ฟ้าหลังฝนของหงส์แดง

ฟ้าหลังฝนของหงส์แดง

ฟ้าหลังฝนของหงส์แดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ห่างหายไป “5 ปี” แน่นอนครับว่า ต้องมีขาดๆ เกินๆ กันไปบ้างสำหรับผลงานของ ลิเวอร์พูล ในค่ำคืน “บอลยุโรป” ถ้วยหูยักษ์ คัมแบ็กกลับมาอีกครั้ง

คู่แข่งแม้จะเป็นเพียงทีมโนเนมจากบัลแกเรีย ลูโดโกเร็ตส์ ราซกราด ซึ่งนักเตะทั้งทีมไม่มีใครเคยเตะ UCL รอบสุดท้ายมาก่อน

ทว่า ต้องยอมรับครับ ลูกทีมของ จอร์จี้ เดอร์เมนซิเอฟ ไม่ธรรมดากับพลพรรคหงส์แดง ช่วงกำลังแกว่งๆ จากที่เพิ่งแพ้ แอสตัน วิลล่า มา 0-1 ณ แอนฟิลด์แห่งนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ครับ เกมนี้ ลิเวอร์พูล ยังคงไม่มี แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ข่าวล่าสุดกลับมาซ้อมได้แล้วจากการบาดเจ็บตอนไปทำศึกกับทีมชาติอังกฤษ

แต่ 11 คนแรก ปรับเอา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง มาแทน ลาซาร์ มาร์โควิช และนั่นเป็นเพียงตำแหน่งเดียวที่ถูกปรับจากเกมกับวิลล่า

สเตอร์ลิ่ง ต้องพบกับเกมที่ยากลำบาก เพราะคู่แข่งโนเนมจากบัลแกเรียมาดีเหลือเกิน

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกนักที่ฟอร์ม ลิเวอร์พูล จะกระท่อนกระแท่นเหมือนเมื่อวันเสาร์ โดยสาเหตุหลักในมุมมองของผมมี 3 ประการ

1.หงส์แดง เจาะตรงกลาง “มุขเดียว” ไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป และน่าจะจู่โจมริมเส้นซึ่งเป็นอีกพื้นฐานของการเข้าทำบ้าง

2.การขาดนักเตะสไตล์ หลุยส์ ซัวเรซ และสเตอร์ริดจ์ มีผลทำให้หงส์แดงขาดกองหน้าที่ชอบวิ่ง “ตัดหลังแบ็ก” หรือวิ่ง “มุมธง” (Corner flags) ฉีกซ้าย/ขวา หนีไปรับบอล อันจะเปิด “ช่องว่าง” และโอกาสให้มิดฟิลด์เติมจากแถว 2 เข้ามาจู่โจมตรงกลางแทน หรืออย่างน้อยก็จะทำให้การ “เปิดช่อง” เจาะเกมรับคู่แข่งมีความหลากหลายมากกว่า เจาะเรียดบอลสั้นตรงกลางแบบนี้

3.การขาด สเตอร์ลิ่ง ในเกมกับวิลล่า และนัดนี้ที่มีโอกาสได้บอลน้อยไปนิดนึง ทำให้ “สปีด” และจังหวะบอลลิเวอร์พูล ช้าไปเล็กน้อย

คือ ไม่ต้องถึงกับใช้ความเร็วกระชาก 70 หลา จากแดนตัวเองเหมือน อังเคล ดิ มาเรีย จนแมนฯยูไนเต็ดได้ประตูที่ 2 เหนือคิวพีอาร์ หรอกครับ

แค่มีนักเตะที่ “ปรับสปีด” ทีมได้บ้าง เพราะตอนนี้ผู้เล่นอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ค่อนข้างฝืด และ อดัม ลัลลาน่า ยังหาจังหวะที่เหมาะสมกับทีมไม่ได้

ดูอาการของกัปตันเจิดเองละกันว่าโล่งแค่ไหนที่เอาชนะได้

อย่างไรก็ดีครับ “โพสิทีฟ” กลับเป็นนักเตะใหม่อย่าง โมเรโน่, มานกีโญ่ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ที่ต้องยอมรับว่า ปรับตัว และ “ชนะใจ” เดอะ ค็อป ได้อย่างรวดเร็ว

โมเรโน่ มีการเปิดบอลเข้ากลางที่ดี และมีความเร็ว ขณะที่ มานกีโญ่ ไม่ได้เล่นขัดตา และพลาดเกมรับบ่อยเหมือน เกล็น จอห์นสัน

ส่วน “ซูเปอร์มาริโอ้” ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะตั้งแต่ก่อนทำประตูแรกในสีเสื้อลิเวอร์พูลได้ หมอนี่ก็มี “บทเพลง” ขับร้องให้โดยแฟนๆ อยู่แล้ว

นอกจากนี้ “จุดเด่น” ในเรื่องรูปร่าง ความแข็งแกร่ง, ความขยันขันแข็ง และทักษะ พรสวรรค์ที่ดียังนำมาซึ่งสิ่งที่ภาษาฟุตบอลเรียกว่า “ก่อกวน” น่ารำคาญให้แผงหลังคู่แข่ง (Nuisance)

เกรียนโอ้ปลดล็อกแล้ว!

ทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ!!!

ยิ่งพอทำประตูได้ ผมเองก็คิดเหมือนแฟนหงส์ทั่วโลกว่า เราน่าจะได้เห็นความมหัศจรรย์จากกองหน้า 16 ล้านปอนด์ รายนี้มากขึ้น และมากขึ้น

เอาเป็นว่า “ชนะ” เก็บ 3 แต้ม, บาโลเตลลี่ เล่นดี ยิงได้ และสเตอร์ริดจ์ หายเจ็บกลับมาซ้อม

เพียงพอแล้วล่ะครับ และหวังว่าจะเป็นฟ้าหลังฝนจากแมตช์แพ้ “วิลล่า คาบ้าน” ครับ

ไข่มุกดำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook