หมดเวลาคลิ้นซี่

หมดเวลาคลิ้นซี่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คอลัมน์ เลาะสนาม

คารม คมคิด

บาเยิร์น มิวนิก ทีมยักษ์ใหญ่ของเยอรมันเพิ่งประกาศปลด เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ พ้นจากตำแหน่งผู้จัดการทีม

อันเป็นผลมาจากผลงานของทีมที่ตกต่ำอย่างหนักในฤดูกาลนี้

ไม่ถือว่าเซอร์ไพรส์ แต่น่าเสียดายมากกว่า

สำหรับ คลิ้นซี่ นับตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งก็ต้องแบกรับความคาดหวังไว้อย่างมากมาย

อดีตเจ้าของฉายา ฉลามขาว ถือว่า ป?อปปูลาร์ มากในวงการลูกหนังเยอรมัน และมีผลงานโดดเด่นมากมายทั้งในสมัยที่เป็นนักเตะ หรือก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม

ในสมัยที่ยังโลดแล่นอยู่ในสังเวียนหญ้า คลิ้นสมันน์เคยได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน เมื่อปี 1988 เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ กับบาเยิร์น เมื่อปี 1996 คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพกับอินเตอร์ เมื่อปี 1991 และคว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษร่วมกับสเปอร์ในปี 1995

ส่วนในทีมชาติ เคยพา อินทรีเหล็ก คว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1990 และเป็นกัปตันทีมชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 มีสถิติเล่นให้ทีมชาติเยอรมัน 108 นัด ทำไปทั้งหมด 47 ประตู

ในขณะที่เส้นทางการเป็นผู้จัดการทีมก็สวยหรู ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม อินทรีเหล็ก ในเดือนก.ค. 2004 ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์เป็นโค้ชมาก่อน แต่ก็สามารถพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเวิลด์คัพ 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ

เมื่อตอนที่ เสือใต้ แต่งตั้ง คลิ้นซี่ แทนที่อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ความคาดหวังจากแฟนบอล บอร์ดบริหารสโมสรจึงสูงอย่างยิ่ง

แถมตัวของ ฉลามขาว ยังเคยตั้งเป้าหมายตอนที่เข้ามารับงานใหม่ๆ ว่า ต้องการพา เสือใต้ ป้องกันแชมป์บุนเดสลีกา และเยอรมัน คัพให้ได้

คำพูดดังกล่าวของกุนซือวัย 44 กลายเป็นเชือกพันคอตัวเองไปเสียได้

ผลงานของบาเยิร์น มิวนิก ไม่ดีอย่างที่คาดหวัง สถานการณ์ในตอนนี้โอกาสลุ้นแชมป์บุนเดสลีกาเหลือแค่ 50-50 เท่านั้น

แฟนบอลระดับฮาร์ดคอร์ ไม่สบอารมณ์กับผลงานของทีม และพากันกดดันคลิ้นสมันน์ อย่างหนัก

หลังความพ่ายแพ้ต่อชาลเก้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อนาคตของเขาก็ดับวูบลงไปพร้อมกัน

อูลี่ เฮอเนส ผู้จัดการทั่วไปของ เสือใต้ บอกว่า แนวคิดของคลิ้นสมันน์ ที่มีแผนการหลายอย่างเพื่อให้ทีมเป็นทีมแห่งอนาคต เป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่เวิร์กเมื่อผลการแข่งขันในปัจจุบันของทีมไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ

บาเยิร์น ต้องการชัยชนะ มากกว่าความพ่ายแพ้

และตอนนี้ เจอร์เก้น คลิ้นสมันน์ คงเข้าใจแล้วว่า ชนะกับแพ้ มีเส้นกั้นห่างเพียงนิดเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook