว่าอีกด้านอย่างเห็นได้ชัด”  

“เราอาจจะทำให้บาร์เซโลนาฝีเท้าดร็อปลงมาอยู่ระดับเดียวกับเราด้วยสนามนี้”

 4

 5

มาร์ติน แม็คเอาเลย์ อดีตผู้จัดการทีมของเอริสเคย์บอกว่า ครั้งหนึ่งมันเคยมีมุมธงถึง 5 มุมแทนที่จะเป็นสี่มุม เนื่องจากความไม่เรียบของสนาม แต่เขาก็มองว่ามันเป็นสถานที่ที่ดี

“ใช่ที่นี่มันเป็นหลุมเป็นบ่อหมดเลย ครั้งหนึ่ง เรามี 5 มุมธง ตอนนี้เราลดเหลือ 4 มุมธงแล้ว” อดีตกุนซือของเอริสเคย์กล่าวกับ BBC

 6

“มันเป็นเอกลักษณ์ด้วยวิวของเอริสเคย์ และมันก็เป็นสถานที่ที่ดี”  แม็คเอาเลย์กล่าว

แม้ว่าสภาพแวดล้อมจะไม่ได้สมบูรณ์แบบสำหรับการเล่นฟุตบอล แต่นั่นก็ทำให้สโมสรแห่งนี้ต่างออกไป

ความหลงใหลในเกมลูกหนัง

“คุณต้องเล่นฟุตบอลได้ทุกที่ ถ้าคุณไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้ในสนามที่เป็นหลุมเป็นบ่อแบบนี้ คุณก็ไม่ควรเล่นฟุตบอล” แม็คเอาเลย์กล่าว

 7

นั่นทำให้สภาพแวดล้อมไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับ นักเตะเอริสเคย์ พวกเขาสามารถเล่นฟุตบอลได้อย่างสนุกสนาน แม้ว่าทีมจะไม่ได้พร้อมเหมือนกับสโมสรอื่นก็ตาม

“หากเทียบในแง่จำนวน เราเป็นทีมที่เล็กที่สุดของลีก และเราก็มีตัวผู้เล่นน้อยที่สุด นักเตะส่วนใหญ่ของเรามาจากบนเกาะนี้” ฌอนอธิบาย

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังช่วยกันดูแลสนามเป็นอย่างดี ทั้งคอยตัดหญ้า ตีเส้น หรือเก็บมูลสัตว์ ที่เข้ามาใช้พื้นที่สนามในช่วงฤดูหนาว รวมไปถึงช่วยกันถมโพรงกระต่ายบริเวณเสาประตู

“สัตว์มาที่นี่ในตลอดช่วงฤดูหนาว เราต้องขีดเส้นในสนาม และถมโพรงกระต่ายด้วย” ฌอนกล่าวขณะโกยมูลแกะและม้าออกจากสนาม

ด้วยสภาพแวดล้อมอันน่าทึ่งและความหลงใหลในเกมลูกหนังของพวกเขา บวกกับทัศนียภาพอันงดงาม ที่มีฉากหลังเป็นมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้สนามแห่งนี้ได้รับเลือกจากฟีฟ่าเป็นหนึ่งใน 8 สนามที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดของโลก ที่เหมาะสำหรับเล่นฟุตบอลเมื่อปี 2015 พร้อมทำให้ชื่อของ เอริสเคย์ โด่งดังไปทั่วโลก

 8

“ฟีฟ่าให้การรับรองว่าสนามของเราเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พิเศษที่สุดของโลก ที่เหมาะแก่การเล่นฟุตบอล มันค่อนข้างพิลึกพิลั่น” แม็คคินนอนกล่าว

ฟีฟ่าให้เหตุผลว่าความคลั่งไคล้ในเกมฟุตบอลของชาวเอริสเคย์เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สนามฟุตบอลสุดขรุขระที่บางครั้งอาจจะมีฉากหลังเป็นม้าวิ่งผ่านได้รับเลือกเข้ามา  

“พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลของฟีฟ่า จะแสดงให้เห็นความหลงใหลในเกมฟุตบอลทั่วโลก ดังนั้นพิพิธภัณฑ์จึงได้ถ่ายทำฉากของฟุตบอลในทุกทวีป ทุกสภาพอากาศ และทุกภูมิประเทศ” โฆษกของฟีฟ่ากล่าว

 9

“สก็อตแลนด์ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกเลือกโดยพิพิธภัณฑ์”

ในขณะที่ มอแร็ก แมคคินนอน เจ้าของร้านอาหาร Am Politician บนเกาะก็รู้สึกยินดีที่ฟีฟ่าเลือกสนามในบ้านเกิดของพวกเขา เพราะเขาต่างเห็นความทุ่มเทของนักเตะและชุมชนที่มอบให้สนามแห่งนี้

“สนามฟุตบอลแห่งนี้พิเศษมากเพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทีมฟุตบอลของพวกเขาในทุกแง่มุม ตั้งแต่การตัดหญ้าไปจนถึงการตีเส้น” มอแร็กกล่าว

“มันเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อ และหลายปีที่พวกเขาทำให้อย่างน้อยมันกลายเป็นสนามฟุตบอลที่ใช้งานได้”

ฟุตบอลคือหัวใจของเกาะ

อันที่จริง เอริสเคย์ เป็นสโมสรที่มีประวัติยาวนาน พวกเขาก่อตั้งทีมในปี 1950s และเคยคว้าแชมป์ลีกในช่วงทศวรรษที่ 1960s ปัจจุบันพวกเขาเล่นอยู่ในยูอิสต์และบาร์ราลีก ซึ่งเป็นลีกระดับสมัครเล่นของสก็อตแลนด์

 10

“เอริสเคย์ เอฟซี ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950s เราเคยประสบความสำเร็จในอดีต ส่วนใหญ่ในยุค 60 ที่เราคว้าแชมป์ลีก ผมคิดว่าน่าจะหลายครั้งด้วย” แม็คคินนอนอธิบาย

“พวกเขามักจะรำลึกความหลังให้เราฟังบ่อยๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนแก่ๆที่อยู่รอบๆสนาม”  

อย่างไรก็ดี แม้จะก่อตั้งมานานหลายปี แต่พวกเขายังทีมที่ขาดแคลนระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งไฟส่องสนาม อัฒจันทร์ รวมไปถึงห้องแต่งตัวและห้องอาบน้ำ ทำให้นักเตะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างสนาม

“ในกลาสโกว์ คุณสามารถจ่ายเงิน 20 ปอนด์ที่จะได้ไฟส่องสนาม สนามดีๆและห้องแต่งตัว ที่นี่คุณอาจจะต้องอยู่ในรถตู้ในวันที่ฝนปรอย เพื่อเปลี่ยนกางเกง” แม็คเอาเลย์กล่าว

 11

แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็ยังคงเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอยู่บนเกาะแห่งนี้ พวกเขามีนักเตะตั้งแต่วัยเยาว์ไปจนถึงรุ่นใหญ่ สโมสรแห่งนี้จึงเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตของคนที่นี่อย่างแท้จริง

“ฟุตบอลคือโลกของเกาะนี้ เรามีชุมชนที่ดี และคนในชุมชนก็มาสนับสนุนเรา ไม่ใช่แค่มาชมเกม แต่ยังรวมไปถึงช่วยสนับสนุนทางการเงินให้แก่สโมสร”

 12

ปัจจุบัน เอริสเคย์ ยังคงโลดแล่นอยู่ในลีกสมัครเล่น โดยมีฌอนเป็นหัวเรือใหญ่ พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงทีมที่มีสนามที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อฟุตบอลอย่างแท้จริง

“พวกเขาไม่มีห้องแต่งตัว ไม่มีไฟ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีที่ทำให้สะดวกขึ้น  แต่ทุกอย่างสำเร็จได้เพราะความรักต่อฟุตบอล มันคือสถานที่ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด” มอแร็กทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "เอริสเคย์ เอฟซี" : สโมสรจากเกาะจิ๋วที่มีสนามสุดพิเศษราวหลุดมาจากเทพนิยาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook