แชมป์เก่า เชลซี พลาดท่าอกหัก ตกแค่รอบ 4 เอฟเอ คัพ หลังหวดนัดรีเพลย์ โดน เอฟเวอร์ตัน อดีตคู่ชิงเมื่อสองปีก่อนถอนแค้นเอาชนะจุดโทษ หลังจากดวลกันมันหยดจนจบ 120 นาที

ฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2010/11
รอบ 4 นัดรีเพลย์
เชลซี 0-0 เอฟเวอร์ตัน
(ต่อเวลาพิเศษ เสมอ 1-1,เอฟเวอร์ตัน ชนะจุดโทษ 5-4)

เกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ หมดสิทธิ์ใช้งาน เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ติดคัพ ไท ทำให้ต้องปรับทัพส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า กับ ซาโลมง กาลู มาช่วย ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในเกมรุก ส่วน เอฟเวอร์ตัน พกความมั่นใจเต็มเปี่ยม เนื่องจากสถิติ 4 นัดหลังที่พบกับเชลซีไม่แพ้

ทั้งสองทีมเริ่มเกมอย่างเนือยๆ กว่าจะมีโอกาสลุ้นทำประตูกันต้องรอจนถึง น.19 เป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปิดฟรีคิกมาหน้าประตู ฟิล จากีลก้า โหม่งสกัดผิดเหลี่ยมไปชนเสากระเด้งออกมา จอห์น เทอร์รี่ ที่เติมเกมรุกสอดขึ้นมายิงทว่าสุดท้ายบอลข้ามคานออกไป อีก 4 นาทีต่อมาเอฟเวอร์ตันได้ลุ้นบ้าง เชมัส โคลแมน ยิงไกลร่วม 25 หลาบอลไปติดบล็อกของ เจที

น.25 แลมพาร์ด ได้บอลในเขตโทษก่อนเปิดให้ มาลูด้า วิ่งเข้ามาตะบันด้วยเท้าขวา ทิม ฮาวเวิร์ด ที่ถลันออกมาปิดมุมปัดเอาไว้ได้ บอลทะลักไปเข้าทาง ดร็อกบา ซ้ำดาบสองหลุดออกนอกกรอบ

ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงโอกาสยังเป็นของเชลซี ดร็อกบา พลิกบอลหลบ จากีลก้า ก่อนเปิดให้ มาลูด้า ได้กดเต็มเหนี่ยมบอลไปตรงตัว ฮาวเวิร์ด

น.33 มาลูด้า โยนบอลให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โหม่งไปชนตัว ลีออน ออสแมน

ท้ายครึ่งแรกเชลซีน่าจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่ รามิเรส ได้บอลทะลุเข้าไปในเขตโทษด้านขวาเป็นจังหวะเดียวกับที่ ฮาวเวิร์ด พุ่งปัดโดนทั้งบอลและคนล้มในจุดโทษ ผู้ตัดสิน ฟิล ดาวด์ ไม่เป่าจุดโทษแถมยังให้ใบเหลืองกองกลางบราซิเลียนข้อหาพุ่งล้มตบตา จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ที่ 0-0

ครึ่งหลังเจ้าถิ่นถอดเอา จอห์น โอบี มิเกล ออกแล้วเติม ไมเคิ่ล เอสเซียง ลงไปเล่นแทน น.55 ดร็อกบา เปิดฟรีคิกทางด้านขวาให้ แลมพ์ส ได้โขกบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว อีก 2 นาทีถัดมาทีมเยือนได้ลุ้นบ้าง เลห์ตัน เบนส์ เปิดบอลจากทางด้านซ้ายให้ ออสแมน ได้โหม่งเต็มหัว ปีเตอร์ เช็ก ไม่พลาดคว้าติดหนึบ

น.64 เจ้าถิ่นพลาดโฮกาสทองได้ประตูนำ รามิเรส พาบอลไปจนสุดเส้นหลังก่อนเปิดให้ แลมพ์ส ยิงโล่งๆ กลางประตู แต่บอลไปติดขา ฮาวเวิร์ด ออกหลังไป และจากลูกเตะมุม มาลูด้า โยนไปเสาไกลให้ อิวาโนวิ ยิงด้วยเท้าขวา ฮาวเวิร์ด อีกแล้วที่ช่วยเซฟเอาไว้ได้

น.70 ทีมเยือนถอดเอา ทิม เคฮิลล์ ที่เล่นไม่ออกแล้วส่ง ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ ลงสนามแทน

เกมมามีลุ้นอีกครั้งช่วงท้าย เชลซีเกือบได้เมื่อ มาลูด้า เลื้อยเข้าไปในเขตโทษก่อนจ่ายกลับหลังให้ แลมพ์ส ชิพระยะ 8 หลาข้ามคานนิดเดียว ก่อนจบเกมนาทีเดียวแฟนบอลเจ้าถิ่นช็อคเล็กๆ เมื่อ เบนส์ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ เข้าทาง มารูยาน เฟลไลนี่ ซ้ำเผาขนเข้า แต่ว่ากลายเป็นลูกล้ำหน้าก่อน จบ 90 นาที เสมอกัน 0-0

ช่วงต่อเวลา อันเชล็อตติ ส่ง นิโกล่าส์ อเนลก้า แทน มาลูด้า ส่วน เอฟเวอร์ตัน ส่ง จอห์นนี่ ไฮติงก้า แทน ลีออน ออสแมน

หลังจากลุ้นมานานในที่สุดประรตูแรกของเกมก็เกิดขึ้นเป็นเชลซีขึ้นนำ 1-0 อเนลก้า พลิ้วหลบสองนักเตะทีมเยือนก่อนเปิดจากทางด้านขวามาให้ ดร็อกบา จับบอลจังหวะแรกไม่ดี แต่กลายเปนโชคดีที่เข้าทาง แลมพ์ส วอลเล่ย์เต็มข้อส่งลูกหนังกระทบตาข่าย

น.110 เชลซีส่ง ยูริ ชีร์คอฟ ที่เพิ่งหายบาดเจ็บหลังร้างสนามไปนานกว่า 3 เดือน แทน กาลู

แต่แล้วน.119 แฟนบอลเจ้าถิ่นได้ช็อกจริงๆ เมื่อเอฟเวอร์ตันตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ อิวาโนวิช ทำฟาวล์ใส่ จากีลก้า ทำให้เสียฟรีคิกตรงหัวกะโหลก เบนส์ รับหน้าที่สังหารปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงเสียบมุมบนอย่างสวยงามชนิดที่ ปีเตอร์ เช็ก ทำได้เพียงแค่ใช้สายตามองเท่านั้น จบ 120 นาทีเสมอ 1-1 ต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ

เชลซี ยิงนำไปก่อนจาก แลมพ์ส ก่อนที่ เบนส์ ซัดพลาด และหลังจากนั้นเชลซีมาพลาดคืนบ้างจาก อเนลก้า และ แอชลี่ย์ โคล ก่อนที่กัปตันทอฟฟี่น้ำเงิน ฟิล เนวิลล์ รับหน้าที่สังหารคนสุดท้ายไม่พลาดส่งเอฟเวอร์ตันเข้ารอบ 5 ไปพบกับเร้ดดิ้ง ในกูดิสัน พาร์ค วันอังคารที่ 1 มี.ค.

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, เปาโล แฟร์เรยร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล (ไมเคิ่ล เอสเซียง น.46), แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู (ยูริ ชีร์คอฟ น.110), ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ฟลอร็องต์ มาลูด้า (นิโกล่าส์ อเนลก้า น.91)
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์, เชมัส โคลแมน, มิเกล อาร์เตต้า, มารูยาน เฟลไลนี่, ลีออน ออสแมน (จอห์นนี่ ไฮติงก้า น.95), ทิม เคฮิลล์ (ดินิยาร์ บิลยาเล็ตดินอฟ น.70), เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด (วิกเตอร์ อนิเชเบ้ น.80)

(ภาพจาก Getty Images)

อัลบั้มภาพ เชลซีบอดโทษต่อเวลาเจ๊าทอฟฟี่1-1ร่วงเอฟเอฯ ภาพที่ 12 / 17

เชลซีบอดโทษต่อเวลาเจ๊าทอฟฟี่1-1ร่วงเอฟเอฯ

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

ฟอร์มโหดจัด! แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ไบรท์ตัน สุดยับเยิน 5-0 การันตีอันดับ 2

"บาร์คลีย์" ลงมาซัด! เชลซี บุกเฉือน เลสเตอร์ 1-0 ลิ่วตัดเชือกเอฟเอคัพ

ไม่มียอมกัน! ลิเวอร์พูล บุกหนักเจาะไม่เข้า เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านยัน 0-0

"เลวานดอฟสกี" เบิ้ล! บาเยิร์น มิวนิค เฝ้าถ้ำกด ไฟรบวร์ก 3-1