บทเรียนของคนดัง : เมื่อ "ปาเกียว" โดน "ไนกี้" ยกเลิกสัญญาเพราะคำพูดไม่กี่คำ

บทเรียนของคนดัง : เมื่อ "ปาเกียว" โดน "ไนกี้" ยกเลิกสัญญาเพราะคำพูดไม่กี่คำ

บทเรียนของคนดัง : เมื่อ "ปาเกียว" โดน "ไนกี้" ยกเลิกสัญญาเพราะคำพูดไม่กี่คำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนพูดเราเป็นนาย เมื่อพูดแล้วมันเป็นนายเรา... นี่คือประโยคที่สะท้อนความจริงจาก แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ที่พูดในสิ่งที่เขาคิดจนเกินไป และสิ่งนั้นย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองเพราะเสียทั้งเงินและเสียเกียรติโดยใช่เหตุ

เรื่องราวทั้งหมดเป็นมาอย่างไรติดตามได้ที่นี่

 

ขาขึ้นของชีวิต

หลังจากผ่านยุค 2000 เป็นต้นมา แมนนี่ ปาเกียว กลายเป็นนักชกฟิลิปปินส์ที่ใครก็รู้จักเนื่องจากเริ่มไล่เก็บคู่ชกนอกเอเชียแล้วหลังจากขยับมาชกรุ่นเฟเธอร์เวต ไฟต์สร้างชื่อเสียงสุดๆ คงหนีไม่พ้นการได้ชกกับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ นักชกชาวเม็กซิกันที่เป็นเจ้าของแชมป์จาก WBA และ IBF ในปี 2004 และผลออกเสมอกัน จากนั้น ปาเกียวจึงเริ่มเป็นมวยของแสลงของนักชกเม็กซิกันเรื่อยมาทั้ง เฮ็คเตอร์ เวลาซเกซ, เอริค โมราเลส, ออสการ์ ลาริออส และ แม้แต่ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ ก็แพ้ให้หลังจากที่ ปาเกียว เริ่มสะสมกระดูกมวยจนเหนือชั้น

 1

ด้วยเหตุผลดังกล่าวในปี 2006 ไนกี้จึงได้ยื่นสัญญาให้เขาเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ ซึ่ง ไนกี้ ในตอนนั้นกว้านเอาเหล่านักกีฬาเบอร์ 1 เข้ามาอยู่ในการดูแลจนเกือบทั้งหมด แต่ตัวของ ปาเกียว นั้นถูกจัดให้อยู่สูงไปอีกระดับ เพราะเขาไม่ได้เป็นแค่แบรนด์แอมบาสเดอร์ธรรมดาๆ เท่านั้น ไนกี้ ยังออกคอลเล็คชั่นพิเศษของเขาโดยเฉพาะ ซึ่งมีไม่กี่คนที่มีโลโก้เป็นของตัวเองแบบนี้ แถมสินค้าที่มีชื่อของ ปาเกียว อย่าง Nike Lunar TR1 “Manny Pacquiao” และ Nike “Manny Pacquiao” Training Collection ก็ยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะในส่วนรองเท้ามวยที่ชื่อ Nike Hyper KO Boxing Boots (Manny Pacquiao Edition) คือที่สุดของที่สุดเพราะรองเท้ารุ่นนี้ถูกรีวิวมากที่สุด และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

แรงขับเพิ่มขึ้นอีกหลังจากได้เซ็นสัญญาในช่วง 5 ปีแรก เพราะนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมาจนถึงปี 2011 ปาเกียว ไม่เคยชกแพ้ใครเลยแม้แต่คนเดียว แถมยังคว่ำยอดฝีมือจากทั่วทุกมุมโลกอีกต่างหากทั้ง ดาวิด ดิอ๊าซ, ออสการ์ เดอ ลา โฮย่า (สหรัฐอเมริกา), ริคกี้ ฮัตตัน (สหราชอาณาจักร), มิเกล ค็อตโต้ (เปอร์โตริโก), โจชัว คล็อตตี้ย์ (กาน่า) จนเหี้ยนเตียน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสินค้าของเขาจึงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ไนกี้ ได้ความคุ้มค่าไปเยอะมากจากสัญญาฉบับนั้น เพราะนอกจาก ปาเกียว จะช่วยออกแบบรองเท้าแล้วเขามักจะปรากฎตัวในที่สาธารณะด้วยการสวมทุกอย่างที่มีแบรนด์ไนกี้ ไม่ว่าจะหมวก, กางเกงขาสั้น, เสื้อยืดและเสื้อแจ็คเก็ต  

 2

จากทั้งหมดที่ว่ามาแม้ไม่มีตัวเลขที่มีสัดส่วนชัดเจนแต่อย่างน้อยๆ มันแสดงให้เห็นว่า แมนนี่ ปาเกียว คือคนสำคัญและตัวทำเงินของ ไนกี้ เขาเองคงได้รับเงินตอบแทนจนคุ้มชนิดที่เราๆ นึกภาพไม่ออก แต่เขาก็ตอบแทนด้วยการสร้างภาพลักษณ์การเป็นที่ 1 ให้กับ ไนกี้ ดังนั้นในแง่ธุรกิจไม่มีใครอยากปล่อยให้สตาร์หลุดมือ จะเรียกว่าลูกรักเลยก็ยังได้เพราะถึงแม้ในปี 2012 ที่ ปาเกียว ฟอร์มไม่ดีแพ้รวดให้กับ ทิโมธี่ แบรดลี่ย์ และ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ ไนกี้ จะระงับการต่อสัญญาออกไป แต่สุดท้ายในปี 2013 ไนกี้ ก็ต้องมาง้อปาเกียวอยู่ดีหลังจากชนะมา 3 ไฟต์รวด และกำลังจะได้ชกกับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นักชกไร้พ่ายชาว อเมริกัน

การได้ชกกับฟลอยด์นั้นถือเป็นไฟต์ที่คนทั้งโลกอยากดู และก็เป็นอีกครั้งที่ไนกี้ วินเรื่องผลตอบรับ เพราะเมื่อรองเท้า Nike Hyper KO รุ่นใหม่ของ ปาเกียว วางขายก็ยังคงถูกพูดถึงมากอีกเช่นเคย หนนี้เขาคัสตอมเป็นสีน้ำเงิน, แดง และขาว เหมือนกับสีของธงชาติฟิลิปปินส์  

 3

นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ว่า ปาเกียว คือของที่ ไนกี้ ทิ้งไม่ลงเพราะสามารถสร้างมูลค่าให้แบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง แถมไนกี้ยังมีบทเรียนมาแล้วว่าอย่าได้ดูถูกอายุของนักชกชาวปินอยคนนี้ เพราะถึงแม้อายุจะเริ่มมากขึ้นแต่ดูเหมือนว่าความเป็นมืออาชีพของเขายังสูงมากอีกทั้งภาพลักษณ์ยังเหมาะกับการตีตลาดอย่างแรง … อย่างไรก็ตามทุกอย่างย่อมมีข้อแม้เสมอ

ข้ามเส้น

ปาเกียว เองไม่เคยมีเรื่องปากเสียหรือว่ากล่าวใครนอกเรื่องหมัดมวยเลย จนกระทั่งครั้งหนึ่งเขาทำความผิดมหันต์ชนิดที่ว่าทั้งโลกต้องมองค้อนตาขวางโดยมิได้นัดหมาย โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ ที่ชื่อว่า TV 5 ถึงกลุ่มรักร่วมเพศว่า "สืบพันธ์โดยไม่เลือกเพศและแย่ยิ่งกว่าสัตว์" นี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คนดังของโลกจะหลุดปากออกมาในที่สาธารณะ

 4

อะไรทำให้เขาตัดสินใจพูดแบบนั้น? เรื่องนี้พูดยากและค่อนข้างละเอียดอ่อน มันเหมือนกับเป็นการอวดภาพลักษณ์นักการเมืองสไตล์อนุรักษ์นิยม หลังเส้นทางอาชีพบนสังเวียนผืนผ้าใบกำลังจะสิ้นสุดลง เพราะตอนนั้น ปาเกียว ก็อายุ 37 ปีแล้ว ซึ่งตัวเขาได้กรุยทางมุ่งสู่การเลือกตั้งชิงเก้าอี้วุฒิสภาในปี 2016 ไว้ด้วย หลังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ปี 2010

นอกจากนี้ปาเกียวยังเป็นคนที่นับถือศาสนาคริสต์อย่างเคร่งครัด และต้องขออนุญาตอ้างอิงจากบทความโดย อ. ประยูร ลิมะหุตะเศรณี ที่เขียนไว้ว่า "พระธรรม มท.19:4-8 มีข้อความที่พระเยซูทรงกล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเพศตามปกติของชาติ และหญิง โดยได้ความว่า ความสัมพนธ์ทางเพศที่ปกติ นั้น จะต้องเกิดขึ้นระหว่างชายกับหญิงเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ ดังนั้นพระองค์จึงสร้างมนุษย์ให้มีสองเพศ"

อย่างไรก็ตามโลกเราหมุนเปลี่ยนไปทุกวัน ทุกอย่างต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพแวดล้อม และจะด้วยเหตุใดก็ตามในโลกปัจจุบันเรื่องเพศถือว่าเป็นเรื่องที่เปิดกว้าง เรื่องรสนิยมแบบรักร่วมเพศนั้นไม่ใช่สิ่งผิดปกติแต่อย่างใด และการพูดเชิงเหยียดเพศภาพของ ปาเกียว ครั้งนี้ทำให้ ไนกี้ ฉุนขาดเพราะมันเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน เขามีสิทธิ์จะเชื่อและคิดได้ แต่ไม่มีสิทธิ์จะมาพูดเช่นนี้

"เราพบว่าความคิดเห็นของ แมนนี ปาเกียว น่ารังเกียจ ดังนั้นเราขอต่อต้านการเลือกปฎิบัติทุกกรณี และเราไม่มีสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้ว" นี่คือสิ่งที่ ไนกี้ แถลงผ่านสื่อและพวกเขาฉีกสัญญากับ ปาเกียว ที่เป็น 1 ในลูกรักทันที เพราะหากปล่อยไว้ยิ่งส่งผลด้านลบต่อแบรนด์แน่นอน และครั้งนี้แรงมวลชนหลายล้านคนยังกดดัน ไนกี้ ด้วยการโหวตปลดปาเกียวออกจากแบรนด์แอมบาสเดอร์ในเว็บไซต์ change.org อีกด้วย

 5

ปาเกียว ให้สัมภาษณ์กับสื่อฟิลิปปินส์ในตอนนั้นว่า ไม่ว่าไนกี้ตัดสินใจอย่างไร เขาเคารพต่อการตัดสินใจดังกล่าว ขณะเดียวกันยังยืนยันว่าเขาคัดค้านการแต่งงานของเพศเดียวกัน แต่ไม่ได้ประนามกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ทว่าไม่ทันแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าปาเกียวเสี่ยงถูกยกเลิกสัญญากับรายอื่นๆ ตามมา นอกจากนี้กลุ่มเกย์และเลสเบี้ยนบางกลุ่มเรียกร้องให้ชาวฟิลิปปินส์อย่าลงคะแนนเสียงให้นักชกวัย 37 ปีที่ลงสมัครชิงเก้าอี้วุฒิสมาชิกด้วย

แม้สุดท้ายเขาจะได้นั่งเก้าอี้ในสภาตามที่ตัวเองคาดหวัง แถมว่าตรงๆ เขาเองก็ร่ำรวยมามากแล้วตลอดอายุชกที่ยาวนาน การโดน ไนกี้ ยกเลิกสัญญาอาจจะทำให้เขาสูญเงินก้อนโตแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ แมนนี่ ปาเกียว ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวแน่นอน แถมยังเป็นการเปิดประตูให้สปอนเซอร์รายอื่นเข้ามาด้วย แต่ที่แน่ๆ เขาเสียคนไปเยอะมากกับเรื่องภาพลักษณ์ของนักชกฮีโร่ที่สู้ชีวิตจากศูนย์ ถูกมองข้ามด้วยฝีปากที่ร้อนแรงและไร้มารยาทในสังคม...

ไม่แน่ในอนาคตหากปาเกียวกำลังเล็งตำแหน่งที่ใหญ่กว่านี้ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะโดนเอามาพูดถึงอีกครั้งจนส่งผลให้ผลออกมาไม่เป็นไปตามที่เขาหวังเหมือนในอดีตก็เป็นได้

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ บทเรียนของคนดัง : เมื่อ "ปาเกียว" โดน "ไนกี้" ยกเลิกสัญญาเพราะคำพูดไม่กี่คำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook