10 เงื่อนไขสัญญาสุดแปลกของวงการ NBA ที่นายจ้างทั่วโลกปวดหัว

10 เงื่อนไขสัญญาสุดแปลกของวงการ NBA ที่นายจ้างทั่วโลกปวดหัว

10 เงื่อนไขสัญญาสุดแปลกของวงการ NBA ที่นายจ้างทั่วโลกปวดหัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จะเล่นต่อเมื่อมีอารมณ์จะเล่น, จ่ายเงินมาสิแล้วผมจะตั้งใจซ้อม หรือแม้แต่ ขอที่จอดรถให้สัก 6 คันนี่ ... คือ 10 เงื่อนไขสัญญาแปลกใน NBA ที่เมื่อได้ยินแล้วต้องเอะใจว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ?  

For the love of the game

ขึ้นชื่อว่า "GOAT" (Greatest of All Time) แห่งวงการแล้วมันย่อมต้องมีความแตกต่างกับผู้เล่นคนอื่นๆ สักหน่อย เป็นที่รู้ดีว่า ไมเคิล จอร์แดน คือผู้เล่นที่สามารถบันดาลชัยชนะให้กับทีมอย่างง่ายดาย และแน่นอนว่าหากเขาได้ลงสนามทุกเกม ทีมๆ นั้นย่อมมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ชิคาโก้ บูลส์ โชคดีสุดๆ ที่มี จอร์แดน อยู่กับทีม พวกเขาจึงประสบความสำเร็จมากมาย อีกทั้งตัวของ จอร์แดน เองก็เป็นผู้เล่นที่มีสปิริตสูงมาก เขาจริงจังกับการแข่งขันและอยากที่จะเป็นผู้ชนะเสมอ 

และด้วยความที่นักกีฬาทรงคุณค่ากับทีมมาก โดยปกติแต่ละทีมก็มักจะมีเงื่อนไขเล็กๆ ในสัญญา ห้ามไปทำอะไรเสี่ยงๆ ช่วงปิดฤดูกาล แม้แต่การเล่นบาสเกตบอลโชว์ในงานอีเวนท์หรือไปเล่นข้างถนนก็ทำไม่ได้

แต่สำหรับจอร์แดนกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเจ้าตัวได้ให้ใส่เงื่อนไขที่เรียกว่า  "For the love of the game" พูดง่ายๆ ก็คือ ทีมต้องอนุญาตให้เขาได้เล่นบาสทุกที่ ทุกเวลา อยากเล่นต้องได้เล่น ... อันที่จริงนี่เป็นสัญญาที่เจ้าของทีมไม่อยากจะใส่เป็นอย่างมาก แต่ก็นั่นแหละ เขาคือ "จอร์แดน" ฉะนั้น ให้มากกว่านี้ก็ต้องให้

ซึ่งถือเป็นเรื่องโชคดีของทีมที่เจ้าตัวนั้นมีความเป็นมืออาชีพในทุกด้าน รวมถึงการดูแลตัวเอง เจ้าตัวจึงผ่านช่วงปิดฤดูกาลไปได้แบบที่ทุกฝ่ายโอเค 

ซื้อในสิ่งที่ต้องทำ... 

สำหรับการแข่งขันระดับอาชีพนั้นจำเป็นต้องมากที่จะต้องเตรียมความพร้อมให้ครบทุกด้านก่อนที่การแข่งขันจริงจะเริ่มขึ้น ดังนั้นกลุ่มผู้เล่นจะต้องปรับตัวให้ได้หลังจากได้พักผ่อนมาในช่วงพักร้อน ทุกคนจำเป็นจะต้องกลับมาเข้าสู่โปรแกรมฟิตแบบเต็มรูปแบบ

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ยังมีผู้เล่นบางคนที่มีฝีมือแต่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง หนึ่งในนั้นคือ มาริโอ ชาลเมอร์ส ที่เล่นให้กับ ไมอามี่ ฮีต ในช่วงปี 2008-2015 ที่มีอาการเหยาะแหยะ ไม่อยากจะร่วมการแข่งขัน "ซัมเมอร์ลีก" ที่เป็นเหมือนเกมอุ่นเครื่องเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย และซ้อมแท็คติกที่จะใช้ในฤดูกาลใหม่ 

อาจจะด้วยเหตุผลที่อยู่กับทีมมานาน และทีมเล็งเห็นว่า ชาลเมอร์ส นั้นอาจจะไม่ได้ปฎิเสธ แต่ก็ให้ความร่วมมือแบบไม่เต็มที่นัก ดังนั้นวิธีเดียวที่จะจูงใจขาเก๋าของทีมได้คือการจ่ายเงินซะให้จบๆ ไป ซึ่ง ฮีท ได้มอบข้อเสนอจำนวน 19,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ ชาลเมอร์ส ได้โปรดมาแข่ง "ซัมเมอร์ลีก" ตามโปรแกรมที่ทีมได้วางไว้ 

หาของให้หน่อย

บิล วอลตัน ได้แสดงความเป็นคอดนตรีออกมาอย่างเหนือชั้นและใช้โอกาสในการเซ็นสัญญากับทีม ซานดิเอโก้ คลิปเปอร์ส ในปี 1979 

ข้อเสนอของ วอลตัน ที่บอกกับ คลิปเปอร์ส คือการบอกว่าหากอยากจะได้เขาเป็นผู้เล่นของทีม ทางทีมจะต้องหาบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตศิลปินดังอย่าง บรูซ สปริงสทีน ที่จะมาจัดคอนเสิร์ตใน เดอะ สปอร์ตส์ อารีน่า รังเหย้าของทีมในอีกไม่กี่เดือนหลังจากวันที่เซ็นสัญญา 

ความโหดของเงื่อนไขนี้คือ วอลตัน ต้องการบัตรทั้งสิ้น 8 ใบ ในทุกรอบของการแสดงซึ่งจัดขึ้นที่สนามแห่งนี้รวม 7 รอบ เท่ากับทีมจะต้องหามาทั้งสิ้น 56 ใบ แถมบัตรยังโซลด์เอาท์ ขายหมดไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ขอมาก็ต้องจัดให้ ... มันอาจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เพราะเขาระบุว่า ไม่ต้องซื้อให้ก็ได้ หามาให้ก็พอ เดี๋ยวจ่ายเงินเอง (ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้จ่ายตามราคาหน้าตั๋วเสียด้วย) แต่สิ่งที่ คลิปเปอร์ส แปลกใจคงไม่พ้นข้อที่ว่า "เขาถึงกับต้องเอาเรื่องนี้มาอยู่ในการเซ็นสัญญาเชียวหรือ?" จริงจังอะไรขนาดนั้นพ่อคุณ

อยากได้เหรอ? ตอบรับสิ!

เชลลี่ สเตอร์ลิ่ง เป็นเจ้าของทีม แอลเอ คลิปเปอร์ส ทว่าในปี 2014 เธอเลือกที่จะขายทีมให้กับเจ้าของใหม่ ซึ่งคนนั้นคือ โดนัลด์ สเตอร์ลิ่ง สามีของเธอเอง 

มูลค่าในการขายนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่สิ่งที่ เชลลี่ ร้องขอเป็นอะไรที่แปลกพอสมควร เพราะถือเป็นเรื่องที่ยิบย่อย และเป็นอะไรที่ผู้หญิ๊งผู้หญิงเสียจริงๆ ข้อเสนอแปลกๆ ที่วางไว้มี 5 ข้อดังนี้

1. เธอจะต้องเป็น แฟนคลับหมายเลข 1 ของทีม คลิปเปอร์ส
2. เธอจะต้องถูกพูดถึงในฐานะเจ้าของทีมกิตติมศักดิ์ (Owner emeritus)
3. เธอจะต้องได้ตั๋วเข้าชมเกม เกมละ 12 ใบในโซนที่นั่งปกติ และอีก 2 ใบสำหรับตั๋วริงไซด์ข้างสนาม
4. เธอจะต้องได้รับการสำรองที่จอดรถ 6 คัน และได้บัตร VIP ทั้งหมด 12 ใบ
5. เธอจะได้ต้องแหวนแชมป์ NBA 3 วงหาก คลิปเปอร์ส กลายเป็นแชมป์ NBA 

ซึ่งเงื่อนไขทั้งหมด โดยเฉพาะข้อสุดท้ายดูเหมือนจะไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อสามีตัวแสบไปก่อคดีเหยียดผิวใส่ แมจิค จอห์นสัน จนต้องขายทีมเมื่อปี 2014 และถูกแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการไปตลอดชีวิต

ย้ายก่อนค่อยเลี้ยง 

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อทีม นิวยอร์ก นิกส์ เซ็นสัญญากับ สตีฟ โนวัก ในช่วงปี 2011 ซึ่งตัวของ โนวัก นั้นเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์แต่ทีมกลับตรวจพบว่าเขาเป็นโรคแพ้ขนสุนัขจึงได้จัดการยื่นสัญญาที่ว่า "ห้ามเลี้ยงสุนัข" ในชวงเวลาที่อยู่กับทีม 

จริงๆ โนวัก อาจจะแอบๆ เลี้ยงได้แต่มันก็ต้องเสี่ยงหน่อย เพราะหากทีมจับได้เขาจะถูกปรับเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามเงื่อนไขนี้เป็นเพียงเงื่อนไขที่สื่อเมริกันสืบกันมาเท่านั้น ไม่ได้มีลายลักษณ์อักษรให้เห็น 


เหรอ...เอาเลย

อโดนัล ฟอยล์ เป็นเซ็นเตอร์ร่างยักษ์ที่เล่นให้กับหลายทีมใน NBA ในช่วงปลายยุค '90 ถึงปี 2010 แต่กลับไม่ค่อยถูกพูดถึงมากมายนักในเรื่องของฝีไม้ลายมือในการเล่น 

อย่างไรก็ตามเรื่องความมั่นต้องยกให้เขาเลยจริงๆ เพราะไม่ว่าจะไปเซ็นสัญญากับทีมไหนเขามักจะยื่นเงื่อนไขให้กับทีมที่จะเซ็นอย่างหาญกล้า และเป็นเงื่อนไขที่ไม่ธรรมดาเสียด้วย 

ฟอยล์ ต้องการโบนัส 500,000 ดอลลาร์ สำหรับการได้รางวัล MVP ของฤดูกาล นอกจากนี้ยังต้องการอีก 500,000 ดอลลาร์ สำหรับการเป็น MVP ในเกมรอบชิงชนะเลิศ

แม้จะเป็นข้อเสนอที่สูงแต่ทุกทีมก็ตอบรับเขาหมด ซึ่งน่าแปลกที่เขาเล่นมา 4 ทีมในเวลา 10 กว่าปี เขาไม่เคยเฉียดตำแหน่ง MVP เลยสักครั้ง ไม่แม้แต่จะพาทีมเข้ารอบเพลย์ออฟอีกต่างหาก ...

ชายผู้ตามล่า MVP 15 ปี 

นิค คอลลิสัน คือนักบาสเกตบอลที่อยู่กับ โอกลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ มาตั้งแต่ยุคที่ทีมใช้ชื่อว่า ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ ในช่วงปี 2003 แล้ว แต่ก็ไม่มีตัวตนโดดเด่นเท่าไรนัก

ประเด็นก็คือ เนื่องด้วยตอนที่เขาลงเล่นให้ระดับมหาวิทยาลัย คอลลิสัน เป็นดาวเด่นเบอร์ต้นๆ ดังนั้นในวันที่ ซูปเปอร์โซนิคส์ คว้าตัวเขามาร่วมทีมเขาจึงใส่ออพชั่นว่า เขาจะต้องได้โบนัส 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากได้รางวัล MVP 

แม้เขาจะจงรักภักดีกับทีมมาโดยตลอด แต่น่าเศร้าตรงที่เมื่อถึงวันซึ่งเขาตัดสินใจแขวนรองเท้าในปี 2018 คอลลิสัน ก็ไม่อาจคว้าโบนัส MVP มาครอบครอง

ช่วยจนไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วนะ... 

นิวเจอร์ซี่ย์ เน็ตส์ พยายามแล้วพยายามอีกที่จะเข็นฟอร์มการเล่นของ โทนี่ แบ็ตตี้ ให้ร้อนแรงดั่งใจหวัง ดังนั้นจึงต้องมีข้อเสนอล่อใจกันแบบสุดๆ ในช่วงปี 2009 

ทีมยื่นข้อเสนอจูงใจให้ แบ็ตตี้ ด้วยการเพิ่มโบนัส 100,000 ดอลลาร์ หากว่าเขาได้ลงเล่นมากกว่า 50 เกมต่อฤดูกาล และมีค่าเฉลี่ยรีบาวด์เกมละ 8 ครั้งขึ้นไป นอกจากนี้ยังเพิ่มอีก 1 แสนดอลลาร์หากเขาเรียกลูกโทษให้ทีมได้เฉลี่ย 5 ครั้งต่อเกม (แถมไม่ต้องยิงลงทั้งหมดก็ได้) เท่านั้นยังไม่พอ หากเขาลงเล่นมากกว่า 50 เกมต่อฤดูกาลและทีมผ่านรอบเพลย์ออฟ เขาก็จะได้อีก 1 แสนดอลลาร์ เรียกได้ว่า 3 แสนเต็มๆ ที่พวกเขาพร้อมมอบให้หาก แบ็ตตี้ ทำได้

อย่างไรก็ตามนายจ้างอย่าง เน็ตส์ ต้องปวดหัวเพราะขนาดยั่วให้ขนาดนี้ แบ็ตตี้ ยังทำตามเงื่อนไขไม่ได้สักข้อ แถมยังไม่เฉียดเลยแม้แต่น้อย เขามีค่าเฉลี่ยรีบาวด์แค่ 6.5 ครั้ง/เกม และเรียกลูกโทษเพียง 1.8 ลูกต่อเกม ที่สำคัญคือ ตลอดการลงเล่นกับ เน็ตส์ ทีมยังไม่ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟซักครั้ง

คือพี่จะเอายังไงครับ?

เรื่องมันสวนทางกันนิดหน่อย เพราะมันทำให้ฝั่งผู้เล่นที่หัวเสียพอสมควร เพราะปกติแล้วการสั่งให้ผู้เล่นลดน้ำหนักตัวนั้นไม่ค่อยมีใน NBA แต่จะปรากฎใน NFL มากกว่า

อย่างไรก็ตาม บอสตัน เซลติกส์ ก็เลือกที่จะใช้การขอแกมบังคับให้กับ เกล็น เดวิส ในวันที่เซ็นสัญญาเข้าทีมในปี 2009 โดยทางทีมจะมอบโบนัสให้ เดวิส ถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากเขาเข้ากิจกรรมลดน้ำหนักของทีม 

เดวิส เองก็งงเพราะก่อนหน้านี้ทีมบอกว่าอยากให้เขาตัวใหญ่แข็งแกร่งขึ้นอีกหน่อย ทำไมจึงมาสั่งให้เข้าร่วมการแข่งลดน้ำหนัก (Weight loss challenge) ซึ่งทางทีมก็ตอบกลับว่า ไม่มีอะไร เราแค่อยากให้คุณตัวใหญ่ แต่อย่าตัวใหญ่เกินไป ... แม้จะงงๆ แต่ เดวิส ก็เข้าร่วมแข่งขันลดน้ำหนักจริงๆ นั่นแหละ 

คุณค่าของตำนาน

ไมเคิล จอร์แดน ช็อคโลกในวันที่เขาประกาศรีไทร์จากการเล่นบาสเกตบอลหลังคว้าแชมป์ NBA ในปี 1993 โดยเจ้าตัวพุ่งเป้าไปที่การเปลี่ยนเส้นทางเป็นนักเบสบอล ซึ่งก็อย่างที่ทราบกันว่า เป็นการทำความฝันของคุณพ่อที่เสียไปไม่นานให้เป็นจริง

จริงๆ แล้วเขาสามารถทำได้เพราะมันคือสิทธิ์ที่นักกีฬาพึงมี แม้จะทำให้ต้นสังกัดอย่าง ชิคาโก้ บูลส์ ต้องปวดหัวในความแหวกของ "เอ็มเจ" แบบสุดๆ เพราะพวกเขาจะเสียผู้เล่นทีดี่ที่สุดไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

จอร์แดน ไปเล่นให้กับทีมเบสบอล ชิคาโก้ ไวท์ซ็อก ตามที่เขาตั้งใจ แต่ทาง เจอร์รี่ เรนส์ดอร์ฟ ที่เป็นทั้งเจ้าของของ บูลส์ และ ไวท์ซ็อก ก็ยังยอมที่จะจ่ายค่าจ้าง 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเขาควรจะได้จากการเล่นบาสเกตบอลให้กับเขา ทั้งๆ ที่ทีมสามารถไม่จ่ายเงินในส่วนนี้ด้วยเหตุที่เจ้าตัวเลิกเล่นบาสอย่างกระทันหันเพื่อไปเล่นเบสบอลก็ได้

และผลหลังจากนั้นก็อย่างที่ทราบกัน หลังเลิกเล่นไปเกือบ 2 ปี เอ็มเจก็กลับมาเล่นต่อในปี 1995 จนได้ ซึ่งทีมที่เขากลับมาเล่นให้ก็ ชิคาโก้ บูลส์ นั่นแหละ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook