อำมาตย์ ปะทะ รากหญ้า? : ไขปริศนาที่มาจุดกำเนิดมุมแดง-มุมน้ำเงินในกีฬาชกมวย

อำมาตย์ ปะทะ รากหญ้า? : ไขปริศนาที่มาจุดกำเนิดมุมแดง-มุมน้ำเงินในกีฬาชกมวย

อำมาตย์ ปะทะ รากหญ้า? : ไขปริศนาที่มาจุดกำเนิดมุมแดง-มุมน้ำเงินในกีฬาชกมวย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มุมแดงและมุมน้ำเงิน ในกีฬาชกมวยนั้นอยู่คู่กับสังคมมานานจนเราลืมสงสัยไปว่าทำไมต้องเป็นเฉพาะ 2 สีนี้... ทำไมไม่เป็นสีเขียว, ม่วง หรือชมพูบ้าง?

นี่คือข้อสันนิษฐานของเรื่องราวระหว่าง มุมแดง และ น้ำเงิน จากอดีตจนถึงปัจจุบัน…

 

ย้อนไปไกล ทำไมต้อง แดง-น้ำเงิน

ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรที่ แดง และ น้ำเงิน จะต้องห้ำหั่นกันเพื่อชัยชนะ เพราะหากย้อนไปตั้งแต่ยุค โรมัน ทั้งสองสีนี้ต้องสู้รบกันมาตั้งแต่จำความได้แล้ว...

แดง และ น้ำเงิน อาจจะเป็นสีที่ตัดกันชัดเจนเเละช่วยทำให้สังเกตได้ง่ายว่าใครเป็นใคร แต่ในทางประวัติศาสตร์ 2 สีนั้นมีความหมายมากกว่าแค่เรื่องของความแตกต่างในการแข่งขัน แต่มันยังมีผลถึงการแสดงออกทางการเมืองและสงครามอีกด้วย ทั้งสองสีนี้ขัดแย้งกันมาอย่างยาวนาน โดยมีการอ้างอิงถึงการต่อสู้ในโคลอสเซียมของเหล่า กลาดิเอเตอร์ (นักสู้) ที่สมัยนั้นถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ยืนยันได้จากขนาดที่วัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูงถึง 57 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถจุผู้คนได้ถึง 50,000 คนเลยทีเดียว

 1

กีฬาต่อสู้ทุกชนิดจะถูกจัดขึ้นในโคลอสเซียม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์กับสัตว์ คนกับสัตว์ โดยเฉพาะคนกับคนที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ซึ่งการสู้แบบคนกับคนนี้เองคือจุดเริ่มต้นของการแบ่งเป็นสองฝั่ง นั่นคือการใช้สีน้ำเงินกับสีแดง

เดิมทีนักสู้ที่เป็นคนที่ถูกส่งลงไปสู้ในโคลอสเซียมนั้นมักจะเป็นชนชั้นทาสหรือแม้กระทั่งเชลยศึก ส่วนใหญ่เป็นการสู้กันเองโดยมีเดิมพันคือใครแพ้ต้องเสียชีวิต จนกระทั่งในระยะหลังเมื่อได้รับความนิยมมากจึงมีการออกกฎใหม่นั่นคือ "กฎสู้แบบสมัครใจ" นั่นคือหากมีชนชั้นทาสหรือประชาชนทั่วไปคนไหนอยากได้ยศบรรดาศักดิ์และอิสรภาพในสังคม พวกเขาจะต้องลงสมัครและขอต่อสู้กับนักสู้ของฝั่งกษัตริย์ที่เตรียมไว้ ซึ่งทำให้กลุ่มนายทาสหรือพ่อค้าทาสเล็งเห็นช่องทาง "รวยและมีชื่อเสียง" เอาจริงเอาจังกับการส่งทาสในการดูแลลงไปแข่งต่อสู้ในโคลอสเซียมมากขึ้น

มุมแดง และ น้ำเงิน เกิดขึ้นจากการแบ่งฝั่งนี้เอง นักสู้ระดับนายทหารชั้นสูง กับนักสู้ฝ่ายทาสจะต้องเดินออกมาจากคนละมุม ฝั่งทหารนั้นจะออกมาจากมุม (ประตู) ที่มีสีน้ำเงินอันถือว่าเป็นสีของพวกศักดินา สำหรับ สีน้ำเงิน นั้นมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นสุภาพบุรุษ มีความสุขุม หนักแน่น และยังหมายถึง ความสูงศักดิ์ ส่วนในทางศาสนาคริสต์ ก็เป็นสีประจำตัวแม่พระอีกด้วย โดยทั่วไป สีน้ำเงินหมายถึงโลก ซึ่งเราจะ เรียกว่า โลกสีน้ำเงิน (Blue Planet) เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่มองเห็น จากอวกาศโดยเห็นเป็นสีน้ำเงินสดใส เนื่องจากมีพื้นน้ำที่กว้างใหญ่

 2

ขณะที่ฝั่งทาสจะต้องเดินออกจากมุมสีแดงที่เปรียบเสมือนเลือด เพราะพวกเขาเป็นรองทุกประตู และจะต้องเสียเลือดอยู่ตลอด ดังนั้นสีแดงจึงเป็นสีที่เหมาะกับฝั่ง "ท้าทายอำนาจรัฐ" มากที่สุด สำหรับสีแดงนั้นมีความหมายทางสัญลักษณ์นั้นเป็นเหมือนสีของเลือดและไฟ ดังนั้นมันจึงเกี่ยวข้องกับพลังและสงคราม ความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ โดยจุดนี้สังเกตได้จากธงชาติของหลายๆ ประเทศที่มักจะมีสีแดงเป็นหนึ่งในส่วนประกอบอยู่เสมอ

เรื่องนี้ถูกยืนยันขึ้นในอีกหลายร้อยปีต่อมาเมื่อมีนักโบราณคดีพบว่าใน โคลอสเซียม นั้นมีการแกะสลักหมายเลขที่นั่งและทาสีแดงเอาไว้ด้วย เพื่อความเรียบร้อยของกลุ่มคนดูที่ส่วนใหญ่เป็นประชาชนทั่วไปไม่มีที่นั่งประจำ ด้วยสีแดงนี้ ทั้งหมดจึงเป็นการแบ่งชั้นสังคมโดยกลายๆ  นอกจากนี้ยังมีการยืนยันจากบทความเกี่ยวกับโบราณคดีอีกว่า โคลอสเซียม มีทางเดินลงสู่สนามทั้งหมด 80 ทาง แต่จะมี 1 ประตูที่สงวนไว้สำหรับเหล่าผู้มีเกียรติ เช่น เหล่าเจ้าขุนมูลนายต่างๆ ไปจนถึงระดับจักรพรรดิเลยทีเดียว ส่วนอีก 1 ประตูที่ทำไว้เพื่อขนศพของสัตว์ป่า หรือนักสู้อีกฝั่งหนึ่งด้วย   

แม้ในวงการมวยปัจจุบันจะไม่ได้กล่าวอ้างถึงเรื่องประวัติศาสตร์เหล่านี้มากมายนัก แต่เมื่อวัดดูจากความหมายของสีและสภาพแวดล้อมของสิ่งที่เกิดขึ้นในกีฬาต่อสู้ฉบับโรมัน จึงพอกล่าวอ้างได้กลายๆ ว่ามันคือจุดเริ่มต้นของการแบ่งฝั่งของนักสู้ให้ชัดเจนด้วยสีน้ำเงินกับสีแดงนั่นเอง

แล้ววงการมวยว่าอย่างไร?

อาลีน อีตัน ผู้คร่ำหวอดในวงการมวยของนคร ลอส แอนเจลิส เล่าว่าแต่ก่อนนั้นมวยไม่เป็นมุมแดงและน้ำเงิน แต่ใช้ 2 สีนั่นคือ สีดำ กับ สีขาว ไม่มีความหมายบอกว่าทำไมต้องใช้สีดังกล่าว มีแต่การเล่าว่ามันเป็นประเพณีที่มีความหมายสำหรับนักพนันมวยในยุคเก่าเป็นอย่างมาก 

วงการมวยในสหรัฐอเมริกายุคแรกๆ จะเลือกมุมโดยการโยนเหรียญเพื่อดูว่านักมวยคนใดจะได้นั่งฝั่งไหน โดยที่ต้องเลือกก็เพราะว่าเวทีสมัยก่อนเป็นเวทีกลางแจ้ง การเลือกมุมที่หันหลังให้แดดย่อมเป็นอะไรที่ดีและได้เปรียบกว่าอยู่แล้ว  สำหรับการเลือกมุมในยุคนั้นก็ยังมีความเพิ่มเติมอีกในส่วนของการพนัน เพราะเหล่านักพนันจะเริ่มแทงกันตั้งแต่ก่อนชกเลยว่ามุมไหนจะเป็นของนักชกคนใด

 3

มันเป็นเช่นนั้นมาพักใหญ่ จนเปลี่ยนมาเป็นแดง-น้ำเงินในเวลาต่อมา ไม่มีคำยืนยันที่ชัดเจนว่า มุมแดง กับ มุมน้ำเงิน ถูกเปลี่ยนมาแทน มุมดำ กับ มุมขาว เมื่อไหร่ มีแต่มีข้อสันนิษฐานคร่าวๆ ว่า เกิดจากการผลักดันของกลุ่มนายทุนทางโทรทัศน์อย่าง HBO (เริ่มออกอากาศปี 1972), ESPN (เริ่มออกอากาศปี 1979) และ USA Nerwork (เริ่มออกอากาศปี 1979) เมื่อพิจารณาจากตัวเลขในปีที่เริ่มออกอากาศนั้น พอจะ "คาดเดา" ได้ว่า การใช้มุมแดง และน้ำเงินเริ่มต้นจากยุค '70s เป็นต้นมา และช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับการกำเนิด "โทรทัศน์สี"(ทีวีสี) อีกด้วย

ส่วนเหตุผลที่เหล่าโทรทัศน์ช่องดังกล่าวพยายามจะเปลี่ยนนั้น ก็เพื่อที่จะทำให้คนดูสังเกตนักมวยแต่ละคนแต่ละมุมได้ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่า ดำ และ ขาว เพราะสีแดงและสีน้ำเงินต่างก็เป็นสีหลักในแม่สีด้วย (เหลือง, แดง, น้ำเงิน)

ลึกกว่าแค่สีจริงหรือ?

หากจะมองให้มากกว่ากีฬาไปอีกสักหน่อยก็ยังพอมีเกร็ดเล็กๆ แถมอยู่บ้าง ครั้งหนึ่ง ไมค์ ไทสัน อดีตนักชกแชมป์เฮฟวี่เวทอธิบายเกี่ยวกับสีน้ำเงินและแดงในวงการมวยเอาไว้ เพราะสีทั้งสองต่างเป็น สีประจำของแก๊งสเตอร์ หรือกลุ่มมาเฟีย พวกเขาใช้สีแดงและน้ำเงินมาใช้แทนธงที่แสดงถึงสัญลักษณ์ว่านักมวยคนนี้มาจากแก๊งไหน และ ไทสัน ยังว่าไว้อีกว่าเมื่อขึ้นชกกันแล้วสีใด (หรือแก๊งใด) ที่ชนะจะมีสิทธิ์เดินในเมืองได้อย่างสง่าผ่าเผย จนกว่านักชกคนนั้นที่เป็นตัวแทนของพวกเขาจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ 

 4

จะจริงหรือลึกขนาดที่ "ไอรอนไมค์" ว่าไว้หรือไม่นั้นไม่อาจจะยืนยันได้เต็ม 100% เพราะไม่มีข้อมูลที่อ้างอิงไปมากกว่านี้ มันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่ใช้แบ่งกันของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามคำที่ไทสันบอกมันก็คล้ายๆ กับเหตุการณ์ 2 แก๊งถล่มเมืองนคร ลอส แอนเจลิส ที่มีชื่อว่า แก๊ง Blood ที่มีสีแดงเป็นสีประจำแก๊ง และ แก๊ง Crips ที่มีสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ของพวกเขา แน่นอนพวกเขาทั้งคู่ไม่ถูกไม่ถูกกัน และชิงความเป็น 1 แห่งนคร แอลเอ กันมานมนาน มีการหลั่งเลือดก็ไม่น้อย  ส่วนสาเหตุที่พอเอามาเชื่อมโยงถึงสีของมวยแบบที่ ไทสัน บอกไว้นั้น นอกจากสีของแก๊งและมุมของนักมวยจะสีเดียวกันแล้ว ระยะเวลาการก่อตั้งแก๊งของทั้งคู่ยังอยู่ในยุค '70s ตรงกับการผลักดันมุมแดงและน้ำเงินของสื่อโทรทัศน์พอดีเป๊ะอีกด้วย

ทั้งหมดคือเรื่องราวของสีที่ใช้แบ่งฝ่ายให้ชัดเจนในเวทีมวย แม้จะบอกเต็มปากไม่ได้ว่าแนวคิดไหนกันแน่ที่ถูก แต่อย่างน้อยๆจากที่กล่าวอ้างมาก็น่าจะทำให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงความหมายของ สีแดง และ น้ำเงิน ในการต่อสู้ได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ อำมาตย์ ปะทะ รากหญ้า? : ไขปริศนาที่มาจุดกำเนิดมุมแดง-มุมน้ำเงินในกีฬาชกมวย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook