ผีน่าห่วงเจ๊าปอร์โต้คาบ้าน2-2

    ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกวันอังคารที่ 7 เมษายน "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็ง 2 เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ เอฟซี ปอร์โต จากโปรตุเกส โดยเกมนี้เจ้าถิ่นได้ เนมันยา วิดิช, เวย์น รูนีย์ และ พอล สโคลส์ ที่ติดโทษแบนในลีกกลับมา ส่วนทีมเยือนขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทั้งชุด

     เริ่มเกมขึ้นมา ปอร์โต มาเล่นแบบเดินเกมรุกอย่างไม่กลัวศักดิ์ศรี และเพียงแค่ 4 นาทีก็ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสกัดไม่ดีของ จอนนี อีแวนส์ บอลไปเข้าทาง คริสเตียน โรดริเกวซ แตะบอลหาช่องยิงก่อนจะปั่นเข้าทางเสาไกลเป็น 1-0 จากนั้นเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่มีอะไรมากแต่กลับมาได้ประตูตีเสมอแบบโชคช่วยในนาทีที่ 15 จากการส่งบอลกลับหลังพลาดของ บรูโน อัลเวส ทำให้ เวย์น รูนีย์ ได้บอลไปยิงผ่าน เฮลตัน เข้าไปสบายๆ เป็น 1-1

     ช่วงเวลาที่เหลือของครึ่งแรกแม้ว่าเจ้าถิ่นจะครองบอลได้มากกว่าแต่ก็ยังหาจังหวะทำประตูแบบจะจะไม่ได้เลยจบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 ก่อนที่ครึ่งหลัง ปอร์โต หันไปเล่นเกมตั้งรับต่ำมากขึ้น ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้เป็นส่วนใหญ่ แต่โอกาสลุ้นก็จะเป็นลูกยิงไกล จนนาทีที่ 85 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูเพิ่มจากการเล่นลูกทุ่มของ แกรี เนวิลล์ ให้ รูนีย์ ดีดบอลต่อไปที่เสาแรก คาร์ลอส เตเบซ วิ่งเข้ายิงเป็น 2-1

     เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยชัยชนะของ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน 1 นาที ปอร์โต มาตีเสมอได้จากบอลที่เปิดมาจากทางขวาหลุดเลยไปเสาสอง มาเรียโน กอนซาเลซ หลุดมาคนเดียวแตะบอล 1 จังหวะและยิงผ่าน เอ็ดวิน ฟานเดอร์ซาร์ เข้าไป จบเกมจึงเสมอกันไป 2-2 ก่อนจะไปพบกันที่เอสตาดิโอ ดราเกา ในสัปดาห์หน้า ซึ่งต้องชนะอย่างเดียวหรือเสมอให้มากกว่า 2-2 จึงจะได้เข้ารอบ

     หลังจบการแข่งขัน "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือปีศาจแดงยอมรับว่าเสียดายที่เกมจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ทั้งๆ ที่น่าจะรักษาประตูนำ 2-1 ในช่วงท้ายเกมเอาไว้ได้ ทำให้จะต้องเจอกับเกมที่ลำบากหนักในเกมนัดที่ 2 แต่ในตอนนี้คงต้องมองถึงเกมพรีเมียร์ชิพกับ ซันเดอร์แลนด์ ในวันเสาร์ก่อน

     "ผลการแข่งขันก็ดูเหมาะสม ครึ่งแรกพวกเขาดีกว่าพวกเรา แต่ครึ่งหลังเราเล่นได้ดีขึ้น และประสานงานได้มากขึ้น การได้ประตูที่ 2 ในช่วงท้ายเกมเราควรจะตั้งรับเอาไว้ได้ แต่มันก็เป็นเกมที่หนักในช่วง 2 วันของพวกเรา เราขาดสมาธิกันไป เราต้องเจอกับเกมในวันเสาร์นี้ก่อน และจากนั้นยังมีสิ่งอื่นอีกมากที่ต้องทำ แต่แน่นอนว่าเกมที่ปอร์โตเป็นเรื่องยากแล้วในตอนนี้" เฟอร์กี้กล่าว

     ขณะที่ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ยกพลออกไปเยือน "เรือดำน้ำ" บียาร์รีล โดยเกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมเยือนวาง เอมมานูเอล อเดบายอร์ ยืนเป็นกองหน้าเพียงคนเดียว และมี เชส ฟาเบรกาส เป็นจอมทัพ ซึ่งเกมในช่วงแรก บียาร์รีล เปิดเกมรุกได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด และนาทีที่ 10 ก็ออกนำไปก่อนจากการยิงไกลของ มาร์กอส เซนนา และหลังจากนั้นแม้ว่าเจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูเพิ่มอีกหลายครั้งแต่ก็ยิงไม่ได้ จบครึ่งแรกนำแค่ 1-0

     ครึ่งหลังเกมของ บียาร์รีล ก็ยังดีกว่าเล็กน้อย แต่ อาร์เซนอล ก็มาตีเสมอได้ในนาทีที่ 65 เมื่อ ซาเมียร์ นาสรี วางบอลยาวจากกลางสนามเข้าเขตโทษ เอมมานูเอล อเดบายอร์ พักอก 1 จังหวะก่อนจะตีลังกายิงเข้าไปอย่างสวยงามเป็น 1-1 ทำให้ช่วงเวลาที่เหลือของเกมทั้งสองทีมต่างมีลุ้นประตูเพิ่มด้วยกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายก็ยิงกันเพิ่มไม่ได้ เสมอกันไป 1-1 ก่อนไปเล่นที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันพุธหน้า