1 คะแนนน้อยนิดมหาศาล

1 คะแนนน้อยนิดมหาศาล

1 คะแนนน้อยนิดมหาศาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ถึงตรงนี้ แทบไม่อยากจะเชื่อว่า 2 นัด แมนฯ ยูฯ เก็บได้เพียงแค่ 1 แต้ม!

ขยี้ตา ตบหน้า แหกตูด ซ้ำมา ซ้ำไป ก็ได้แต่ความเจ็บแสบเสียวซ่านทั่วทวารทั้ง 9 เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วเรื่องดังกล่าวที่เล่ามา มันคือความจริงมิได้อิงนิยายแต่อย่างใด

ก่อนเปิดฉากฤดูกาลใหม่อย่างเป็นทางการ แสงส่องทางสว่างไสว มองเห็นรำไรอยู่ที่ปลายอุโมงค์ คือมโนในความหวังของเหล่าสาวก "เร้ด เดวิลส์" หลังได้บุรุษมากความสำเร็จอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามานั่นแท่นกุนซือ

อย่างน้อยก็พอจะมีความหวังมากกว่าชายผู้ถูกเลือก (Chosen One) เป็นไหนๆ หรือไม่จริง

มันก็จริงล่ะครับที่ "ฟาน กัล ยูไนเต็ด" ฟอร์มเยี่ยงเทพช่วงปรีซีซั่น ปราบมานักต่อนักแล้ว ทั้ง โรม่า, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด หรือแม้กระทั่งเพื่อนรักหักสวาทอย่าง ลิเวอร์พูล จึงอดไม่ได้ที่แฟนบอลจะตั้งความหวังไว้สูง

เท่านั้นแหล่ะ หวังสูงมากก็เจ็บมากหากไม่ตรงตามคาด ดังเช่น 2 เกมลีกที่ผ่านพ้นไป ตกม้าตายด้วยน้ำมือทีมอย่าง สวอนซี ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์ ได้รางวัลปลอบใจกับ 1 คะแนนอันหนักหนาแสนจะสาหัส

ทั้งๆ ที่กลไกทางอิเล็กทรอนิกส์อุตส่าห์แรนดอมโปรแกรมชนิดผีจับยัด ถูกคอถูกใจเสียด้วยซ้ำ แต่ผลงานที่ออกมากลับผิดคาด เล่นกันผิดพลาด และน่าผิดหวัง

เปิดหัวด้วยการแพ้ทีม "หงส์ขาว" สวอนซี แบบขายขี้หน้าคิดว่าคงจะกลับมาแก้ตัวได้ในวันรุ่ง แต่เหมือนจะยังไม่ฟื้นตื่นจากภวังค์ หลังทำได้เพียงแค่บุกเสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 ชนิดที่แทบจะลากเลือดกับ 1 แต้มที่ได้มา

ด้วยระบบ 3-4-1-2 ที่ "เฮียหลุยส์" พยายามนำเสนอมาวางรากฐานให้ "ปีศาจแดง" ได้ลิ้มรสกับความแปลกใหม่และแยบยลชนิดที่ไม่เคยได้เห็นในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

แต่เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมภายในทีมไม่เอื้อ ด้วยจำนวนประชากรแข้งหลักภายในทีมบาดเจ็บเป็นหางว่าว 3 ประสานหลักหลังบ้าน เลยเป็นหน้าที่ของนักเตะอายุเพียง 20 ต้นๆ ทั้ง คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์ และ ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์

ยิ่งแล้ว นักเตะที่อาวุโสสูงสุดในแดนหลังอย่าง สมอลลิ่ง วัย 24 ปี มีอาการเดี้ยงจนถูกถอด หน้าตาและอายุอานามออกมาเท่ากับ 19, 20 และ 21 (แบล็คเก็ตต์, ไมค์ คีน และ ฟิล โจนส์) ส่วนนักเตะใหม่อย่าง มาร์กอส โรโฮ ยังมีปัญหาเรื่องเอกสาร เลยยังไม่พร้อมประเดิมสนามให้ทีม

แดนกลางน่าจะเป็นปัญหาใหญ่ระดับวาระแห่งชาติที่ ฟาน กัล จำเป็นต้องแก้อย่างเร่งด่วนยามไร้ ไมเคิ่ล คาร์ริค กางโผออกมาเป็น ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ที่พัฒนาการลงฮวบฮาบจับคู่กับ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อ้อนแอ้นเกินจะต้านทางความหนักของแข้ง "แมวดำ" ได้ไหว

นักเตะใหม่อย่าง อันเดร์ เอร์เรร่า กลับมาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไปอีกคน ขุมกำลังร่อยหลอ ในประเภทจอมสร้างสรรค์ แม้ได้ ฟาน เพอร์ซี่ กลับมาลงสนามก็หาใช่คำตอบไม่ ในเมื่อบอลไปไม่ถึงแดนหน้า เช่นเดียวกันที่ ฆวน มาต้า และ เวย์น รูนี่ย์ ต้องลงมาล้วงบอลถึงกลางสนาม

การปรับหมากแก้เกมของ ฟาน กัล ใน 2 โควต้าสุดท้ายเหมือนจะดูดี ส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงสนามตามเสียงเรียกร้องของแฟนบอล ลงมพร้อมเจ้าหนู อัดนาน ยานาไซ ผู้สืบทอดตำนานเบอร์ 11 ของ "ปีกพ่อมด" ไรอัน กิ๊กส์

จริงๆ แล้วการส่งผู้เล่นที่มีความสดและคล่องแคล่วว่องไวลงไปบดขยี้แนวรับฝั่งตรง ข้ามที่กำลังอ่อนเปรี้ยเพลียแรง เป็นการแก้หมากที่ใครต่างเห็นดีเห็นงาม แต่การเอาเด็กหนุ่มที่มีลีลาการลากเลื้อยริมเส้นเป็นอาวุธ ลงไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง จึงเป็นการแก้เกมที่เปล่าประโยชน์

ไม่แปลกที่จะเห็น ยานาไซ ผู้เคยฝาก 2 ประตูไว้ ณ สนามแห่งนี้ ได้แค่เคาะบอล ถ่ายบอลไปมา ไร้ซึ่งพิษสงความน่ากลัว ..ก็เลยเป็นงงกับหมากเกมนี้ของ หลุยส์ ฟาน กัล พอสมควร

เหมือนกับว่า ตำแหน่งปีกธรรมชาติในหมากของ ฟาน กัล ถ้าเอ็งไม่เล่นศูนย์หน้า ก็จำเป็นต้องเล่นแบ็กเท่านั้น อย่างที่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แอชลี่ย์ ยัง จับจองพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่ง

เช่นเดียวกับประสิทธิภาพการเข้าทำ ความว่องไวในการต่อบอล และอีกหลายๆ อย่างที่ขาดหายไป จะด้วยเพราะแข้งเจ็บล้นทีม หรือระบบใหม่ยังไม่ลงตัว แต่ผมล่ะหนึ่งคน ยังชื่นชม และหลงไหลในระบบ 4-4-2 แบบดั้งเดิม

การเดินเข้าสู่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะ น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่จะช่วยแก้ไขข้อพกพร่องในบางจุด และอีกหลายๆ จุดในทีม ณ เวลานี้ได้

น่าสนใจว่า ว่าที่เจ้าของเสื้อหมายเลข 7 คนใหม่อย่าง "อังเคล ดิ มาเรีย" จะอยู่ตรงพื้นที่ส่วนใดของสนามในแผนการของ หลุยส์ ฟาน กัล

-จ่าตุ๊-

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook