ผี-สิงโตเฮ! ฉลุย 8 ทีม เอฟเอ คัพ

ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด สลับตัวสำรองลงสนามยังแกร่ง บุกถล่ม ฟูแล่ม ขาดลอย 4-0 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 7 มี.ค. คาร์ลอส เตเบซ เหมาคนเดียว 2 ลูก บ่อนผู้ดีลดราคาจ่ายคว้า 5 แชมป์ลงอีก พร้อมยกเป็นเต็งหามในถ้วยนี้ ขณะที่สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ขนชุดใหญ่บุกไปชนะช้างกระทืบโรง โคเวนทรี 2-0

ศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายคืนวันเสาร์ที่ 7 มีนาคม ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน ฟูแล่ม ทีมจากพรีเมียร์ชิพด้วยกัน ซึ่งเฟอร์กี้ เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน พักผู้เล่นตัวหลักอย่าง ดิมิทาร์ แบร์บาตอฟ และ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่ยังมี เวย์น รูนีย์ เป็นหัวหอกตัวจริงคู่กับ คาร์ลอส เตเบซ

เกมผ่านไปแค่ 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบจะได้ประตูออกนำเมื่อกองหลังฟูแล่มสกัดบอลจาก รูนีย์ ไปเข้าทางให้ เตเบซ ยิงเหน่งๆ แต่ มาร์ค ชวาร์เซอร์ ยังพุ่งปัดเอาไว้หวุดหวิด ก่อนที่เจ้าถิ่นจะมีลุ้นบ้างในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่ ไซมอน เดวีส์ วางบอลยาว แอนดี จอห์นสัน แตะบอลผ่าน เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ กำลังจะเข้าประตูแต่มี เนมันยา วิดิช มาเตะสกัดออกจากปากประตูได้ทัน

อย่างไรก็ตาม อีก 6 นาทีต่อมาทีมเยือนก็ออกนำจนได้จากลูกเตะมุมทางขวา ไมเคิล คาร์ริก เปิดให้ รูนีย์ โหม่งเช็ดไปเสาสอง เตเบซ โขกเผาขนเข้าไปเป็น 1-0 และนาทีที่ 35 สกอร์ก็ขยับเป็น 2-0 จากความยอดเยี่ยมของ เตเบซ ที่กระชากบอลจากกลางสนามก่อนตัดเข้ามายิงที่หน้าเขตโทษบอลพุ่งเข้าสู่กัน ตาข่ายอย่างสวยงาม จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 2-0

ครึ่งหลังกลับมา เล่นได้แค่ 5 นาที ฟูแล่ม หมดลุ้นในเกมนี้ไปโดยปริยายเมื่อกองหลังสกัดบอลกันไม่ขาด อันแดร์สัน แตะให้ รูนีย์ หาช่องยิงปั่นเข้าเสาไกลเป็น 3-0 ก่อนจะมาได้ประตูปิดท้ายอีกประตูด้วยการลุยไปยิงในเขตโทษของ ปาร์ค จีซุง จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงชนะท่วมท้น 4-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไป

สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ออกไปเยือนช้างกระทืบโรง โคเวนทรี ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ โดยเกมนี้ทีมเยือนยังคงใช้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นหัวหอก เนื่องจาก นิโกลาส์ อเนลก้า ยังมีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ยังเป็นชุดใหญ่ทั้งชุด ส่วนเจ้าถิ่นจัดทีมแบบไม่กลัวศักดิ์ศรีส่ง 3 กองหน้าอย่าง คลินตัน มอร์ริสัน, ลีออน เบสต์ และเฟรดดี้ อีสต์วู้ด ลงสนามมาพร้อมๆ กัน

เริ่มเกมขึ้นมาเป็น เชลซี ที่ครองเกมได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด และถึงนาทีที่ 15 ก็ได้ประตูออกนำไปก่อนจากความผิดพลาดของกองหลังเจ้าถิ่นเองที่สกัดบอลโด่ง ไม่ขาดถูก ดิดิเยร์ ดร็อกบา ฉกบอลไปลากหลบ คีแรน เวสต์วู้ด ก่อนจะยิงเข้าไปเป็น 1-0 จากนั้นทีมเยือนก็ยังบุกได้อย่างต่อเนื่องแต่ยิงเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกนำอยู่เพียงประตูเดียว ก่อนที่ครึ่งหลัง โคเวนทรี พยายามสู้แต่ก็โดนจังหวะโต้กลับของเชลซี เสียประตูไปอีกในนาทีที่ 73 จากการยิงของ อเลกซ์ จบเกม เชลซี จึงชนะไป 2-0 เข้ารอบรองชนะเลิศไปอีกทีม และกุส ฮิดดิงค์ ทำสถิติคุมทีมชนะ 5 นัดรวด

ฮิดดิงค์ ได้ออกมาชม ดิดิเยร์ ดร็อกบา ผู้ทำประตูให้ทีมออกนำในเกมนี้ว่าเป็นอีกนัดที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งๆ ที่เรื่องของสภาพร่างกายยังไม่พร้อมเต็มที่ แต่ก็ต้องยอมรับในความพยายามของกองหน้ารายนี้ ส่วนการเล่นกับ โคเวนทรี นัดนี้ ถือว่าไม่ง่ายจากการที่คอยวางบอลยาวให้กองหน้าอยู่ตลอด แต่เกมรับของทีมยังทำหน้าที่ได้ดี และเมื่อได้ประตูที่ 2 ก็ทำให้เกมนี้จบทันที ขณะที่ คริส โคลแมน ผู้จัดการทีมโคเวนทรีมองว่าผู้ตัดสิน สตีฟ เบนเนตต์ ค่อนข้างลำเอียงให้กับ เชลซี ในหลายจังหวะ ซึ่งถือว่าไม่ยุติธรรมกับทีมของเขาเท่าไร

หลังจบการแข่งขันเมื่อวันเสาร์ทางแลดโบร๊กส์ ร้านรับพนันอย่างถูกกฎหมายของอังกฤษต้องปรับอัตราจ่ายการเป็นแชมป์เอฟเอ คัพ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงไปอีก โดยก่อนหน้าการเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย ปีศาจแดงเป็น เต็ง 1 ที่ราคา 13-8 หรือแทง 8 ได้ 13 ไม่รวมทุน แต่หลังจากโชว์ฟอร์มถล่ม ฟูแล่ม แล้ว แลดโบร๊กส์ ปรับลงมาเหลือเพียงแค่ 5-4 ขณะที่เต็ง 2 ยังเป็นเต็ง 2 ที่ราคา 2-1 ตามมาด้วย อาร์เซนอล 5-1, เอฟเวอร์ตัน 7-1 นอกจากนี้ร้านเบทแฟร์ยังได้ปรับลดราคาการคว้า 5 แชมป์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จากเดิม 15-2 มาเป็น 13-2 อีกด้วย

ขณะที่เกมพรีเมียร์ชิพที่สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ เปิดบ้านพบ ไก่เดือยทอง สเปอร์ส ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นที่ออกนำก่อน 1-0 นาทีที่ 3 เมื่อ คีแรน ริชาร์ดสัน แตะบอลทะลุแผงหลังเข้าไปยิงเดี่ยวๆ เป็น 1-0 และเกมทำท่าว่าจะเป็นชัยชนะของเจ้าถิ่น แต่แล้วในนาทีสุดท้ายของเกม สเปอร์ส มาตีเสมอได้โดย ดาร์เรน เบนท์ ผ่านบอลจากทางขวาเข้าเขตโทษให้ ร็อบบี้ คีน ซัดตูมเดียวจึงเสมอกันไป 1-1 ทำให้ทั้งคู่มี 32 แต้มเท่ากัน แต่ สเปอร์ส อันดับดีกว่าในอันดับที่ 12 จากประตูได้เสีย